Home » BYD sealion 6 ถล่มตลาดราคานี้ ทำได้อย่างไร
Blog Buster บทความ

BYD sealion 6 ถล่มตลาดราคานี้ ทำได้อย่างไร

เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นที่เรียบร้อยในราคา 939,000 บาท กับ BYD Sealion 6 หรือ อดีต BYD Seal U ที่เข้ามาทำตลาดล่าสุด ในกลุ่ม Compact Crossover Hybrid กับราคา ที่หลายคนได้แต่ … ตกใจ แล้วสบถว่า ถามจริง

BYD sealion 6

ดั้งเดิมที รถยนต์อเนกประสงค์ ระดับ Compact Crossover เป็นรถที่มีการเติบโตจากรุ่นสู่รุ่น โดยเฉพาะตัวยอดนิยม Honda CR-V ซึ่งปัจจุบัน มีราคาตั้งแต่ 1.4 ไปจนถึง 1.8 ล้านบาท พร้อมฟังชั่นพรีเมี่ยมมากมาย ใส่เข้ามาในรถอย่างเต็มที่

ถ้าเทียบกับ รถยนต์จีนด้วยกัน ใกล้เคียงที่สุด น่าจะเป็น Haval H6 PHEV ที่น่าจะออกแนวปาดเหงื่อ เหมือนกันหลังจากเห็นราคา ของ BYD Sealion 6 ออกมา ด้วยราคาต่ำกว่าล้านบาท หาตัวจับยาก จนนำมาสุ่ตั้งคำถามว่า ทำไม BYD ทำราคานี้ ได้ในขณะที่แบรนด์อืน ทำไม่ได้ หรือ ยากจะทำ

ก่อนอื่น เราต้องยอมรับว่า ตัวรถรุ่นนี้มาพร้อม เทคโนโลยี Dm-i ระบบไฮบริดสหกรณ์ของ ทาง BYD ใช้ในรถหลายรุ่น ทั้งเจ้าอุ๋งคันที่เพิ่งเปิดตัว รวมถึงยังมีรถหลายรุ่นอีกมาก ใช้ในรถหลายรุ่น ทำให้ในแง่การผลิต ได้ประโยชน์ในการผลิตจำนวนมาก เืพ่อให้ ต้นทุนต่ำ หรือ Scale Merit นั่นเอง

ไม่เพียงเท่านั้น ในช่วงงานาแถลงข่าว สิ่งที่ ทาง BYD พยายามทชี้ให้สื่อมวลชน เห็น คือของทุกอย่างในระบบขับเคลื่อน ถูกพัฒนาขึ้นมาในบริษัทเอง หรือ ทุกอย่าง เป็น inhouse product ตั้งแต่ เครื่องยนต์, แบตเตอร์รี่ ไปจนถึง มอเตอร์ไฟฟ้า

เมื่อบวกกับการผลิต ออกมา เพื่อใช้กับรถรุ่นอื่นได้ในจำนวนมากๆ ทำให้ การควบคุมราคาต้นทุน อยู่ในจุดที่เหมาะสม และทำได้ถูก แม้ว่าทาง BYD วางเป้า จะผลิตรถรุ่นนี้ในไทย ถึงจะยังไม่ได้เริ่มอย่างเป็นทางการ แถมในระยะแรก ยังใช้การนำเข้าชิ้นส่วนจากจีน ก่อนที่จะหา ผู้ผลิตชิ้นส่วนในไทย

แต่เมื่อเริ่มสายการผลิต และ เริ่มมีการใช้ชิ้นส่วนในไทย หรือ Local Content ในการผลิต เมื่อบวกกับ ความตั้งใจ ของ BYD วางหมากให้ไทย เป็นศูนย์กลางการผลิตรถพวงมาลัยขวา ทั้งป้อนตลาดบ้านเรา รวมถึง เพื่อการส่งออกไปยังตลาดอื่นๆ ใกล้เคียง

ด้วยเหตุ ดังกล่าว น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้ รถรุ่นนี้ มีราคาถูกอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะ เมื่อมันถูกกว่ารถ Compact Crossover แม้แต่ตัวรถสันดาปเพียงๆ ถึง 2-3 แสน เลยทีเดียว

