แม้ในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 ที่ผ่านมา ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในภาพรวมทั่วโลกอาจดูซบเซา แต่นั่นกลับไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศจีน
ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เราจะเห็นว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในภาพรวมมีการเติบโตช้า โดยเฉพาะในยุโรป กับสหราชอาณาจักรที่เมื่อนับยอดขายรวมกันแล้วกลับหดตัวลงไป -4% ในเดือนที่ผ่านมา แต่บริษัทด้านการศึกษาการตลาด Rho Motion กลับระบุว่าแท้จริงแล้วในตลอดปี 2024 ถึงตอนนี้ มีรถยนต์ไฟฟ้าขายไปแล้วทั่วโลกกว่า 9.8 ล้านคัน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงขึ้นกว่าปีที่แล้วอยู่ 20% เมื่อเทียบระยะเวลากันแบบปีต่อปี (นับจากวันที่มีการเก็บข้อมูล)
และจากการรายงานล่าสุดโดยแหล่งข้อมูลข้างต้น ระบุว่าในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ประเทศจีน ได้กลายเป็นประเทศแรกในโลกที่มียอดการขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศแตะหลัก 1 ล้านคัน ใน 1 เดือน และถือว่าเป็นอัตราการเติบโตด้านยอดขายจากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนที่สูงถึง 33 เปอร์เซ็นต์
ซึ่งตัวเลขข้างต้นนั้นจะยิ่งน่าสนใจมากขึ้นอีกเมื่อเราพบว่ามันเป็นยอดขายที่สวนทางตัวเลขยอดขายรถยนต์ที่ยังคงใช้ขุมกำลังสันดาปภายในของประเทศจีน ซึ่งมีอัตราการหดตัวราว 1.1% จากตัวเลขยอดขาย 1.92 ล้านคัน
โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้ความต้องการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนพุ่งสูง หลักๆแล้วก็เป็นเพราะนโยบายการสนับสนุนการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ของรัฐบาลจีน ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า แต่ยังรวมถึงรถยนต์ไฮบริดด้วย
นั่นคือการมอบเงินอุดหนุนราว 20,000 หยวน หรือราวๆ 94,000 บาท สำหรับคนที่ต้องการแลกเปลี่ยนรถที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน ไปซื้อรถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ข้างต้น แต่ในขณะเดียวกันสำหรับคนที่ยังไม่สะดวกจะไปใช้รถยนต์พลังงานใหม่ ก็ยังสามารถรับเงินอุดหนุนสูงสุดราว 15,000 หยวน หรือราวๆ 70,000 บาท หากเปลี่ยนรถยนต์สันดาปภายในที่ต้นเองใช้ เป็นรถยนต์สันดาปภายในอีกคันที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดเล็กลง
นั่นจึงส่งผลให้ในปี 2024 ที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์กลุ่มพลังงานใหม่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่า 43.2% และกินส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์นั่งทั้งหมดในประเทศจีนไปกว่า 53.5% และทางแหล่งข้อมูลข้างต้นยังมองว่าหากทางรัฐบาลจีนยังคงใช้นโยบายนี้ต่อไป เราก็มีโอกาสที่จะได้เห็นสถิติยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ที่สูงระดับนี้ต่อไปเรื่อยๆอีกในช่วงครึ่งหลังของปี