เปิดตัวในต่างประเทศไปแล้วสำหรับ Toyota Hilux REVO GR Sport กระบะที่อัปความดุความโหดแต่แฝงไปด้วยความแรงจากตระกูล Gazoo Racing

จนทำให้ชาวไทยเรียกร้องว่าอยากให้มาล่าสุดก็ได้มาโชว์ตัวที่เมืองไทยเป็นครั้งแรกดุดันกว่าตั้งแต่ กระจังหน้าทรงหกเหลี่ยมออกแบบใหม่โดยมีปีกซ้าย-ขวา พร้อมตราอักษร Toyota ติดตรา GR รับกับไฟหน้า Bi-LED และไฟ LED Daytime ในโคมเดียวกันกันชนหน้าออกแบบใหม่รองรับความกว้างของตัวรถที่ใหญ่กว่ารุ่นปกติด้วยสีเดียวกับตัวรถ คิ้วขอบไฟตัดหมอกหน้า LED ออกแบบใหม่สีดำเข้ม คิ้วใต้กันชนหน้าสีเงินขนาดใหญ่กลมกลืนกับตัวรถพร้อมแผ่นกันกระแทกใต้เครื่องยนต์

ด้านข้างใหญ่โตขึ้นกับกับคิ้วขอบล้อทรงจัมโบ้สีดำรองรับการขยายของความกว้างช่วงล้อทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ล้ออัลลอยสีดำลายใหม่ขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางแบบ all-terrain บันไดข้างออกแบบแนวแท่งสีดำใหม่ลุยดุดันขึ้น ไฟท้ายแบบ LED แบบเลข 3 Light Guiding ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED กระจกมองข้างพร้อมไฟเลี้ยวตกแต่งสีดำเมทาลิค เสาอากาศแบบครีบฉลาม สัญลักษณ์ GR Sport บริเวณด้านท้าย สปอร์ตบาร์ดีไซน์พิเศษ

มีการขยายในทุกส่วนตั้งแต่ความยาว 5,320 มิลลิเมตร ความกว้าง 2,020 มิลลิเมตร ความสูง 1,880 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 3,085 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหน้า 1,675 มิลลิเมตร ความกว้างช่วงล้อหลัง 1,705 มิลลิเมตรความสูงใต้ท้องรถ 265 มิลลิเมตร และความจุถังน้ำมัน 80 ลิตร

ภายในมาในโทนดำตกแต่งด้วยสีเงินรมดำที่แผงคอนโซลหน้า เบาะนั่งกึ่งหนังแท้ผสมหนังกลับแบบเจาะรูสีดำเดินด้ายสีขาว พนักพิงศีรษะติดตรา GR แผงคอนโซลหน้าและแผงช่องแอร์หน้า ตกแต่งด้วยสีเงินรมดำ และสีดำเมทาลิค ส่วนแผงประตูขึ้นรูปสีดำบุหนังพร้อมแถบสีเงินรมดำและสีดำเมทาลิค พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 3 ก้านดีไซน์สปอร์ตหุ้มหนังเดินด้ายแดง พร้อมตกแต่ง Center Mark สีแดงส่วนบนของพวงมาลัย ติดตรา GR ที่ฐานแกนพวงมาลีย กุญแจ Smart Key ปุ่ม Push Start

แป้นคันเร่งและแป้นเบรกตกแต่งด้วยสีเงินสปอร์ต มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ TFT เครื่องเสียงจอสัมผัส 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay Android Auto ลำโพง 6 จุด เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone แยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา ช่องต่อไฟฟ้ากระแสสลับ AC 220V และพิเศษกับเข็มขัดนิรภัยเส้นสีแดงเพิ่มความดุกร้าวมากขึ้น

เครื่องยนต์ยกมาจาก Toyota Fortuner GR Sport ด้วยพลังดีเซลเทอร์โบแปรผัน 2.8 ลิตร 1GD-FTV 224 แรงม้าแรงบิด 550 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมระบบ Sequential Shift และ Paddle Shift ขับเคลื่อน 4 ล้อ Part Time แบบ Shift-On-The-Fly พร้อมช่วงล่างพัฒนาใหม่ปรับช่วงล่างอิสระปีกนกคู่พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลงหน้าให้ทนทานขึ้น เพิ่มความแข็งของสปริงโช้คหน้า ด้านหลังแบบแหนบแผ่นซ้อน 5 แผ่น

โช้คแอพซอพเบอร์แบบโมโนทูบแบบใหม่ รองรับความโหดเต็มขั้น พร้อมดิสก์เบรกหน้า คาลิเปอร์สีแดง 4 พอต ขนาด 338 มิลลิเมตร และดิสก์เบรกหลัง คาลิเปอร์ 1 พอต ขนาด 312 มิลลิเมตร โดยเตรียมที่จะเปิดตัวช่วงปีหน้า