อย่างไรก็ดี , หากวิเคราะห์ ลึกลงไป อีกเหตุผล ที่ทางแบรนด์ ตั้งต้น ด้วยการเริ่มตั้ง ราคาถูก อาจจะด้วยการพยายามเลี่ยงประเด็น การทำสงครามราคาในอนาคต ซึ่งปัจจุบัน หลายอบรนด์ที่มีแนวโน้ม จะผลิตรถยนต์ในไทย เริ่ม ปรับกลยุทธ์ มาใช้แนวทาง ตั้งราคาเหมาะสมตั้งแต่แรก บางแบรนด์ ใช้การตั้งราคายอมเจ็บตอนนี้ ดีกว่าโดนด่า ภายหลัง

ยกตัวอย่าง เช่น Wuling ที่มีการเปิดตัวรถยนต์ Wuling Binguo ออกมาก่อนหน้านี้ ทำราคาจำหน่าย ถูกกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน จนหลายคนถึงกับว้าว อยู่ไม่น้อย

ภายหลังเปิดตัว ทางผู้บริหารของ Wuling ระบุว่า ราคานี้ เป็นราคาที่ตั้งรับกับสงครามราคา โดยใช้การตั้งราคาที่สมเหตุผล กับ การขึ้นไลน์การผลิตในไทย มาตั้งแต่แรก และจะไม่มีการลดราคา ในอนาคตข้างหน้า

อาจเป็นไปได้ว่า ทาง บีวายดี ก็ดำเนินรอยตามเดียวกัน และ นี่อาจเป็นการแสดงเจตจำนงคืว่า ต่อจากนี้ พอกันที สงครามราคา เนื่องจากตอนนี้ ชืื่อเสียงแบรนด์ ก็โดนกัดกร่อนไปมาก แถมยังมีคดีความกับลูกค้าที่รวมตัวกันรุมทึ้งแบรนด์ ทั้งผ่านทางโซเชี่ยล และช่องทางกฏหมายกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ น่าถือโอกาส พยายามกูเ้ความเชื่อมั่นในด้านราคาขาย ที่จะไม่ขึ้นๆ ลง แบบ ตลาดหุ้นอีกต่อไปในคราวเดียว

ไม่มี ADAS อีกเหตุผลหลัก

อย่างไรก็ดี อีกเหตุผลสำคัญในเรื่องนี้ คือ BYD Sealion 6 ไม่มีระบบความปลอดภัยขั้นสูง หรือ ADAS มาให้ใช้

เรื่องนี้ อาจจะไม่ได้เป็นที่สังเกตมากเท่าไรนัก แต่ถือเป็น ปรากฏการณ์ใหม่จากรถยนต์จากจีน ที่เริ่มตัดราคา ด้วยการตัดระบบ ADAS ออกไป ซึ่งเริ่มทำออกมาบ้างในระยะหลัง

แม้ว่าอาจจะมองว่า ในแง่ความปลอดภัยด้อยลง คะแนนดาวการทดสอบชนหดหาย แต่ในรถบางแบบ โดยเฉพาะรถเดินทางไกล หลายคนอาจจะไม่ได้รู้สึกว่าต้องการระบบดังกล่าว การทำรถแนวนี้ เรียกว่าตรงจิตตรงใจ ความต้องการพอสมควร

และในทางเดียวกัน ยังทำให้ลดราคาจำหน่ายในแง่ออพชั่นไปได้อีกระดับหนึ่ง จนเป็นปรากฏการณ์อย่างที่เห็น

มาถึงตรงนี้ การมาของ BYD Sealion 6 นับว่า ทำเรื่องท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะในฐานคนที่เปิดสงครามราคาวันนี้จะเรียกความเชื่อมั่นไก้หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ ราคานี้ ทำเอาคู่แข่งหลายคนน่าจะว้าวุ่นใจไม่น้อย เพราะ เป็นครั้งแรกที่ทำราคาต่ำมา จนแม้แต่ การเปิดตลาดครั้งแรกของ รถกลุ่มนี้ ยังไม่เคยถูกเท่านี้ มาก่อน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.