ช่วงนี้ ต้องยอมรับว่า หันไปทางไหน ก็เจอข่าวลือหน้าหู ว่าปีนี้ ไทย ฮอนด้า จะเปิดตัว รถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหญ่ลำใหม่ อย่าง Honda Forza 750 เข้าทำตลาดเร็วๆนี้ เฉกเช่นเดียวกับในปีที่แล้ว ที่เคยมีข่าวลือถูกปล่อยออกมาในทำนองเดียวกัน

กระแส Honda Forza 750 มาไทย ได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเฉพาะคนมองหาบิ๊กสกู๊ตเตอร์ขับง่ายขี่สบาย เน้นใช้งานได้ทั้งในเมืองและนอกเมือง จนเมื่อมีข่าวลือ หลายคนต่างสอบถามกันมา และให้ความสนใจถึงข่าวที่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน แต่มีแนวโน้มว่า หลังจากโหมโรงโยนหินถามทาง มาปีกว่า ปีนี้ค่ายปีกนก อาจเอาจริง …​สักที ?

สาเหตุที่ข่าวลือนี้ ดูถูกพูดถึงมากกว่าปีกลายที่เคย มีกระแสเดียวกัน ประกอบด้วยหลายปัจจัยประกอบกัน

ข้อแรก ตลาดบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ในปีนี้ มีผู้เล่นหน้าใหม่ จากค่ายจีน Zontes เข้ามา แม้ว่าแบรนด์จะเริ่มจากรุ่น 350 ซีซี ทำตลาด แต่ในแบรนด์เองก็มีรุ่นใหญ่ พร้อมปูพรมเข้าเมืองไทย หากมีการศึกษาตลาด แล้วพบความต้องการ ก็อาจหิ้วของตรงมาจากเมืองจีนในทันที

ประการต่อมา ตลอดปีที่ผ่านมา ฮอนด้า ดันไม่ประสบความสำเร็จกับ Honda CB750 Hornet อย่างที่หมายมั่นปั้นมือว่า มันน่าจะโดนใจลูกค้าที่มองหา Naked Bike ราคาน่าคบ แถมรถยังทรงพลัง

แต่กลายเป็นในตระกูล 750 ที่ขายดีปัจจุบน เป็นรถตระกูล Adventure ไม่ว่าจะ Transalp 750 หรือ X-ADV ที่ยังได้รับความนิยมต่อเนื่อง

ยิ่งในตัว X-ADV สะท้อนชัดว่า คนไทยชอบรถที่ขับง่ายขี่สบาย จนขายดี จากรุ่นสู่รุ่น เป็นหนึ่งในคำตอบสำคัญ ที่อาจสะกิดต่อมการตลาด จุดชนวนว่า Honda Forza 750 น่าจะมาไทย

นอกจากที่กล่าวไปทั้ง 2 ประเด็นที่กล่าวไปแล้ว มีรายงานข้อมูล อย่างไม่เป็นทางการ จากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ว่า ฮอนด้า อาจเตรียม ยุติการขาย Honda NC750X ที่ทำตลาดมาสักระยะใหญ่

สาเหตุการเลิกขาย เป็นความลับสวรรค์ แต่ถ้ามองในไลน์อัพสินค้าเวลานี้ NC750X เป็นรถเกียร์ DCT ที่ถูกที่สุด และดันอยู่ในพิกัด 750 ซึ่ง ปัจุจบัน มี Honda Translap เกียร์ธรรมดา มาจำหน่าย แต่ดันมีราคาแพงกว่า พอสมควร มันก็ดูจะแปลกๆเวลาลูกค้าจะเลือก

ทั้งที่ รถเกียร์ออโต้ ควรมีราคาแพงกว่าเกียร์ธรรมดา ก็น่าจะเป็นประเด็นหนึ่งที่มีการทบทวน แถมตัวรถก็ไม่ได้ขายดีมากเท่าไร

แต่เมื่อมีการยุติ หากตรงตามข้อมูลที่เราได้มา นั่นหมายถึง ก็ย่อมน่าจะมีตัวตายตัวแทน เกิดขึ้นซึ่งตระกูล 750 ที่ฮอนด้า มีขายในเวลานี้ ก็เหลือเพียง Honda Forza 750 เท่านั้น แถมคนจำนวนมากเฝ้ารอมันมาขาย

