Kia AD

Home » จัดอันดับ ความแรง เครื่องยนต์ดีเซล ปี 2024 วันนี้ กระบะค่ายไหนใครแรงสุด?

Kia AD

Suzuki AD

Blog Buster บทความ

จัดอันดับ ความแรง เครื่องยนต์ดีเซล ปี 2024 วันนี้ กระบะค่ายไหนใครแรงสุด?

เมื่อ 4 ปีก่อน ทาง Ridebuster เราเคยเผยข้อมูลความแรงของเครื่องยนต์ดีเซล ที่มีขายในตลาดปัจจุบัน โดยเวลานั้นก็เป็น Ford ที่ขึ้นแท่นชนะไปอย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยเครื่องยนต์ที่มีความจุเพียง 2.0 ลิตร แต่ได้เทอร์โบคู่จนปั่นกำลังได้สูงสุดกว่า 210 แรงม้า

มาวันนี้ ในโอกาสที่หลายผู้ผลิตรถกระบะในประเทศไทย ต้องนำเสนอเครื่องยนต์ดีเซล ยูโร 5 ตามมาตรการใหม่ของรัฐบาล ประกอบกับการที่ในปีนี้ พวกเขาต้องปรับโฉมกระบะในมือใหม่ โดยใส่ออพชันกันเข้ามาเต็มทุกรุ่น เรามาดูกันว่า เจ้ากระบะทั้งหลายเหล่านี้ ใครจะขึ้นชื่อ แรงที่สุดในตลาด

เงื่อนไขการคัดเลือกของเรา ประกอบด้วย

  • เป็นรถระดับ Mass Maket
  • เป็นรถกระบะที่ประกอบและผลิตในไทย ไม่รวมผู้ผลิตชาวจีน
  • เป็นรถโฉม MY2024 (เปิดตัวในช่วงกลางปี 2023 – ครึ่งแรกของปี 2024)

มาดูกันเลยครับ

อันดับ 5 Nissan , Mazda Isuzu ควงแขน เข้ารอบ

ต้องแจกรางวัลเท่าๆกันให้กับ 3 ค่าย คือ Nissan, Isuzu, Mazda ทั้งหมดมีพลังขับเท่ากัน คือสูงสุด 190 แรงม้า กับ แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มยังไม่ข้ามตัวเลข 200 ม้า ในราคาที่หลายคนยังจับต้องได้

Isuzu D-max และ Mazda BT50 ใช้เครื่องยนต์ 3.0 ร่วมกัน

เริ่มกันที่ คู่แฝด อีซูซุ – มาสด้า ทั้งคู่ ใช้เครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ ขนาด 3.0 ลิตรเทอร์โบเดี่ยวลูกเดียวกัน และแน่นอนว่าพวกมันต่างสามารถมอบพลังขับสูงสุด 190 แรงม้า สูงสุดที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ในช่วงกว้างตั้งแต่ 1,600-2,600 รอบต่อนาที ส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด (ข้อมูลเครื่องยนต์จาก Isuzu)

ในส่วนทางด้านนิสสันแตกต่าง ด้วยเครื่องยนต์ ดีเซล 4 สูบ 2.3 ลิตร ใช้ระบบเทอร์โบชาร์จคู่ ให้กำลังขับสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,500 รอบต่อนาที ส่งลงชุดเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด (ข้อมูลจาก Nissan)

แม้ว่าจะกำลังเท่ากัน จนเราต้องจับมาอยู่อันดับเดียวกัน แต่ถ้าเจาะลึกจะพบว่าอัตราส่วนกำลังอัดในเครื่องยนต์ของ อีซูซุ มากกว่าที่ 16.3/1 เมื่อเปรียบกับ นิสสัน ทำอยู่ที่ 15.4/1

แถมแรงม้า อีซูซุ และมาสด้า ยังมาเร็วกว่านิดหน่อยด้วย แต่เมื่อไปมองแรงบิด จะพบว่านิสสัน แรงบิดมาเร็วกว่าอยู่นิดหน่อย เมื่อประกอบกับ ชุดเกียร์ออโต้ 7 สปีด ก็ยิ่งทำให้รถตอบสนองในการขับขี่ได้ดีขึ้นตามไปด้วย

ก็เรียกว่า ดีคนละด้านแล้วแต่ สไตล์คนขับ ว่าชอบเครื่องยนต์บล็อกใหญ่ หรือบล็อกกลาง

จากที่ขับทั้ง 2 รุ่น เครื่องใหญ่ได้เปรียบเวลารีดกำลัง จะออกตัวไม่แรงหรือพุ่งมากนัก แต่ก็ยังคงมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นิสสันจะมาแบบต่อเนื่องจี๊ดยาวๆตลอดช่วง เนื่องจากสูบเล็กกว่า ช่วงชักก็สั้นกว่า ไหนจะเทอร์โบ 2 ลูกที่พร้อมส่งพลังปั่นอากาศต่อเนื่อง

จึงยากจะตัดสินใจ ว่าใครจะเหนือกว่าใคร

อันดับ 4 Mitsubishi Hyper Power X2

ทางด้าน มิตซูบิชิ รั้งเข้ามาในอันดับที่ 4 ด้วยเครื่องยนต์ใหม่ล่าสุด 4N16 Hyper Power X2 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบดีเซล ตัวที่ 2 ในตลาดบ้านเรา ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเทอร์โบชาร์จคู่

เครื่องตัวนี้กำลังไม่ได้เยอะแยะมากมายนัก มันมีกำลังขับสูงสุด 204 แรงม้า สูงสุดที่ 3,500 รอบต่อนาที และ ทำแรงบิดสูงสุด 470 นิวตันเมตร ที่ 1,500-2,750 รอบต่อนาที (ข้อมูลจาก mitsubishi Motor)

จนอาจเรียกว่า เป็นรถกระบะที่ใช้ระบบเทอร์โบคู่ ทำแรงบิดต่อเนื่องมากที่สุดในเวลานี้

ถึงพลังขับ อาจจะไม่ได้ชนะใจ เข้าวินเป็นที่หนึ่งในการจัดอันดับ เครื่องยนต์ดีเซล แรงที่สุดในพ.ศ.นี้

แต่เครื่องยนต์บลบ็อกนี้ก็จัดว่าดีที่สุดในกลุ่ม ด้วยความเป็นเครื่องยนต์บล็อกกลาง ซึ่งความจริงมิตซูฯ อาจจะทำให้มันแรงได้มากกว่านี้ แต่เอาเท่านี้ กับการใช้งานบนถนน โดยเฉพาะในญี่ปุ่น ก็จัดว่าเหลือๆ แล้วครับ

อันดับที่ 3 Ford 2.0 เทอร์โบคู่

แชมป์เก่า อันดับ 1 เมื่อ 4 ปีที่แล้ว เวลาผ่านมาในปีนี้ เครื่องยนต์ฟอร์ด 2.0 ลิตรเทอร์โบคู่ วันนี้ มาตกอยู่ในอันดับที่ 3 เสียแล้ว

ด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ 2.0 ลิตรเทอร์โบ 2 ลูก ทำกำลังขับสูงสุด 210 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1,750-2,000 รอบต่อนาที ส่งลงเกียร์ออโต้ 10 สปีด

พอขับจริง เราเลยรู้สึกว่ามันไม่เร็วแรงมากนัก ทั้งที่มันควรจะเร็วแรง ตอบสนองได้ตามต้องการอย่างลงตัว

เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบคู่ของฟอร์ด ในเวลา นี้ อยู่เพียงใน Ford Ranger StormTrak เท่านั้น หลังจากทางฟอร์ดตัดเครื่องตัวนี้ออกจากไลน์อัพ Wildtrak เดิม ที่ทำตลาดมายาวนานมากๆ

