หลังจากจำหน่ายทั้งรุ่น Wrangler และรุ่น Gladiator จนนิยมมากขึ้นล่าสุดเบลฟอร์ต ออโตโมบิล เตรียมนำ JEEP Grand Cherokee มาขายไทย

Jeep Grand Cherokee เป็นเอสยูวีเจนที่ 5 พร้อมออกไปผจญภัยในโลกกว้างอย่างท้าทายโดยนำรุ่น Grand Cherokee 4Xe Plug In Hybrid เข้ามาขายด้วยหน้าหน้าตาไม่ต่างจากรุ่นเครื่องสันดาปตั้งแต่ ไฟหน้าแนวนอนแบบ Full LED พร้อมไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกัน กระจังหน้าแนวตั้ง 7 ช่อง ตัวตนเด่นที่ไม่มีใครเลียนแบบกลมกลืนกับ ล้ออัลลอยขนาด 21 นิ้ว ไฟท้ายแนวนอน LED และช่องเสียบปลั๊กที่บังโคลนหน้าด้านซ้าย

ภายในพร้อมการตกแต่งหรูกับเบาะนั่งหนังแท้ Palermo คู่หน้าปรับไฟฟ้า 16 ทิศทางรองรับความสบายตลอดการขับขี่ด้วยการนวดและอุ่นเบาะ แผงคอนโซลหน้าที่หรูหรากับออปชันทัยสมัยทั้ง จอสัมผัสขนาดใหญ่ 10.1 นิ้ว พร้อมระบบความบันเทิงแบบ Uconnect 5 รองรับ Apple CarPlay กับ Android Auto แบบไร้สาย มาตรวัดดิจิทัล 10.25 นิ้ว จอแสดงข้อมูลบนแผงคอนโซลหน้า 10 นิ้ว จอเสริมแสดงข้อมูลข้างคนนั่งอีก 10.25 นิ้ว มาพร้อมเสียงเพลงอันไพเราะจากลำโพง 19 จุดจากค่าย McIntosh กำลังขับ 950 วัตต์ เสริมสร้างบรรยากาศภายในด้วยไฟ ambient light แบบ LED เย็นทั้งคันกับแอร์แเยกส่วนอุณหภูมิ 4 โซน และที่ชาร์จมือถือไร้สาย

ขุมพลังที่ขายไทยเป็น เบนซินเทอร์โบ 2.0 ลิตร ให้กำลังมากถึง 274 แรงม้า แรงบิด 400 นิวตันเมตรในภาคเครื่องยนต์จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวและแบตเตอรี่ lithium ionที่มีความจุ 17.3 kWh เมื่อทำงานร่วมกันได้ความแรงมากถึง 380 แรงม้า แรงบิด 637 นิวตันเมตรวิ่งไกลสุดในโหมดไฟฟ้าถึง 52 กิโลเมตร และวิ่งไกลในโหมดน้ำมันและไฟฟ้ารวมกัน 700 กิโลเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.3 วินาทีคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Quadra-Trac II 4×4 พร้อมเฟืองท้ายหลังแบบ rear electronic limited slip-differential (eLSD)

การขับขี่เลือกได้สามทางเลือกทั้งขับแบบ eSAVE Mode, Hybrid Mode และ Electric Mode พร้อมโหมดการขับขี่ 5 อย่างทั้ง Auto, Sport, Rock, Snow, Mud/Sand ช่วงล่างถุงลมแบบ Quadra-Lift adaptive air suspension ในต่างประเทศ JEEP Grand Cherokee 4Xe มีทั้งรุ่น Limited, Trailhawk, Overland และ Summit โดยทางไทยจะนำรุ่นย่อยไหนมาจำหน่ายติดตามได้ที่งาน Motor Expo 2023 ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน-11 ธันวาคมนี้ โดยเปิดตัวและประกาศราคาที่งาน