ผ่านเวลาไปกว่า 16 ปี นับตั้งแต่การเปิดตัวเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2008 แต่เราก็ยังไม่เห็นวี่แววว่า Nissan GT-R จะได้รับการปรับโฉมใหญ่จริงๆจังเลยๆสักครั้ง
อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่การเผยโฉม Nissan Hyper Force Concept เมื่อปลายปี 2023 ที่ผ่านมา เหล่าสาวกก็อดซิลล่า ต่างฮือฮาและอึกทึกกันว่า มันอาจจะเป็นต้นแบบของ “Nissan GT-R” รุ่นใหม่ที่พวกเขารอคอยกันมาเนิ่นนาน หลังตัวรถรหัส “R35” ได้ถูกลากขายมานานกว่าเกือบ 16 ปี (แม้มันจะมีการอัพเดทเล็กๆน้อยๆอยู่เรื่อยๆก็ตาม)
เพราะแม้จะยังเป็นรถต้นแบบ แต่มันก็เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่น่าสนใจ และได้รับการส่งต่อมาจาก R35 ทั้ง รูปทรงตัวรถ แบบหน้ายาว ท้ายลาด พร้อมเสา A แบบตัดขึ้นจากแนวฝากระโปรงอันโดดเด่น ไม่เพียงเท่านั้น ยังใช้ไฟท้ายแบบโดนัท 4 วง และสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้มันยิ่งขึ้นไปอีก
นั่นทำให้ย่อมมีผู้ที่สนใจมากๆ เริ่มถามต่อกันทันทีว่า แล้วทางค่ายจะพร้อมขายมันเมื่อไหร่ ? หรือสุดท้ายจะเป็นแค่รถต้นแบบที่มีไว้เพื่อให้ลูกค้าวาดฝันไปวันๆเท่านั้น ?
จากคำถามในข้างต้น Giovanny Arroba หัวหน้าฝ่ายงานออกแบบของ Nissan ที่รับผิดชอบในการออกแบบตัวรถ Hyper Force Concept เปิดเผยแบบเปรยๆกับสื่อ AutoCar ว่า “รูปร่าง, ทรวดทรง และ ขนาด ไม่ได้สร้างขึ้นจากจินตนาการเพียงอย่างเดียว”, “มันอาจดูบ้าบอ แต่คือฝันที่ชัดเจนว่าจะต้องทำให้เป็นจริงให้ได้ภายในสิ้นทศวรรษนี้”
อย่างไรก็ดี แม้ขุมกำลังของมัน จะถูก Nissan ระบุว่า จะสามารถทำได้สูงสุดราว 1,360 แรงม้า PS (1,000 kW) แต่ด้วยความที่มันขุมกำลังพลังงานไฟฟ้า 100% จึงทำให้เหล่าสาวกที่ส่วนใหญ่เป็นเหล่าผู้ซึ่งหลงไหลไปกับเสียงคำราม และแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ 6 สูบ (จะสูบเรียงหรือจะสูบวีก็แล้วแต่) เริ่มตขิดตะขวงใจ
ซึ่งนาน Arroba ก็ได้ให้คำตอบเสริมอีกว่า “ในบางขั้วมุม, บางคนก็บอกว่าขอไม่เอารถซุปเปอร์คาร์ไฟฟ้าและบอกว่าเราควรทำมันออกมาพร้อมขุมกำลังเครื่องยนต์สันดาปภายใน” แต่กับเหล่าผู้ซื้อที่เป็นคนรุ่นใหม่กลับให้การตอบรับ ไปในทาง “ค่อนข้างบวก” พอสมควร
นอกจากนี้ นาย Makota Uchida ผู้บริหารสูงสุดของแบรนด์ ที่แม้จะไม่ได้ออกมายืนยัน ว่าจะทำ Hyper Force Concept ออกมาขายจริงๆหรือไม่ ? แต่ก็ระบุว่า หากลูกค้าต้องการ บริษัทก็พร้อมที่จะทำมันออกมา แม้จะมีลูกค้าบางส่วนไม่ถูกใจกับการใช้ขุมกำลัง EV ในรถยนต์ตระกูล GT-R ก็ตาม
“เราคือบริษัทที่บุกเบิกยานยนต์ไฟฟ้า และมันคือสิ่งที่เราต้องการจะทำ” Uchida กล่าว “ผู้คนต้องการความเปลี่ยนแปลง และพวกเขาก็ไม่ได้มองที่ยานพาหนะเหมือนในอดีตและมองในเรื่องความต้องการ กับการดำเนินชีวิต, เราได้รับฟังข้อมูลจากลูกค้าว่าพวกเขาคิดยังไง(เกี่ยวกับรถต้นแบบ), นี่ช่วยให้เรามองเห็นแผนงานในอนาคต, ทุกแนวคิดรถต้นแบบ, เราอยากจะส่งมันออกไป(ให้ลูกค้า), เราจำเป็นต้องมีลูกค้าเพื่อทำความเข้าใจ”
สุดท้ายนี้ สิ่งที่จะเป็นเส้นกำหนดว่า Nissan GT-R พลังงานไฟฟ้า จะถือกำเนิดขึ้นได้ในเร็ววันหรือไม่ ? เราอาจจะต้องรอดูกันในเรื่องของเทคโนโลยีแบตเตอรี่ Solid State กันต่อไปว่า มันจะสามารถพัฒนาจนสำเร็จ เหมาะสำหรับการใช้งานจริงมากแค่ไหน
เพราะถ้าหากยังทำให้สำเร็จ ทำให้เหมาะสมกับการเอามาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าตัวแรงตามอุดมคติของ Nissan (รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์ซุปเปอร์คาร์อีกหลายๆแบรนด) ไม่ได้ เราก็คองมีแต่จะต้องรอคอยกันต่อไปอย่างไรเป้าหมายอยู่ดี