ทวีปยุโรป ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มประเทศตัวตั้งตัวตีสำคัญในเรื่องของการผลักดันให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า จนยอดขายยานพาหนะกลุ่มนี้มีตัวเลขสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงหลังมานี้ กลับดูเหมือนจะไม่ได้เป็นแบบนั้นเท่าไหร่นัก

เพราะจากรายงานยอดขายรถยนต์ในทวีปยุโรปช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผลปรากฏว่าตัวเลขยอดขายรถยนต์รวมในตลาดทั้งหมดกว่า 1,031,875 คัน กลับเป็นการหดตัวลงไปราว -5.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน ทั้งๆที่ยอดขายรถยนต์รวมของเดือนมกราคม และกุมภาพันธ์ปี 2024 มีตัวเลขสูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปี 2023

ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือ ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าล้วนในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน กลับลดลงมากกว่ายอดรวม นั่นคือหายไป -11.3% หรือหล่นมาอยู่ที่ 134,397 คัน และยังทำให้ส่วนแบ่งการตลาด ลดลงจาก เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ที่ทำได้ 13.9% เหลือ 13.0% ในเดือนมีนาคมปีนี้ แม้ว่าตอนนี้ชาวยุโรปจะตัวเลือกรถยนต์ไฟฟ้าให้ตัดสินใจซื้อเยอะกว่าเดิมมากแล้วก็ตาม

ในทางกลับกัน ลูกค้าที่ตั้งใจจะใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรืออาจจะมีรถยนต์ไฟฟ้าอยู่แล้ว แต่เริ่มเห็นข้อสังเกตในการใช้งานของรถยนต์กลุ่มนี้ในบางประการ ก็ได้หันไปซื้อรถยนต์ขุมกำลังลูกผสม หรือ รถยนต์ไฮบริดมากกว่าแทน จนทำให้ยอดขายของรถยนต์กลุ่มดังกล่าว มีอัตราการเติบโตมากขึ้นกว่า +12.6% และยังช่วยทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 24.4% ในเดือนมีนาคมปี 2023 เป็น 29% ในเดือนมีนาคมที่พึ่งผ่านพ้นมานี้

แต่ถึงกระนั้น ในฝั่งรถยนต์กลุ่ม ปลั๊ก-อิน ไฮบริด กลับมียอดขายที่ลดลงไปราวๆ -6.5% และยังมีส่วนแบ่งการตลาดที่ลดลงเล็กน้อยเหลือ 7.1% แทน (เดิมในเดือนมีนาคม ปี 2023 อยู่ที่ 7.2%) ไม่ได้โตไปกับรถยนต์ไฮบริดข้างต้นแต่อย่างใด

ส่วนยอดขายของกลุ่มรถยนต์สันดาปภายในล้วนเอง ก็ตกลงจากเดิมด้วยเช่นกัน โดยหากเป็นตัวรถขุมกำลังเครื่องยนต์ดีเซล ก็จะพบว่ามีการหดตัวลงกว่า -18.5% แต่ทั้งนี้ มันก็ยังสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดได้ 12.4% ซึ่งถือว่าหายไปจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่เคยทำได้ 14.4% เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ขณะที่รถขุมกำลังเบนซินล้วนแม้จะมียอดขายที่ลดลงเช่นกัน แต่ก็ลดลงน้อยกว่ารถยนต์ไฟฟ้าล้วน ด้วยตัวเลข -10.2% และก็ยังคงเป็นตลาดใหญ่ที่สุดขอองผู้ใช้รถยนต์ในยุโรปตามเดิม ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 35.4% แม้จะลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันที่เคยทำได้ 37.4% ก็ตาม