Home » BMW F900 GS / F900 GS Adventure พร้อมลุยประเทศไทย ในราคาเริ่มต้น 689,000บาท
คอมอเตอร์ไซค์

BMW F900 GS / F900 GS Adventure พร้อมลุยประเทศไทย ในราคาเริ่มต้น 689,000บาท

ผ่านไปเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น หลังการเปิดโฉมพี่ใหญ่ R1300GS ล่าสุดก็เป็นคราวของน้องรองอย่าง BMW F900GS / F900 GS Adventure ที่ต้องถูกเปิดตัวและวางจำหน่ายในประเทศไทยของเรากันบ้าง

2024 BMW F900 GS / F900 GS Adventure มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนใหม่ในหลายจุดด้วยกันเมื่อเทียบกับรุ่นพี่โฉมก่อนหน้ารหัส 850 โดยเริ่มจากอย่างแรกสุดเลย ก็คือเรื่องของเครื่องยนต์ 2 สูบแถวเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ได้รับการขยายขนาดความจุเพิ่มขึ้นเป็น 895cc ส่งผลให้มันมีพละกำลังสูงสุด 77 กิโลวัตต์ หรือ 105 แรงม้า PS ที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 93 นิวตันเมตร ที่ 6,750 รอบต่อนาที

นอกจากนี้ด้วยน้ำหนักตัวที่เบาลงกว่าเดิมถึง 14 กิโลกรัม จนเหลือ 219 กิโลกรัม รวมของเหลวในฝั่ง F900 GS จึงทำให้มันสามารถเรียกอัตราเร่งได้ดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องขอบคุณในเรื่องของงานออกแบบตัวรถ ที่เปลี่ยนมาใช้ชุดไฟหน้าจาก F900 R และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างตัวรถใหม่ เบาะนั่งตอนเดียวแบบใหม่ แฮนด์บาร์ที่สูงขึ้น พักเท้าที่ต่ำลง เพื่อให้มันดูมีความเป็นรถ “บิ๊กเอนดูโร่” มากขึ้นกว่าเดิม

รวมถึงถังน้ำมันแม้จะมีขนาดเล็กลงเหลือ 14.5 ลิตร จากที่เคยมีปริมาตร 15 ลิตรเต็ม แต่ด้วยการใช้วัสดุแบบพลาสติก จึงทำให้น้ำหนักของมันเบาลงกว่าถังน้ำมันของ F850 GS ถึง 4.5 กิโลกรัม และทำให้จุดศูนย์ถ่วงรถต่ำลง รวมถึงยังออกแบบให้รูปทรงเหมาะสำหรับการยืนหนีบขี่ตามฉบับรถตัวลุยได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

อีกสิ่งหนึ่งที่ถูกออกแบบให้เบาลงเช่นกัน คือชุดสวิงอาร์มอลูมิเนียม แบบใหม่ ที่เบาลงกว่าเดิมราว 250 กรัม ซึ่งแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้มากมายนัก แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักใต้สปริงที่ส่งผลต่อการขับขี่ โดยเฉพาะในการบุกตะลุยที่มีสเถียรภาพยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับชุดท่อไอเสียแบบใหม่ที่ถูกออกแบบโดย Akrapovic ซึ่งมันก็ไม่ได้มีจุดเด่นแค่ความเบาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุ้มเสียงที่หนักแน่นยิ่งขึ้นด้วย

ขณะที่ในฝั่ง F900 GS Adventure นอกจากชุดเฟรม ตำแหน่งท่านั่ง ที่เปลี่ยนไปเช่นกัน มันยังมาพร้อมกับชุดแฟริ่งข้างก็ถูกปรับงานออกแบบใหม่ ให้ดูหนาแน่น และบึกบึนกว่าเดิม แม้มันจะยังคงมาพร้อมกับถังน้ำมันขนาด 23 ลิตร และใช้ไฟหน้าแบบเดิมกับตัว 850 (ก็ตาม)

แถมตัวรถรุ่นท็อปนี้ยังถูกเสริมสมรรถนะการขับขี่ด้วยระบบช่วงล่างไฟฟ้า ที่สามารถปรับเปลี่ยนและแปรผันค่าการทำงานของโช้กหน้า-หลัง ได้ตามโหมดการขับขี่ หรือสภาพผิวถนน ณ ช่วงเวลานั้นๆได้อีกด้วย

โดยตัวรถทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมกับโหมดการขับขี่มาตรฐานสองแบบ ได้แก่ ‘Rain’ และ ‘Road’ เพื่อการควบคุมที่เหมาะสมที่สุดในสภาพการขับขี่ที่หลากหลาย ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) และ ABS Pro ช่วยเพิ่มเสถียรภาพในการเข้าโค้งและการเบรก โหมด ‘Riding Modes Pro’ ที่เป็นอุปกรณ์เสริมจะเพิ่มโหมด ‘Dynamic’, ‘Enduro’ และ ‘Enduro Pro’ ซึ่งจะปรับการตอบสนองของคันเร่งและการเบรกให้รับกับทุกสภาพพื้นผิว

นอกจากนี้ Riding Modes Pro ยังช่วยให้คนขับขี่สามารถเลือกตั้งค่าปุ่มต่าง ๆ ที่แฮนด์ด้านขวา และการควบคุมแรงบิดลากของเครื่องยนต์เป็นอีกองค์ประกอบใหม่ของ Riding Modes Pro ระบบ Dynamic Traction Control (DTC) ที่ได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน

ซึ่งระบบข้างต้นเหล่านั้น ผู้ใช้จะสามารถปรับตั้งค่าได้ผ่านลูกบิดบนประกับซ้าย และข้อมูลจะแสดงผลบนชุดจอ TFT ขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ที่มีฟังก์ชันยิบย่อยต่างๆ เสริมเข้ามาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการนำทาง ควบคุมเพลง หรือรับสาย ผ่านแอปพลิเคชัน BMW Motorrad Connected

และตัวรถยังมีพอร์ตชาร์จ USB สองพอร์ต ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ มีพลังงานเพียงพอใช้งานระหว่างการขับขี่ทางไกล, มีแท่นยึดอุปกรณ์อเนกประสงค์ ช่วยให้นักขับขี่สามารถติดตั้งอุปกรณ์นำทาง กล้อง และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ และยังมีฟีเจอร์ด้านความสะดวกสบายที่เพิ่มขึ้นให้ผู้ขับขี่เลือกใช้งาน เช่น Keyless Ride ช่วยให้สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์และปลดล็อคฟังก์ชันต่างๆ ได้โดยไม่ต้องหยิบกุญแจออกจากกระเป๋ามาให้อีก

โดย BMW F900 GS มีให้เลือก 2 สีที่ต่างเน้นย้ำถึงความสปอร์ตและการขับขี่แบบออฟโรด ได้แก่
สีเหลือง São Paulo สำหรับรุ่น Passion และสีขาวตัดฟ้า Lightwhite / Racing Blue Metallic สำหรับรุ่น GS Trophy พร้อมสนนราคาที่ 665,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ส่วน BMW F900 GS Adventure ก็มาพร้อมตัวเลือกของสีสัน ได้แก่ สี Blackstorm Metallic สำหรับรุ่นพื้นฐาน และสี White Aluminium Matt สำหรับรุ่น Ride Pro สนนราคาเริ่มต้นที่ 689,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ซึ่งตัวรถทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง และสำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลตัวรถ ณ ศูนย์บริการและตัวแทนจำหน่ายรถมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad ทั่วประเทศได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.