Apple ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี ที่ช่วงหนึ่งก่อนหน้านี้ เคยมีข้อมูลบ่งชี้ว่าพวกเขาเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานไฟฟ้าด้วยเช่นกัน แต่จากข้อมูลล่าสุดที่เราได้รับรายงานมา กลับดูเหมือนว่ามันอาจไม่เป็นเช่นนั้นเสียแล้ว
จากการรายงานโดยสื่อ Carscoops ระบุว่าพวกเขาได้รับข้อมูลมาว่า ในตอนนี้ บริษัทด้านเทคโนโลยียักกษ์ใหญ่อันดับหนึ่งของโลกอย่าง Apple ได้ตัดสินใจเลิกจ้างพนักงานที่เกี่ยวข้อง และยุบโปรเจ็กท์การพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของตนเองแล้วเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ได้ซุ่มเงียบพัฒนาเป็นการภายในกันมา (โดยไม่มีการประกาศข้อมูลที่แน่ชัดใดๆสู่สาธารณะชนนับตั้งแต่ต้น) ตั้งแต่ปี 2014
โดยหากย้อนไปก่อนหน้านี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แหล่งข่าวต้นทางระบุว่า มีรายงานที่เปิดเผยถึงช่วงเวลา “คาบลูกคาบดอก” ของโปรเจ็กท์พัฒนาผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าจาก Apple ว่าพวกเขา “จะไปต่อ หรือ พอแค่นี้” กันดี ซึ่งท้ายที่สุด หลังการหารือกันภายในบริษัท กับเหล่าผู้ถือหุ้นต่างๆ ก็กลายเป็นว่าพวกเขาตัดสินใจที่จะยุบโปรเจ็กท์นี้ทิ้งไป แม้จะมีการลงทุนไปแล้วหลายพันล้านดอลล่าร์ก็ตาม
และจากการตัดสินใจยุบโปรเจ็กท์ในครั้งนี้ ทำให้มีพนักงานไม่น้อยกว่า 2,000 คน จำเป็นจะต้องถูกเลย์ออฟ แต่ก็มีบางส่วนที่ได้รับการยื่นข้อเสนอสัญญาการทำงานฉบับใหม่ เพื่อให้พวกเขาไปอยู่ในโปรเจ็กท์การพัฒนาผลิตภัณฑ์อื่นๆ โดยเฉพาะโปรเจ็กท์ที่เกี่ยวข้องกับระบบ AI ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่ทาง Apple ตั้งใจพัฒนามากที่สุดในตอนนี้ และตั้งใจไว้ในตอนแรกว่าจะให้มันเป็นจุดขายของรถยนต์ไฟฟ้าที่พวกเขาจะทำออกมา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า ในความเป็นจริงแล้ว โปรเจ็กท์พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าจาก Apple ไม่ได้รับการสนับสนุนเท่าที่ควรจากผู้บริหารระดับอาวุโสหลายคนมากสักพักใหญ่แล้ว จนถึงขั้นผลักดันให้ยุบๆโปรเจ็กท์ทิ้งไปเสียมาโดยตลอด แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีผู้บริหารบางส่วนที่พยายามผลักดันให้โปรเจ็กท์นี้ยังคงดำเนินต่อไปได้อยู่ ด้วยการปรับกลยุทธ์ต่างๆในการพัฒนามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนกำหนดวางขาย หรือลดเพดานเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติให้ต่ำลง เพื่อความง่ายในการพัฒนา
อย่างไรก็ดี ด้วยความกังวลในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของลูกค้า ที่ตอนนี้แม้แต่ผู้ผลิตยานยนต์ในตลาดหลักเอง ก็ยังต้องชลอความสำคัญในการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าลง, รวมถึงความไม่มั่นใจของสาธารณะชนต่อเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยตนเองของรถยนต์ที่ยังมีมากอยู่ เพราะอุบัติเหตุหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้ ความกังวลในเรื่องของการเก็บเกี่ยวกำไรคืนจากเทคโนโลยีสตาร์ทอัพที่ตนเองต้องใช้งบในการลงทุนพัฒนาไปค่อนข้างสูง และยังจะต้องลงทุนต่อไปอีกมากเพื่อทำให้รถพร้อมขายจริง จึงทำให้ทาง Apple ต้องตัดสินใจฝังโปรเจ็กท์เอาไว้ใต้พรมในที่สุด
และแม้มันอาจจะดูน่าเสียดายในสายตาของเหล่าสาวก Apple แต่ทางฝั่งเหล่านักลงทุนในตลาดหุ้น กลับดูเหมือนจะพอใจกับการตัดสินใจนี้ เพราะในทันทีที่ข่าวคราวกันพับโปรเจ็กท์พัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของทางบริษัทถูกเผยแพร่ออกมา หุ้นของบริษัทก็มีมูลค่าสูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในทันที