หลังจากเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ทางแบงค์ชาติ มีการประกาศ นโยบายใหม่ ในการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ กำหนดให้สถาบันการเงินต้องพิจารณาผู้ขอสินเชื่อตามรายได้ โดยต้องมีงบสำหรับดำรงค์ชีพคงเหลือด้วย

ส่งผลให้เกิดผลกระทบกับผู้ขอสินเชื่อจำนวนมากโดยเฉพาะกลุ่มผู้มีอาชีพอิสระ ที่เคยสามารถใช้รายได้รวมกันในครอบครัว สามารถกู้ซื้อรถได้ ไม่สามารถทำได้เหมือนเดิม เนื่องจากมีการพิจารณาตามแนวทางใหม่ ของ ธนาคารแห่งประเทศไทย

ล่าสุด ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมผ่อนคลายเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อ ในลักษณะของการกู้ร่วม ภายหลังจากมีการเปิดรับฟังความคิดเห็น (Hearing) ร่วมกับสมาคมธุรกิจเช่าซื้อ ผู้ประกอบธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ และเจ้าหนี้เช่าซื้อ

แต่ทางธปท.ระบุว่า ปัญหาจากการขอกู้ร่วมนั้น เกิดขึ้นน้อยมาก แม้ว่า ทางธปท.​จะมีข้อมูลการขอ ที่อยู่ในระบบธนาคารเพียง 65%

อย่างไรก็ดี ทางธปท. ยังเขื่อว่ าการที่ยอดขอสินเชื่อรถ ลดลง ส่วนหนึ่งมาจากการขอสินเชื่อน้อยลง อาจจะเป็นผลมาจากการมีรถอยู่แล้ว หรือ คำนวนรายได้แล้วไม่พอเพียง จึงชะลอการซื้อ รวมถึง ทำให้ การขอสินเชื่อกันไปก่อน

ขณะเดียวกัน ทางธนาคาร อาจจะมีการปรับพิจารณา Cut Score หรือ คะแนนเกณฑ์พิจารณา เพื่อรับความเสี่ยงลูกค้ามากขึ้น

ก่อนหน้านี้ นำรายได้มารวมกันในครอบครัวเดียวกันก็ไม่เป็นไร เรากำหนดให้ธนาคาร เวลาปล่อยกู้ต้องพิจารณารายได้รวม เพื่อป้องกันผู้ค้ำประกัน จริงๆ เป็นผู้คำประกันแต่ในชีวิตจริงเป็นผู้กู้ร่วม

“เราจึงจะทบทวนหากการค้ำประกัน หากเป็นการค้ำประกัน ในครอบครัว จะยอมให้นับรายได้ของผู้ค้ำประกัน มารวมด้วย จากเดิมที่กำหนดให้ใช้ของผู้กู้เป็นหลัก เพื่อช่วยผ่อนคลายปัญหาธุรกิจสินเชื่อยางส่วน “นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวกับ สื่อ มติชน

ทั้งนี้ปัจจุบัน ยอดขายรถยนต์ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง และผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมากมองในทางเดียวกันว ่าปีนี้ จะเป้นปีที่ยอดขายตกลงอย่างหนัก เนื่องจาการปล่อยสินเชื่อค่อนข้างเข้มข้น รวมถึง ยังมีประเด็นอีกหลายเรื่องแวดล้อม เช่นสงครามราคาเป็นต้น