ญี่ปุ่นเป็นที่แรกของโลกขายเวอร์ชันพวงมาลัยสำหรับ Toyota Land Cruiser Prado เจนใหม่ เจนที่ 5 สานต่อจากเจนที่แล้วขายลากยาวกว่า 14 ปี
.ในรหัสใหม่ 250 ดีไซน์ภายนอกเน้นเหลี่ยมสันบึกบึนผสมกับความคลาสสิกของ Toyota Land Cruiser 40 และ FJ Cruiser เข้าไว้ด้วยกันอย่างเช่นตั้งแต่ กระจังหน้าพร้อมตราตัวอักษร Toyota ไฟหน้า LED 3 ดวงทันสมัย ส่วนขอบบนเป็นไฟ DRL แบบ LED หรือแบบทรงกลม LED แบบ Bi-PES type พร้อมไฟ DRL ล้อมกรอบไฟหน้าพร้อมไฟตัดหมอกหน้า LED ในชุดกันชนหน้าทูโทน
กระจกมองข้างแนวตั้ง ราวหลังคา บันไดข้างแบบกัดลาย เสาอากาศครีบฉลาม หลังคาซันรูฟที่เลือกได้ทั้งแบบธรรมดาและพาโนรามิกบานใหญ่ ด้านท้ายติดตั้ง ไฟท้าย LED แนวตั้ง กรอบป้ายทะเบียนติดตรา Toyota พร้อมกันชนหลัง ล้ออัลลอยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 18 นิ้ว พ และขนาดใหญ่ 20 นิ้ว พื้นฐาน TNGA-F body-on-frame เดียวกับ LEXUS GX
ภายในมีให้เลือกทั้งแบบสามตอนเจ็ดที่นั่งและสองตอนห้าที่นั่งปรับและพับได้ตามความต้องการขนของได้อย่างจุใจ มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอ MID สีตั้งแต่ขนาด 7 นิ้ว กับ ขนาดใหญ่สุด 12.3 นิ้ว จอสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงไร้สายทั้ง Apple Carplay และ Android Auto พร้อมช่องแอร์ใต้จอสัมผัส ติดตั้งลำโพงคุณภาพ 10 กับ 14 จุดจาก JBL จุดรอบคัน ที่เสียบชาร์จ USB-C 2 จุด USB-A 1 จุด ที่ชาร์จมือถือไร้สาย หัวเกียร์ดีไซน์กะทัดรัดจับกระชับพร้อมเบรกมือไฟฟ้ากับ Auto Hold พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันสามก้าน
เครื่องยนต์มีให้เลือกทั้ง ดีเซลเทอร์โบแปรผัน 1GD-FTV ขนาด 2.8 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Direct Shift และเบนซินย 2.7 ลิตร Dual VVT-I 2TR-FE 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 246 นิวตันเมตร คู่กับเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Super ECT
ทั้งคู่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ Full Time ที่มีระบบ Multi-Terrain Select ตรวจพื้นถนนโดยมีโหมดลุยประกอบด้วย Auto, Dirt, Sand, Mud, Deep Snow และ Rock และ Crawl Control ควบคุมความเร็วอัตโนมัติบนเส้นทางโหด พร้อมระบบเพืองท้ายกลางแบบ TORSEN LSD ที่ช่วยกระจายแรงบิด ระหว่างล้อหน้าและหลัง ให้สัมพันธ์กับสภาวะในการขับขี่โดยอัตโนมัติ เพื่อการทรงตัวและการยึดเกาะถนนดีเยี่ยม
พร้อมช่วงล่าง Adaptive Variable Suspension (AVS) สามารถลุยได้ทั้งทางวิบากและทุกสภาพถนน รวมถึงปรับในส่วนพวงมาลัยไฟฟ้า EPS ลดการกระตุกเมื่อขับบนถนนขรุขระ บังคับเลี้ยวแบบคมขึ้น พร้อมระบบควบคุมเฟืองท้ายหน้าและหลัง (ออปชันเสริม) Differential Lock มีฟังก์ชัน Stabilizer Disconnect Mechanism (SDM) ปรับตัวกันโคลงให้เหมาะสมกับสถานการณ์การขับขี่แบบต่างๆ
เบื่องต้นขายญี่ปุี่นสี่รุ่นย่อยทั้งรุ่น GX, VX และ ZX เริ่มต้น 5,200,000- 7,350,000 YEN หรือราว 1,245,000-1,759,000 บาท เป็นราคาไม่รวมภาษีนำเข้าของไทย