Kia AD

Home » 2025 BMW M2 หน้าเดิม เพิ่มพละกำลัง รั้งออพชัน “เกียร์กระปุก”

Kia AD

Suzuki AD

รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

2025 BMW M2 หน้าเดิม เพิ่มพละกำลัง รั้งออพชัน “เกียร์กระปุก”

หลังการปรับโฉม BMW M3 ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ทางแบรนด์เยอรมันยังคงอัพเดทผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง ด้วยการเปิดตัว 2025 BMW M2 ซึ่งหากมองจากหน้าตาเพียงอย่างเดียว คุณอาจพบว่ามันไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก

ซึ่งนั่นก็ดูไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก เพราะหากมองแค่เปลือกนอกเพียงอย่างเดียว BMW M2 รุ่นปี 2025 ที่คุณเห็นอยู่ตอนนี้ ก็มีเพียงความเปลี่ยนแปลงเล็กๆน้อยๆเท่านั้นที่ต่างไปจากเดิม นั่นคือปลายท่อไอเสียแบบออก 4 รู ที่ถูกทำสีดำออกมาจากโรงงานตั้งแต่แรก ไม่ได้เป็นปลายท่อสีเงินอีกต่อไป และปรับดีไซน์โลโก้ประจำรุ่นที่กระจังหน้ากับฝากระโปรงท้ายใหม่เล็กน้อยเท่านั้น นั่นคือเปลี่ยนจากสีเงินธรรมดาๆ เป็นสีเทาเข้มเช่นกัน

เท่ากับว่าหากคุณใช้รถตัวปี 2023-2024 ก็สามารถตีเนียนเป็นรถปี 2025 ได้ง่ายๆ แค่เปลี่ยนปลายท่อ กับเปลี่ยนสีโลโก้ประจำรุ่น แค่นั้นเอง

ในส่วนภายในห้องโดยสาร กลับถือว่าได้รับการเปลี่ยนแปลงงานออกแบบมากกว่าภายนอกพอสมควร ทั้งจอแสดงผลข้อมูลตัวรถและระบบอินโฟเทนเมนท์แบบ Curve Screen ที่ได้รับการอัพเดทเฟิร์มแวร์เป็น BMW OS 8.5 พร้อมระบบ iDrive 8.5 ซึ่งมีการเพิ่มฟังก์ชัน ระบบปรับอากาศ, ระบบควบคุมความร้อนเบาะและพวงมาลัย และอื่นๆเข้าไป ทำให้ปุ่มควบคุมระบบต่างๆเหล่านี้ที่เคยอยู่บนคอนโซลหน้าหายไปด้วย และทำให้ภายในตัวรถดูสะอาดตามากขึ้น

และเช่นเดียวกับรถยนต์รุ่นอื่นๆที่เป็นตัวแรงของปี 2025 นั่นคือมันจะมาพร้อมกับพวงมาลัยแบบตัดตูด ในแบบที่รถสปอร์ตควรจะเป็นสักที และยังมีการใส่แถบสีแดง หรือ Center Mark มาให้ด้วย เพื่อเสริมภาพลักษณ์ดุดันแบบรถซิ่งอย่างเต็มตัวมากกว่าเดิม

นอกจากหน้าตาภายนอกที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย (น้อยจริงๆ) กับภายในห้องโดยสารที่ถูกปรับให้ทันสมัยมากขึ้น เครื่องยนต์เบนซิน 6 สูบเรียง 3.0 ลิตร เทอร์โบคู่ ของมัน ก็ยังได้รับการปรับจูนใหม่จนได้แรงม้าสูงสุดมากขึ้นเป็น 480 PS ที่ 6,250 รอบ/นาที หรือเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกมากกว่า 20 แรงม้า PS

ส่วนแรงบิดเอง ก็มีการปรับเพิ่มขึ้นเป็น 600 นิวตันเมตร ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด แต่สำหรับสายซิ่ง ที่ยังคงชอบคลัทช์เท้า สับเกียร์ 6 สปีด ด้วยตนเอง จะยังคงถูกล็อคแรงบิดสูงสุดเอาไว้ที่ 550 นิวตันเมตรเท่าเดิม เพื่อความปลอดภัย และความทนทานของชุดคลัทช์

แต่ถึงกระนั้นตัวเลขแรงบิดสูงสุดของรถทั้งสองตัวเลืออกระบบส่งกำลัง จะยังคงเกิดขึ้นในย่านรอบกำลังเดียวกัน นั่นคือ ช่วงระหว่าง 2,650 – 6,130 รอบ/นาที ซึ่งถือว่าเป็นย่านแรงบิดที่มีให้เรียกใช้กว้างมากขึ้น จากที่เคยมีย่านรอบแรงบิดสูงสุด ที่ 5,870 รอบ/นาที ส่วนรอบเรดไลน์เอง ก็ยังสูงถึง 7,200 รอบ/นาที ดังเดิม

และจากการปรับจูนเครื่องยนต์ใหม่ ที่ไม่ได้ทำให้ตัวเลขพละกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นมากมายนัก แค่ราวๆ 4.5% ทำให้ตัวเลขอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ของตัวรถ สามารถทำได้ดีขึ้นกว่าเดิมเพียง 0.1 วินาทีเท่านั้น นั่นคือ เหลือ 4.0 วินาที ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และ 4.2 วินาที ในรุ่นเกียร์ธรรมดา

แต่หากว่ากันที่การทำอัตราเร่งจาก 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยย่านกำลังที่กว้างขึ้น จึงทำให้มันสามารถทำเวลาในการเรียกอัตราเร่งดังกล่าวดีขึ้นกว่าเดิมอีก 0.6 วินาที เป็น 12.9 วินาที ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ และ 13.7 วินาที ในรุ่นเกียร์กระปุก

ท้ายสุดคือเรื่องความเร็วสูงสุด ที่จะถูกจำกัดไว้เท่ากัน คือไม่เกิน 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่หากลูกค้าอยากได้ตัวเลขสูงกว่านั้น ก็ต้องซื้อแพ็คเกจปลดล็อคเพิ่มเติม และจะทำให้ตัวเลขความเร็วสูงสุดเพิ่มขึ้นเป็น 285 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทันที

โดยกำหนดการวางจำหน่ายของตัวรถ 2025 BMW M2 ถูกระบุว่าจะเกิดขึ้นทั่วโลกในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่จะถึงนี้ แต่นั่นจะรวมถึงประเทศไทยของเราด้วยหรือไม่ ? ยังต้องรอติดตามกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.