ไมเนอร์เชนจ์ เป็นเหตุสังเกตได้

ประเด็นหนึ่งที่ดูน่าจะสนับสนุนให้ Honda Forza 750 น่าจะถูกหิ้วมาขายในไทยปีนี้ ส่วนหนึ่งก็ต้องยอมรับว่า มาจากตัวรถที่มีการคาดเดาว่าจะถูกปรับปรุงโฉมในปีนี้ และ อาจจะเป็นดาวเด่น ของเวที Eicma 2024

ถ้ามองจากไทม์ไลน์ว่าตัวรถเริ่มขายในปี 2020 (อ้างอิงจาก Honda) ปีนี้ก็ได้เวลา 4 ปี พอดี สำหรับการเปิดโมเดลใหม่ สำหรับปีหน้า หรือ MY2025 ที่ต้องมีการพัฒนาไปอีกขั้น ยิ่งทำให้ตัวรถนั้นจะยิ่งสดใหม่มากขึ้น

ผิดกับเมื่อปีที่แล้ว ที่มีข่าวลือแบบนี้เช่นกัน แต่สุดท้าย ฮอนด้ายังไม่นำรถเข้ามาขาย นั่นอาจจะ เพราะ รอให้รถสดใหม่ก่อน ดีกว่าเข้ามาขายแล้วหักหารน้ำใจลูกค้า เพราะซื้อรถได้ปีเดียวก็ตกรุ่น

เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในการเปิดตัว Honda Forza 350 หลังจากเปิดตัว Forza 300 ทำตลาดในช่วงแรก จนลูกค้าบางกลุ่มโอดครวญ

ตลาดยังว่าง ช่องทาง Forza 750 ยังมี

นั่นอาจทำให้ ฮอนด้า ตัดสินใจว่า ในปีนี้ เอา Forza 750 เข้ามาขายดีกว่า ซึ่งส่วนมาก รถที่เข้ามาขายส่งท้ายปี ฮอนด้า ก็จะเลือกรถจากงาน Eicma เข้ามาเปิดตัว แล้วขายทันที ก่อนส่งมอบในปีถัดไป

แต่ที่สำคัญไปกว่านั้น มันเป็นการ ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว

ทั้งการอุดช่องว่างทางการตลาด ของบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ในอนาคต ซึ่งมีคู่แข่ง จ่ออยากนำรถคลาสใหญ่เข้ามา รวมถึงยังสามารถตบคู่แข่งเจ้าประจำที่ เป็นหอกข้างแคร่มานาน ด้วยมอเตอร์ไซค์สไตล์สปอร์ตสกู๊ตเตอร์

อาจเป็นความจริงว่า เมื่อนำเข้ามาก็ยังไม่รู้ว่าจะหมู่หรือจ่า โดยเฉพาะประเด็น ว่าคนไทย ยังไม่สามารถแยกความแตกต่างในเรื่องจุดประสงค์ระหว่าง X-ADV กับ Forza 750 ออกได้ ด้วยส่วนหนึ่งตัวรถที่มีพื้นฐานเดียวกัน

แถมนิสัยการซื้อรถของคนไทย ชอบซื้อเผื่อ มีไว้ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี ยังเป็นคำขวัญยอดฮิตของคนไทย อยู่เสมอ จะเห็นได้จากความนิยมของ Honda ADV 350 เพิ่มขึ้นทันที ต่อเนื่อง

แถมรถตระกูล GT หรือ Grand Touring ยังไม่เคยมีมาก่อนในไทย อาจเป็นเรื่องยากมากสำหรับฮอนด้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การจับกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจ จะแยกแยะ ความเข้าใจอย่างไร แล้วสำคัญสุด รถกลุ่มนี้ จะไม่ใช่ตลาดระดับ Mass Market เหมือนในกลุ่ม 350 เนื่องจากราคาสูง และ แถมภาพลักษณ์ Forza ยังเน้นการใช้งานขับบนถนนดำ อีกต่างหาก จะเอาไว้ลุยมากก็ไม่ได้

แต่เราก็จะเห็น ว่าคลาส 350 ลูกค้า กลับซื้อ Forza จำนวนมากในอัตราส่วนมากกว่า ADV 350 เรื่องนี้อาจเกิดขึ้นก็ได้ ถ้ามีทางเลือกให้กับลูกค้าในกลุ่ม 750