อันดับ 2 Toyota GD Efficient Boost 2.8 GR

และแล้ว ในที่สุดก็มาถึง อันดับที่ 2 และในปีนี้ ตกเป็นของ Toyota ที่ฮึดกลับขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ไปอย่างหน้าตา เฉย หลังจากงวดก่อน ก่อนก็อยู่ในอันดีราวๆนี้ เช่นกัน

ในปีนี้ โตโยต้า คว้าไปได้ ด้วยเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ที่มีการอัพเกรดใหม่ ให้ตอบสนองดีขึ้น ทำกำลังขับสูงสุด 224 แรงม้า ที่ 3,400 รอบต่อนาที

ส่วนแรงบิดสุงสุด ขยับขึ้นมาเป็น 550 นิวตันเมตร ที่ 1,600-2,800 รอบต่อนาที ระนาบต่อเนื่องในช่วงกว้างเกือบมากที่สุด แต่ยังน้อยกว่ามิตซูบิชิ เล็กน้อย (ข้อมูลจาก Toyota)

แต่ถึงจะพูดแบบนั้น ในตลาดวันนี้ มันก็เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ที่แรงที่สุด โดยมอบกำลังขับ เทียบเท่ารถสปอร์ตในอดีตเลย

อันดับ 1 Ford V6 3.0 ลิตร

ถ้าจะเอาแรงสุดๆ ในสายดีเซล พ.ศ. นี้ ก็ต้องยกให้ Ford Lion V6 3.0 ลิตร ใหม่ล่าสุดที่เปิดตัวเข้าทำตลาดในปีที่ผ่านมา ด้วยเครื่องยนต์ V6 3.0 ลิตร เคยประจำการใน Ford F-150 และ รถยุโรปบางรุ่นมาแล้ว (ข้อมูลจาก wikipedia)

ทางฟอร์ด นำเสนอ เครื่องยนต์ตัวนี้ใน ฟอร์ด เรนเจอร์ รุ่นส่งออกมาพักใหญ่ มาวันนี้ ทางฟอร์ด ตัดสินใจ ให้คนไทยได้สัมผัสด้วยสักที ใครอยากได้ จัดไปเลยครับท่าน

เครื่องยนต์ตัวนี้ พลังขับสูงสุดของมัน อยู่ที่ 250 แรงม้า สูงสุดที่ 3,250 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด มากถึง 600 นิวตันเมตร สูงสุดที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที (ข้อมูลจาก Ford ประเทศไทย)

เรียกว่า กำลังสูงสุดมาเร็วสุด และแรงบิดสูงสุด ก็ต่อเนื่องมากอยู่ในระดับที่น่าพอใจ สายลากจูง สายลุย น่าจะถูกใจไม่น้อย

ไม่เพียงเท่านี้ นิสัยเครื่องยนต์ 6 สูบ เดินเรียบ นิ่งเงียบ ยิ่งสร้างความถูกใจ แก่ลูกค้าจำนวนมากที่มองหา ความพรีเมี่ยมจากกระบะที่เขาใช้ นับว่าา น่าจะถูกใจตอบลูกค้าหลายคน

ในปีนี้ เป็นอีกครั้งที่ ฟอร์ด มีชัยเหนือค่ายกระบะเจ้าตลาดในอดีต แม้ว่า โตโยต้า จะพยายามสู้เต็มจัด แต่เมื่อเจอ ดีเซล 6 สูบออกขาย ก็นับว่ายากที่จะต่อสู้เหมือนกัน

แต่พลังขับ ไม่ใช่ที่สุดของทุกอย่าง รถที่ดี ไม่ใช่เพียงแรงเท่านั้น แต่ต้องควบคุมได้ดั่งใจด้วย

โดยสรุปจากการจัดอันดับ กระบะดีเซลแรง ในปี 2024

ปีนี้ กระบะแรงที่สุด ตกเป็นของ Ford Ranger V6 ที่ออกมาใหม่ล่าสุด แต่ถ้าคุณไม่ได้อยากได้เครื่องตัวนี้ โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่ GR Sport ก็เป็นรถแรงที่สุดในกลุ่มเครื่องดีเซล 4 สูบ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.