Home » แอร์แบคไม่ระเบิด เหตุเกิดจากอะไร
CL0589
Bust Technic

แอร์แบคไม่ระเบิด เหตุเกิดจากอะไร

พูดถึงความปลอดดภัยในรถยนต์ยุคใหม่ หลายคนน่าจะรู้จัก อุปกรณ์ ที่เรียกว่า ถุงลมนิรภัย หรือ แอร์แบ็ค กันอย่างดี เจ้านี่เป็นปราการด่านสุดท้าย ในการปกป้องผู้โดยสาร แต่หลายครั้ง เราพบว่า แอร์แบคไม่ระเบิด หรือ ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน อย่างที่ควรจะเป็น เหตุนี้ เกิดขึ้นจากอะไรกัน

ประเด็นนี้ เป็นเรื่องที่พบเจอบ่อยตามโซเชี่ยล ทุกครั้งที่รถเกิดอุบัติเหตุรุนแรง แล้ว แอร์แบค ไม่ระเบิด หรือ ไม่ทำงาน จะมีคำถาม ถึงความบกพร่อง ตัวรถ และ อุปกรณ์ ว่า ทำไมไม่ทำงาน ทั้งที่รถชนพังยับ

แอร์แบ็คไม่ระเบิด

เข้าใจระบบ Airbag

ก่อนจะเริ่มต้น คุณต้องเข้าใจ ทุกคนคงรู้จัก ถุงลมนิรภัย หรือ Airbag กันเป็นอย่างดี อยู่แล้วในยุคนี้

แต่น้อยคนจะเข้าใจ ว่าระบบแอร์แบ็ค มันทำงานอย่างไร ในการปกป้อง ชีวิตเรา ระหว่าง ตายหรือรอดในอุบัติเหตุทางถนน

ตัวระบบ Airbag หากไล่เรียงวิธีการทำงานของมัน ก็จัดว่าซับซ้อนเอาเรื่อง มันประกอบไปด้วยอุปกรณ์หลายอย่าง ซึ่งผู้ผลิตรถ KIA เคยออกมาเปิดเผยว่า มันประกอบไปด้วย

1.เซนเซอร์ ทำหน้าที่รับแรงกระแทกจากการชน
2.หน่วยประมวลผลแอร์แบ็ค หรือ บางครั้ง อาจจะเรียกว่า โมดูลแอร์แบ็ค
3.ชุดอุปกรณ์จุดถึงลใแอร์แบก
4.ตัวแอร์แบ็ก ซึ่งจะซ่อนอยู่ภายในห้องโดยสาร ตามจุดต่างๆ

ระบบเอง ก็ไม่ใช่ทำงานในเชิงกลไกว่า เกิดอุบัติเหตุ แล้วจะกางช่วยคุณทุกครั้ง มันจะมีการรับทราบข้อมูลประมวลผล ว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ กางถุงลมดีหรือไม่ ซึ่งการประมวลผลนั้นจะกิดในช่วงเสี้ยววินาที

ทำไม ถุงลมนิรภัย ไม่ทำงาน

จากข้อมูลหน่วยงานความปลอดภัยในต่างประเทศ iihs ระบุว่า ถุงลมนิรภัย จะทำงานหรือใม่ในอุบัติเหตุ สำคัญที่สุด คือต้องมีแรงกระแทกที่มากพอจะกระตุ้นเซนเซอร์ ของ Airbag ให้ตัดสินใจ ว่าจะกางถุงลมนิรภัย ออกมา เพื่อช่วยปกป้อง ชีวิต ผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร

เซนเซอร์ของแอร์แบก หรือ Impact Sensor จะติดตั้งแตกต่างกันไปในรถแต่ละรุ่นแต่ละแบบ ส่วนใหญ่ จะติดตั้งอยู่ที่หน้าห้องเครื่อง หรือ คานหน้า ซึ่งมักเป็นจุดที่รับแรงกระแทกสำคัญ ปัจจุบัน เซนเซอร์ ที่ผู้ผลิตนิยมใช้ ในระบบแอร์แบ็ค มี 2 รูปแบบ คือ

Mass Sensor หรือ เซนเซอร์รับแรง เมื่อมีแรงกระทำเกิดขึ้น (เกิดการชน) แรงดังกล่าว จะกระตุ้นเซนเซอร์ ให้ส่งข้อมูลไปยังหน่วยประมวลผลว่า ควรจะกางถุงลมหรือไม่

นอกจากนี้ ยังมี เซนเซอร์ แบบ rolling type Sensor ข้อแตกต่างคือ เซนเซอร์แบบนี้ สามารถรับน้ำหนักจากแรงกระแทกได้ โดยภายในเซนเซอร์จะมีชุดคอย์สปริงเล็กๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแรงกระทำเกิดกระแทก ต่อตัวสปริงเป็นการส่งสัญญาว่า จะกางถุงลมนิรภัยหรือไม่ (ข้อมูลจาก repairmysrs)

