Kia AD

Home » MG2 ซิตี้คาร์พลังไฟฟ้า 100% อาจโผล่ปี 2025

Kia AD

ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

MG2 ซิตี้คาร์พลังไฟฟ้า 100% อาจโผล่ปี 2025

อาจจะจริงอยู่ว่า MG ประสบความสำเร็จในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเป็นอย่างมากกับเจ้า MG4 แต่ด้วยความที่มันจัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ขนาด Compact Car มันจึงอาจจะยังตอบโจทย์ผู้ใช้ในเมืองจ๋าๆได้ดีไม่พอ และทางค่ายจึงอาจมีแผนที่จะออกน้องเล็กของมันเพิ่ม ซึ่งคาดว่าจะใช้ชื่อ MG2

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เป็นข้อมูลที่ปรากฏขึ้น ระหว่างการจัดงานเปิดตัว All-New MG3 ณ งาน Geneva Motor Show 2024 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมันยังเป็นข้อมูลจากผู้บริหารระดับสูงของทาง MG อย่างนาย David Allison หัวหน้าฝ่ายวางแผน และการผลิต ที่ระบุต่อสื่อ Auto Express ว่าตอนนี้ทางบริษัทกำลังพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กรุ่นใหม่กันอยู่ ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เห็นรถต้นแบบกันแล้ว และคาดว่ามันอาจจะได้รับไฟเขียวให้ผลิตจริงในเร็วๆนี้

“บางทีอาจจะในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า หรือในอีกราวๆ 18 เดือน” ซึ่งหมายความว่าตัวรถร่างขายจริง อาจเผยโฉมภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

ในส่วนของการพัฒนาตัวรถ สามารถเป็นไปได้ทั้ง 2 มุม นั่นคือ อาจเป็นการนำเอารถ MG3 ที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อสัปดาห์ก่อน มาดัดแปลงใหม่ แล้วใส่แบตเตอรี่ กับมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไป ซึ่งแน่นอนว่าข้อดีก็คือการประหยัดต้นทุน และทำให้ทางค่ายสามารถวางจำหน่ายรถในราคาย่อมเยาเข้าถึงง่าย

ส่วนอีกทางคือการนำเอาแพลตฟอร์ม Modular Scalable Platform มาพัฒนาตัวรถขึ้นใหม่ ซึ่งแนวทางนี้อาจสิ้นเปลืองต้นทุนเยอะกว่าแนวทางแรก แต่มันก็ไม่ได้มากมายเท่าไหร่นัก เพราะมันก็คือแพลตฟอร์มที่ใช้ในการสร้าง MG4 อยู่แล้ว และอย่างน้อยมันก็น่าจะสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้มากกว่า เพราะทางแบรนด์สามารถการันตีได้ว่าเจ้า MG2 จะเป็นรถยนต์อีกหนึ่งคันของแบรนด์ ที่ได้ชื่อว่าเกิดมาเพื่อการเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ไม่ว่ารูปแบบการพัฒนาตัวรถจะเป็นอย่างไร แต่เป้าหมายสำคัญของตัวรถรุ่นนี้ ยังไงก็จะต้องเน้นไปที่การทำราคา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อของเหล่าลูกค้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ดังคำกล่าวของ Allison “ทุกคน(ผู้ผลิต)ล้วนมองพื้นที่ตรงนั้นในตอนนี้, ตลาดรถ B Segment หรือต่ำกว่า, กลุ่มรถที่ยาวไม่เกิน 4 เมตร, พร้อมราคาที่ต้องไม่เกิน 20,000 ยูโร (ราวๆ 777,000 บาท)”

“ถ้าหากทุกคนเลือกที่จะทำแบบนั้น, เราก็ควรจะอยู่ตรงนั้นด้วย, มันยังมีช่องว่างและโอกาสกับรถที่ราคาไม่เกิน 20,000 ปอนด์ (ราวๆ 900,000 บาท), ด้วยส่วนผสมของ ระยะทาง, ขนาดตัวรถ, และราคา, ถ้าคุณทำทั้งสามอย่างได้ดีไปพร้อมกัน, คุณก็ชนะ”

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.