แถมกลุ่มนี้เป็นกลุ่มมีกำลังซื้อ และ พร้อมจ่าย ทันที ถ้าของมา ก็น่าจะยั่วฮอนด้า ให้อย่างน้อยมาลองทำตลาด กลุ่มนี้

ยิ่งกว่านั้น การวางแผนการทำบริการหลังการขายก็ไม่ยุ่งมาก เนื่องจาก อะไหล่เครื่องยนต์ ส่วนใหญ่ใช้ร่วมกับ X-ADV จะขาดเพียงก็แค่ชุดชิ้นแฟร์ริ่ง , ชุดล้อ ที่มีความแตกต่างกันบ้าง บางประการ ซึ่งส่วนใหญ่ ฮอนด้าใช้กระบวนการสั่งอะไหล่จากญี่ปุ่น

ราคา Forza 750 มีลุ้นไม่ข้าม 4 แสน

มาถึงตรงนี้ หลายคนคงเริ่มสนใจ Honda Forza 750 กันพอสมควร รายละเอียดตัวรถ เราเคยได้พูดไปแแล้วก่อนหน้านี้ ก็คงจะมาถึงคำถามสำคัญว่า ราคามันน่าจะสักเท่าไร

ปัจจุบัน ตามข้อมูล Honda Bigwing ทางฮอนด้า ขาย Honda X-ADV อยู่ที่ 425,000 บาท และ Transalp ขายอยู่ที่ 389,000 บาท ส่วน NC750X ขายราคา 365,000 บาท

ในยุโรป ฮอนด้า วางขายรถทั้ง 4 รุ่น โดยมีราคาดังนี้

• NC750X DCT 8,779 ปอนด์สเตอร์ริง
• Transalp 9,699 ปอนด์ สเตอร์ริง
• Forza 750 10,499 ปอนด์ สเตอร์ริง
• X-ADV 11,199 ปอนด์สเตอร์ริง

อ้างอิงจาก Honda UK

จากราคาในอังกฤษ เราจะเห็นได้ว่าราคาของ Honda Forza 750 จะมีราคาจำหน่าย อยู่ในช่วงระหว่าง Transalp และ X-ADV

และเมื่อมองตัวราคาระหว่าง Forza กับ X-Adv มันมีราคาแตกต่างกันราวๆ 700 ปอนด์ แม้ว่า จะไม่เยอะมาก แต่ ถ้าตีเป็นเงินไทย ก็ตกว่า น่าจะถูกกว่าราวๆ 30,000 บาท และมันแพงกว่า Transalp ในช่วงราคาเดียวกัน

ดังนั้น ความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็น Forza 750 ขายในราคา 399,000 บาท ถึง 410,000 บาท ค่อนข้างมีสูง

แถมมีโอกาสสูงที่จะตั้งราคาไม่ข้าม 4 แสน เพื่อลดการเบียดราคา จนทำให้คนตัดสินใจ ซื้อ X-ADV มากกว่า ยิ่งอาจทำให้ราคา อาจจะอยู่ในช่วง ไม่เกิน 4 แสนมากขึ้น ถึงจะดูเบียดกับ Transalp

แม้ว่าคิดตาม อาจจะเป็นไปได้ยาก แต่ด้วย การไร้ NC750X ในอนาคต (หากเป็นจริง ตามที่เราได้ข้อมูล) ก็มีความเป็นไปได้อาจจะกดราคา Transalp ลงไปอีก เพื่อเรียกลูกค้าสายลุยไซส์กลางมากขึ้น และเพิ่มช่องว่างให้ Forza 750 มีที่ให้มีที่หายใจ ไม่เบียดกับ X-ADV มากเกินไปนัก

กระแส Honda Forza 750 มาไทย ในปีนี้ ต้องยอมรับว่ามีแนวโน้มชัดเจนมากขึ้นพอสมควร ทั้งจากตัวขายที่จะมีการปรับไลน์อัพในอนาคต , ตัวรถที่คาดว่า จะมาพร้อมรุ่นใหม่ที่น่าสนใจกว่าเดิม รวมถึง กระแสความนิยมสกู๊ตเตอร์ที่ยังฮิตติดลมบน

ทั้งหมดนั้น ทำให้ข่าวนี้ดูมีความเป็นจริงมากขึ้น แต่มันจะมาขายจริงไหม อย่างไร เราก็น่าจะได้รู้กันในปลายปีนี้