ไม่ว่ารถเราจะใช้ เซนเซอร์แบบใด สิ่งสำคัญ คือ เซนเซอร์ต้องรับแรงกระทำจากอุบัติเหตุให้ได้ เพื่อ กางแอร์แบ็คออกมา ปกป้องชีวิตของเรา และผู้โดยสารในรถ ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องชนให้ตรงเซนเซอร์ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น จะต้องชนแรงมากพอจน เซนเซอร์รับคำสั่ง และหน่วยประมวลผลสั่งการ กระตุ้นให้ถุงลมนิรภัยทำงาน

ในคู่มือประจำรถ มีการอธิบายชัดเจน ถึงบางสาเหตุที่ ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน ซึ่งเกิดได้ในบางรูปแบบการชน

นอกจากนี้ หลายคนมักเข้าใจว่า เมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน มันจะทำงานทั้งคัน เหมือนที่เห็นคลิป การทดสอบชนในต่างประเทศ

การกางถุงลมนิรภัยทั้งหมดนั้น จะเกิดขึ้น เพียงในบางกรณีเท่านั้น แต่ ตามปกติ ถุงลมจะกางเพียงบางจุด ไม่ใช่ทุกจุด เพื่อปกป้องผู้โดยสาร เช่น เมื่อชนทางด้านข้าง ถุงลมจะกาง ม่านนิรภัยออกมา เพื่อป้องกัน การกระแทกกระจกบานข้างอย่างรุนแรง ในอุบัติเหตุ

ยกตัวอย่างเช่น กรณีอุบัติเหตุ ของดารานักแสดง น้องอิง เมื่อปี พ.ศ. 2561 ซึ่งพบว่า แอร์แบคไม่ระเบิด หรือ ถุงลมนิรภัยคู่หน้าไม่ทำงาน ในขณะเกิดอุบัติเหต ภายหลัง ทางผู้ผลิตรถยนต์ BMW ได้ออกมาชี้แจง เป็นข้อมูลตามสื่อต่างๆ ว่า จากการตรวจสอบพบว่า ม่านถุงลมด้านข้างทำงาน แต่ถุงลมด้านหน้าไม่ทำงาน จากข้อมูลเบื้องต้นของการเกิดอุบัติเหตุคาดว่า มีการชนจากด้านข้างอย่างรุนแรงทำให้ม่านนิรภัยทำงาน แต่ถุงลมด้านหน้าไม่ทำงาน เนื่องจากไม่ได้ชนด้านหน้าโดยตรง ทำให้เซ็นเซอร์ไม่ได้รับข้อมูล ถุงลมจึงไม่ถูกปล่อยออกมา (ที่มา Chobrod)

อย่างไรก็ดี , การทำงานของถุงลมนิรภัย ว่าจะทำงานหรือไม่ การคาดเข็มขัดนิรภัย ก็มีส่วนสำคัญต่อการตัดสินใจของระบบเช่นกัน

แมเว่ารถยุคใหม่ จะมีการปรับการประมวลผลว่า ถุงลมนิรภัยสามารถทำงานได้ทุกเงื่อนไข ไม่ว่า ผู้ขับขี่จะคาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่

แต่จากรายงานของ iihs ระบุว่า มันจะทำงานเมือ พบว่า การชนครั้งนั้นแรงกระแทก มีความเร็วเทียบเท่าขับชนกำแพง ที่ความเร้้ว 10-12 ไมล์ต่อชั่วโมง ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ซึ่งหากเกินกว่านั้น ด้วยความแรงจากการกระแทก ระบบอาจจะตัดการทำงาน เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บจากการทำงานของถุงลม

ดังนั้น เหตุใด แอร์แบ็คไม่ระเบิด ,ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน ก้ต้องบอกว่า มันมีหลายปัจจัยประกอบกัน ไม่ว่า

  • ลักษณะของอุบัติเหตุ
  • ความแรงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น
  • ตำแหน่งการชน ของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น

ไปจนถึงพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์ ภายในรถ เช่น การคาด เข็มขัดนิรภัย ทั้งหมด ล้วนมีส่วนในการทำงานประมวลผล ว่าหากคุณเกิดอุบัติเหตุ สมควรถุงลมนิรภัยจะทำงานหรือไม่

นั่น เป็นสาเหตุที่ บางครั้ง ทำไม ถุงลมนิรภัยไม่ทำงาน , แอร์แบคไม่ระเบิด ทั้งที่รถทุกวันนี้ใส่มาอย่างจัดเต็ม เวลาเราเลือกซื้อ จนเรารู้สึกมั่นใจว่ารถที่เราเลือกปลอดภัย จะปกป้องเรา ยามเกิดเหตุไม่คาดฝัน

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.