หลังจากที่ไทยเปิดตัวเป็นที่แรกกับหน้าใหม่ปรับโฉมของ Mitsubishi Pajero Sport ล่าสุดออสเตรเลียเปิดตัวเป็นรายถัดไปด้วยหน้าตาแบบเดียวกับไทย
เริ่มที่กระจังหน้าทรงใหม่ในชุด Dynamic Shield ออกแบบใหม่โครเมียมผสมสีดำมีช่องเล็กๆสี่จุด ช่องระบายอากาศใต้กระจังออกแบบใหม่สไตล์รังผึ้ง และคิ้วชายล่างสีเงินใหม่ ล้ออัลลอยหกก้านใหม่ขนาด 18 นิ้ว และกันชนหลังใหม่
ส่วนรุ่น GSR ตกแต่งโทนดำทั้งคันตั้งแต่ กระจังหน้ารถสีดำปะโลโก้ ‘PAJERO SPORT’ สีดำบนฝากระโปรงหน้า ตกแต่งสีดำเกือบทั้งคันไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้าโปรเจคเตอร์รมดำ ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ชุดตกแต่งใต้กันชนหน้า-หลัง ราวหลังคา สปอยเลอร์หลัง และ เสาอากาศแบบครีบฉลาม และทุกรุ่นมาพร้อมประตูท้ายไฟฟ้าพร้อมระบบแฮนด์ฟรี ที่สามารถเปิด-ปิดได้ 5 รูปแบบ
ภายในปรับใหม่ด้วยจอแสดงผลการขับขี่ใหม่แบบ Full Digital ขนาด 8 นิ้ว คมชัด ใช้งานง่าย ชุดเครื่องเสียงระดับพรีเมียม 8 ลำโพง พร้อมพาวเวอร์แอมป์ ให้เสียงชัดรอบทิศทาง หน้าจอบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง ขนาด 12.1 นิ้ว พร้อมรีโมท หูฟังอินฟราเรด และเชื่อมต่อ HDMI และ USB
หน้าจอระบบสัมผัส 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อผ่านสมาร์ทโฟน (SDA) Apple Carplay & Android Auto และระบบเชื่อมต่อ Bluetooth แฮนด์ฟรีและรองรับระบบสั่งการด้วยเสียง ระบบเบรกมือไฟฟ้าและระบบหน่วงแรงเบรกอัติโนมัติ (Brake Auto Hold) เครื่องปรับอากาศอัตโนมัติแยกอุณหภูมิซ้าย-ขวา Dual Zone พร้อมช่องแอร์บนหลังทั้งตอน 2 และตอน 3
เลือกได้ทั้งแบบ 5 ที่นั่งสำหรับรุุ่น GLX กับ 7 ที่นั่งตั้งแต่รุ่น GLS จนถึงรุ่นท็อป GSR เพิ่มออปชันปรับสีสันใหม่เช่นสีทูโทน ดำ-แดงเบอร์กันดี สลับการตกแต่งด้วยสีไทเทเนียมรมดำบริเวณขอบประตูและรอบช่องแอร์ พวงมาลัย มัลติฟังก์ชัน หุ้มหนังรูปแบบใหม่ จับกระชับมือมากยิ่งขึ้นพร้อม Paddle Shift ระบบฟอกอากาศบริสุทธิ์ในห้องโดยสาร nanoeX™
ผู้โดยสารยังได้รับความสะดวกสบายอย่างเต็มที่ด้วยเบาะหนังสังเคราะห์ออกแบบลาย Diamond Cut พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน (Heat Guard) เบาะคู่หน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้าด้านเบาะผู้ขับขี่
ขุมพลังยังคงเครื่องเดิมกับดีเซลเทอร์โบแปรผัน MIVEC รหัส 4N15 ขนาด 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตรจับคู่กับ เกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด Sport Mode สามารถในการลากจูงได้สูงสุด 3.1 ตันลุยมั่นใจกับ Super Select 4WD II แบ่งเป็นสี่โหมดสำคัญ ได้แก่ Gravel, Mud/ Snow, Sand และ Rock พ่วงด้วยเฟืองท้ายแบบ Diff-lock เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
มีให้เลือก 5 รุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่น GLX, GLS, GLS Deluxe, Exceed และ GSR ขายรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น พร้อมสองสีใหม่สีบรอนซ์เงิน Blade Silver Metallic และสีเทาหลังคาดำ Graphite Grey with Black roof ในราคาไม่รวมค่า On-Road เริ่ม $51,540-$64,840 หรือราว 1,249,000- 1,569,000 บาท
