Home » Mazda EZ-6 จ่อขายทั่วโลก ไม่จำกัด แค่ในจีน
ข่าวต่างประเทศ ข่าวสารยานยนต์

Mazda EZ-6 จ่อขายทั่วโลก ไม่จำกัด แค่ในจีน

ผ่านเวลาไปกว่า 4 เดือน นับจากการเผยโฉมครั้งแรกของ Mazda EZ-6 ในประเทศจีน โดยที่ทางค่ายยังไม่ได้มีการวางขาย ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระแสของตัวรถเงียบเกินไปทางค่ายจึงได้มีการอัพเดทข้อมูลใหม่เกี่ยวกับมันเพิ่มเติม นั่นคือแผนการทำตลาดที่เปลี่ยนไปจากในตอนแรก

ย้อนไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ในช่วงของการเปิดตัว Mazda EZ-6 ณ งาน Beijing Auto Show 2024 ทางผู้บริหารได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าตัวรถยนต์ซีดานขุมกำลังไฟฟ้า 100% คันแรกของแบรนด์ที่ถูกเปิดตัวออกมาในครั้งนี้ จะมีตลาดเป้าหมายแค่เพียงเพื่อวางจำหน่ายในประเทศจีนเท่านั้น

ทว่าล่าสุดทาง Mazda กลับระบุว่าพวกเขาได้ตัดสินใจปรับแผนการตลาดใหม่ โดยจะทำการส่งเจ้ารถยนต์ซีดานรุ่นนี้ออกไปลุยตลาดโลกด้วย โดยเบื้องต้นจะเป็นการนำไปบุกตลาดยุโรปก่อน แต่ยังไม่มีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่าจะถูกนำไปทำตลาดในประเทศใดบ้าง

ขณะเดียวกัน ในฝั่งตลาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา และตลาดอื่นๆในภูมิภาคเอเชียก็ยังไม่มีการเอ่ยถึงใดๆ ไม่ได้มีการปฏิเสธ หรือเปรยไว้ใดๆทั้งสิ้น จึงต้องรอติดตามกันต่อไปอีกสักพักก่อน

สิ่งที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ แม้ตอนนี้รถจะถูกเปิดตัวมานานกว่า 4 เดือน แถมยังมีกำหนดว่าจะถูกวางจำหน่ายในทั้งสองตลาดข้างต้น ช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่ทางค่ายกลับยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทางเทคนิคใดๆของตัวรถออกมาให้ผู้ที่สนใจได้ทำการตัดสินใจใดๆทั้งสิ้น

แต่หากอิงจากข้อเท็จจริงที่ว่า ตัวรถ Mazda EZ-6 แท้จริงแล้วได้ถูกสร้างขึ้นโดยอาศัยแพลตฟอร์ม EPA1 ของ Changan ซึ่งเป็นพื้นฐานเดียวกันกับ Deepal L07 จึงทำให้ตอนนี้สื่อฯหลายๆแห่ง โดยเฉพาะในประเทศจีนมองว่ามันอาจใช้ทั้งแบตเตอรี่และขุมกำลังที่ยกมาจากเพื่อนร่วมแพลตฟอร์มทั้งชุด

นั่นคือ อาจมีทั้งรุ่นที่ใช้มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งให้กำลัง 2 ระดับ ได้แก่ รุ่นกำลังสูงสุด 217.5 PS / แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร กับรุ่นกำลังสูงสุด 258 PS / แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร โดยจะทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 58.9 kWh หรือ 66.8 kWh ซึ่งสามารถรองรับระยะทางในการใช้งานสูงสุดได้ราวๆ 530 กิโลเมตร/ชาร์จ หรือ 610 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน CLTC

และไม่ใช่แค่นั้น แต่ตัวรถ EZ-6 ยังจะมีตัวเลือกรุ่นขุมกำลังไฮบริดแบบ Range Extender ด้วย โดยจะยังคงใช้มอเตอร์เดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังแบบเดียวกับรุ่นพลังงานไฟฟ้า 100% แต่จะมีการปรับลดขนาดแบตเตอรี่ลง เหลือ 19 kWh และ 28.4 kWh ซึ่งหากเป็นการวิ่งด้วยระบบไฟฟ้าล้วนๆ ตัวรถจะสามารถวิ่งได้ไกลสุดราว 135 กิโลเมตร และหากเป็นการวิ่งด้วยระบบไฮบริด หรือให้เครื่องยนต์มาช่วยปั่นไฟเพิ่มด้วย มันก็จะสามารถวิ่งได้ไกลสุดราวๆ 1,140 กิโลเมตร ต่อน้ำมัน 1 ถังเลยทีเดียว

ทั้งนี้ เราขอย้ำอีกครั้งว่าข้อมูลทางเทคนิคข้างต้น ยังเป็นเพียงการอ้างอิงข้อมูลจากตัวรถ Deepal L07 (Deepal SL07) ที่ใช้แพลตฟอร์มพื้นฐานร่วม เราจึงยังคงต้องรอติดตามข้อมูลตัวรถที่แท้จริงกันต่อไปในอีกราวๆ 1-2 เดือนข้างหน้า เมื่อถึงกำหนดการขายตัวรถจริงๆกันอีกที

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.