ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหลายรายอาจ ประสบปัญหาด้านยอดขาย ในหลายๆประเทศทั่วโลก ด้วยเหตุผลต่างๆนาๆ แต่นอร์เวย์ อาจเป็นประเทศลำดับต้นๆที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเติบโต เฟื่องฟู จนมียอดขายส่วนปบ่งตลาดมากถึง 94%
จากการรายงานข้อมูลล่าสุด ของสำนักข่าว รอยเตอร์ ก่อนหน้านี้ เชื่อว่า นอร์เวย์ อาจจเป็น ประเทศแรกในโลกที่มียอดใช้รถยนต์ไฟฟ้า สูงกว่า รถสันดาป และล่าสุด รายงานในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ระบุว่ ายอดขายรถยนต์ราว 10,480 คันในประเทศนอร์เวย์ ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กว่า 94% ของยอดขายนั้นล้วนเป็นรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งนี่ถือเป็นสถิติที่ไม่มีมาก่อนที่ใดในโลก
ส่งผลให้ตอนนี้ส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์คันใหม่ที่ถูกซื้อไปในปี 2024 ทั่วประเทศดังกล่าวตอนนี้มียอดสะสมกว่า 68,435 คัน ซึ่งคิดเป็น 87% จากยอดขายรถยนต์นั่งทุกประเภทในตลอด 8 เดือนที่ผ่านมาทั้งหมด 78,832 คัน
โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในประเทศนอร์เวย์ คือ
- Tesla Model Y 2,107 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดกว่า 19%
- Volvo EX30 932 คัน คิส่วนแบ่งการตลาด 8.4%
- Skoda Enyaq 720 คัน
- Volkswagen ID.4 584 คัน
- Toyota bZ4X 526 คัน
- Audi Q4 e-Tron 369 คัน
- Tesla Model 3 367 คัน
“ไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะแข่งขันในเรื่องการใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้เหมือนกับที่เราเจออยู่ในนอร์เวย์” Oyvind Solberg Thorsen ผู้อำนวยการหน่วยงานคณะกรรมการด้านข้อมูลการจราจร ของประเทศนอร์เวย์กล่าว “หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป, เราก็เข้าใกล้เป้าหมายการยอดการซื้อใช้รถยนต์ไฟฟ้า 100% ได้ภายในปี 2025”
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้คนในนอร์เวย์ให้ความสนใจในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้ามากมายขนาดนี้ ก็คือการที่ทางภาครัฐมีนโยบายยกเว้นการเก็บภาษีมลพิษ และภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับประชาชนที่ซื้อ หรือเช่ารถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีมาตราการลดภาษีการคมนาคม รวมถึงการใช้ทางหลวงลงอีกกว่า 50% และในบางพื้นที่ของประเทศยังมีการงดเว้นการเก็บค่าที่จอดรถสำหรับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าอีกด้วยล้วนเป็นนโยบายที่ช่วยจูงใจ ให้หันมาซื้อรถยนต์ไฟฟ้าได้ดีมาก