Home » Toyota เปิดตัวเทคโนโลยี กระบอกก๊าซไฮโดรเจน สำหรับสลับเติมรถ Fuel Cell
Evolution

Toyota เปิดตัวเทคโนโลยี กระบอกก๊าซไฮโดรเจน สำหรับสลับเติมรถ Fuel Cell

แม้เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) จะมีข้อดีคือ ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเสียเวลารอชาร์จไฟเหมือนรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่ 100% (BEV) แต่ถ้าเทียบกับการใช้งานรถยนต์ขุมกำลังสันดาปภายในแล้ว มันก็ยังใช้เวลาในการเติมก๊าซไฮโดรเจนกลับเข้าไปในถังเก็บที่มากกว่าการเติมน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์ทั่วๆไปอยู่ดี

นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ทาง Toyota ต้องคิดค้นวิธีในการเติมก๊าซไฮโดรเจนสำหรับรถยนต์ FCEV ให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งผลที่ได้ คือแนวคิดการทำ “ถังเก็บก๊าซไฮโดรเจนแบบเฉพาะ” ที่เปิดตัว ในงาน Japan Mobility Show Bizweek 2024 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยความพิเศษของตัวถังเก็บก๊าซไฮโดรเจนที่ว่านี้ ก็คือการที่มันสามารถถูกยกถอดออกจากตัวรถ เมื่อก๊าซในถังหมดลง แล้วสลับเอาถังก๊าซใบใหม่เสียบเข้าไปแทน และทาง Toyota ยังระบุอีกว่า เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานที่มากขึ้น พวกเขายังตั้งใจออกแบบให้ตัวถังเก็บก๊าซไฮโดรเจนนี้ มีขนาดที่พอเหมาะสำหรับการ “ยก แบก สลับ” ด้วยตัวผู้ใช้เองเพียงคนเดียวได้

และด้วยคุณลักษณะการใช้งานดังกล่าว จึงทำให้มันจะช่วยร่นระยะเวลาในการเติมพลังงานให้สั้นลงไปอีกพอสมควร จนอาจเหลือเวลาแค่เพียง 3-5 นาที เท่านั้น ต่อการเติมเชื้อเพลิงใหม่แต่ละครั้ง

แน่นอน เทคโนโลยี หรือแนวคิดการสลับถังก๊าซใบใหม่ แทนถังก๊าซใบเก่า เพื่อลดระยะเวลาในการเติมเชื้อเพลิง หรือพลังงานให้กับตัวรถ อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในฝั่งรถยนต์ไฟฟ้าเอง ก็มีผู้ผลิตหลายรายที่พยายามคิดค้นวิธีในการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งก้อน เพื่อลดเวลาในการชาร์จเช่นกัน

ต่างกันก็ตรงที่ ด้วยข้อจำกัดด้านกายภาพของตัวแบตเตอรี่ ไม่ว่าจะทั้งจากขนาด และน้ำหนัก ซึ่งทำให้การสลับแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าแต่ละครั้ง จะต้องถูกทำด้วยแท่นติดตั้งเฉพาะทางเท่านั้น ยังไม่รวมถึงการที่วิศวกรต้องออกแบบตัวพอร์ทชาร์จไฟที่ทนทานมากพอ โดยที่มันจะต้องยังคงสามารถรองรับแรงดันไฟของตัวแบตเตอรี่ที่มากกว่าระบบจ่ายไฟของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วๆไปพร้อมๆกันได้อีก

ซึ่งนั่นต่างจากตัวถังเก็บก๊าซไฮโดรเจน ที่ด้วยความการเก็บในลักษณะก๊าซ จึงทำให้วิศวกรไม่ต้องมายุ่งยากกับการออกแบบหัวต่อของระบบก๊าซในตัวรถมากนัก เนื่องจากเป็นระบบที่มีใช้ในรถยนต์มานานแล้ว และหากชิ้นส่วนของระบบนี้ถูกตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอตามอายุการใช้งานจริงๆ ก็แทบไม่มีความเสี่ยงใดๆเกิดขึ้นทั้งสิ้นขณะใช้งาน

ทั้งนี้ โปรเจ็กท์ถังก๊าซไฮโดรเจนดังกล่าว ยังเป็นแค่เพียงแนวคิดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าทาง Toyota ยังต้องใช้เวลาในการศึกษาความเป็นไปได้อีกนานพอสมควร แต่ด้วยความที่ในปัจจุบันนี้ ทาง BMW เอง ก็เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็กท์การพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์พลังงานไฮโดรเจนด้วย (ไม่ว่าจะทั้งการใช้ไฮโดรเจนเหลวเป็นเชื้อเพลิงให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน หรือ ใช้ก๊าซไฮโดรเจนเป็นเชื้อพลังงานให้กับแบตเตอรี่)

จึงมีความเป็นไปได้อยู่ไม่น้อยว่าเทคโนโลยีใหม่นี้ อาจใช้เวลาในการศึกษาไม่นานนัก หากพวกเขาพัฒนาแล้วมันมีแนวโน้มที่จะสามารถนำมาใช้ได้จริง และเป็นประโยชน์ต่อการใช้งานตามจุดประสงค์ทีี่วางเอาไว้แต่แรกจริงๆ

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.