จากการประกาศอย่างชัดเจนว่า BMW จะไม่ทำ Z4 รุ่นใหม่อีกต่อไป ในขณะเดียวกันนั้นเอง ก็เกิดคำถามต่อทันทีในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาว่า แล้ว Toyota GR Supra ที่ใช้พื้นฐานร่วมกันล่ะ จะยังคงได้ไปต่อหรือไม่ ? ซึ่งคำตอบเรื่องนั้นก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาแล้วโดยผู้บริหารของแบรนด์

“ไม่, ไม่, มันเป็นแค่เรื่องที่เดากันไปเอง, ผมจะบอกอะไรให้, Supra จะไม่ถูกยุติ(สายการผลิตตาม BMW Z4)” Sean Hanley ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการตลาดของ Toyota Australia กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อ Car Expert

เมื่อเป็นเช่นนั้น ทางสื่อฯต้นทางจึงได้มีการถามต่อว่า แล้วเมื่อไหร่กันที่เราจะได้เห็นโฉมใหม่ของ Toyota GR Supra เนื่องจากตัวรถโฉมปัจจุบัน ก็มีอายุการตลาดที่ยาวนานพอสมควร โดยหากมันยังคงถูกลากขายต่อไปในปี 2026 มันก็จะมีอายุตัวถังที่นานถึง 7 ปี เข้าไปแล้ว (เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของตัวรถรุ่นใหม่ จึงทำให้หาก Supra รุ่นใหม่ ต้องเผยโฉมจริงๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาอีกพักใหญ่)

“ผู้คนมักพูดกันว่า ‘เมื่อไหร่ตัวใหม่จะมา ?’ แต่ในความเป็นจริงคือตอนที่เราเปิดตัวรถใหม่ เราก็วางแผนถึงตัวรถโมเดลถัดไปแล้ว, คุณแค่ต้องรอแล้วมาดูกันต่อว่าเมื่อไหร่กันที่ตัวรถโฉมใหม่จะมา”

“แต่ถ้าให้ผมบอกคุณตอนนี้, Supra จะยังคงได้ไปต่อ”

อย่างไรก็ดี ผู้บริหาร จะยังไม่มีการปริปากใดๆถึงทิศทาง หรือความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นกับ Toyota GR Supra เจเนอเรชันถัดไป แต่ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือที่ระบุว่า เนื่องจากตัวรถรุ่นปัจจุบัน ใช้พื้นฐานแพลตๆฟอร์มร่วมกันกับ BMW Z4 และใช้เครื่องยนต์ 6 สูบเรียง เทอร์โบคู่ ขนาด 3.0 ลิตร มี BMW เป็นแม่งานในการพัฒนา

จึงมีความเป็นไปได้ หาก BMW Z4 ต้องถูกยุติสายการผลิตไป ความร่วมมือระหว่าง BMW กับ Toyota อาจต้องยุติไปด้วย รวมถึงเครื่องยนต์ ที่แม้จะเป็นหัวใจหลักในรถยนต์หลายๆรุ่นของ BMW ทว่าทาง Toyota ก็อาจจะไม่สามารถนำมาใส่ในรถของตนเองต่อไปได้อีกด้วย

ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูง ที่ทาง Toyota จะพัฒนาทั้งแพลตฟอร์มตัวรถ และเครื่องยนต์ลูกใหม่ ให้กับ Supra เจเนอเรชันถัดไป ซึ่งแหล่งข้อมูลหลายแห่งต่างระบุไปในทิศทางเดียวกันว่า ขุมกำลังแบบใหม่ในรถสปอร์ตรุ่นนี้ อาจเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร ที่ทางค่ายญี่ปุ่นเผยหน้าตาและข้อมูลคร่าวๆให้ชาวโลกได้เห็นกันไปเมื่อต้นปี โดยที่ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ เจ้าตัวยังกล้าระบุอีกด้วยว่า มันจะมีสมรรถนะที่แข็งแกร่ง และน่าจดจำจนทัดเทียมเครื่องยนต์ระดับตำนานตระกูล 2JZ-GTE ได้เลยทีเดียว

และในเมื่อขุมกำลังลูกใหม่ที่ว่า มีขนาดเล็กลง บวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป จึงทำให้แหล่งข้อมูลหลายๆแห่งระบุว่า ทาง Toyota จะมีการเสริมมอเตอร์ไฟฟ้าเข้าไปช่วยเครื่องยนต์ขับเคลื่อนตัวรถในนลักษระของระบบไฮบริดเพิ่มเติมด้วย จนมันอาจสามารถทำแรงม้ารวมได้กว่า 405 PS ซึ่งนั่นถือว่ามากกว่าขุมกำลังของ BMW