ท่ามกลางการแข่งตลาดกระบะในประเทศไทย ผู้เล่นหน้าใหม่ ล่าสุด จากจีน อย่าง Riddara RD 6 อาจเขย่าตลาด ด้วยกระบะไฟฟ้า แต่ ล่าสุดในออสเตรเลีย ค่ายรถยนต์ KIA เปิดตัวกระบะ KIA Tasman วางจำหน่ายอย่างเป็นทาวการ และมันมีแววมาไทย

KIA Tasman 2025 เปิดตัววางจำหน่ายอย่างเป็นทางในออสเตรเลีย ในฐานะกระะบทางเลือก สำหรับลูกค้าชาวออสซี่ นำเสนอความแตกต่างในเรือนร่างตัวรถ ที่ดูพร้อมลุย กว่ากระบะ อื่นๆที่มาจาก ค่ายญี่ปุ่น

ตัวรถ KIA Tasman นำเสนอภาพของความเป็นกระบะดูบึกบึนพร้อมลุย อันที่จริง ตัง้แต่เห็นภาพครั้งแรก เราอาจจะเห็นแล้วรู้สึกว่า มันเหมือนกับ ตัวรถอย่าง Jeep ที่มีความผสานระหว่างงานออกแบบทรงกล่อง และความทันสมัย แบบรถยุคใหม่

ตัวรถมีความเหลี่ยมในหลายมิติ เพื่อให้ใช้งานง่าน จุดเด่น คือ ไฟหน้า ที่นำออกมาติดตั้ง ทางด้านข้าง แทนกว่าติดตั้งเปฌนโคมในช่วงบอดัเ ทำให้ มันมีความแปลก และแตกต่าง

ตัวรถมาพร้อม กระจังหน้าทรงตั้ง สื่อในต่างประเทศ กล่าว่า นั่นคล้ายกับ การไว้หนวด และเครา

ตลอดจน การออกแบบ ช่วงซุ้มล้อ หรือ Overfender ให้ความรู้สึกที่ดูลุย และแตกต่างจากรถหลายรุ่น

ในส่วนด้านท้าย ช่วงกระบะ ออกแบบให้เรียบง่ายแต่ดูดี บางที คุณอาจจะรู้สึกว่า มันเหมือนกับ Toyota Revo Champ ที่เติบโต เป็นวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่มากขึ้น

ทางด้านในห้องโดยสาร ทางค่ายเกาหลี นำเสนอ งานออกแบบมุ่งเน้นในความทันสมัย อย่าแปลกใจ ถ้าคิดว่าจอแสดงผลทั้ง 3 จอ ขนาด 12.3,5 และ 12.3 นิ้ว ดูคุ้นตา

เพราะนั่นเป็นจอแบบเดียวกับ ที่วางจำหน่ายใน KIA EV5 และยังคงมีปุ่มต่างๆมาให้ คุณใช้งาน อย่างครบครัน

จุดเด่นสำคัญ คือ ใต้เยาะนั่ง มีช่องเก็บของ ขนาด 33 ลิตร รวมถึง เบาะนั่งตอนหลัง มีพื้นที่วางขา ยาว 940 มม.​และ สามารถปรับเอนได้ ระหว่าง 22-30 องศา เพื่อความสบายในการโดยสาร

ในส่วนกระบะ มีความยาว 1,512 มม. กว้าง 1,572 มม.​และ ลึก 540 มม.​ สามารถจุได้ 1,173 ลิต รและมีพิกัดความสามารถ ลากจูง 3,500 กก. ในรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ

ส่วนตัวรถ มีความยาว รวม 5,410 มม.​กว้าง 1,930 มม.​สูง 1,920 มม. และมีฐานล้อยาว 3,270 มม.

ทางด้านการขับขี่ ค่ายเกาหลี เลือกติดตั้ง เครื่องยนต์ 2 รุ่น ให้ เจ้า KIS Tasman เริ่มจากเครื่องยนต์เบนซิน 2.5 ลิตร ให้กำลังขับสูงสุด 281 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 421 นิวตันเมตร ทำอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 8.5 วินาที และ ความเร็วสูงสุด 185 ก.ม./ช.ม.

ทางด้านรุ่นที่คาดว่าจะเข้าวางจำหน่ายในไทย น่าจะเป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล ทำกำลังขับสูงสุด 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 441 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ช.ม. ในเวลา 10.4 วินาที

โดยทั้งคูจะติดตั้งเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด และในส่วนเครื่องยนต์ดีเซล จะมีทางเลือก รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้ลูกค้าเลือกด้วย

อย่างไรก็ดี ส่วนที่น่าสนใจอีกประการ คือ ทางค่ายเกาหลี ระบุว่า ทางค่ายได้ติดตั้ง ระบโช๊คอัพ Kia’s frequency selective Sensitive Damper Control (SDC) และ Hydraulic Rebound Stop technology. เพื่อมอบความสบายในการโดยสาร และ ช่วงในการควบคุมตัวรถ โดยเฉพาะในเส้นทางสมบุกสมบัน ช่วยให้สามารถผ่านได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ทางด้านตัวระ ยังได้รับการติดตั้งระบบ All Wheeส Drive เข้ามา พร้อมโหมดการลุย ได้ทุกสภาพพื้นที่ โดยจะมีโหมดต่างๆ ซึ่งจะแยกไปตามแต่ละรุ่นย่อย ได้แก่ โหมด ทราย,โคลน, หิมะ และ หิน และถูกติดตั้งให้กับรถที่ขายในตะวันออกกลาง และ ออสเตรเลีย เพิ่มเติม จากโหมด ปกติ คือ Normal , Eco , Sport

ด้าน อาวุธ ทางลุย มีระบบ e-LD ,Rear Electronic Locking Differential  และ ระบบ X-trek หรือ Cruise Control ในทางออฟโรด นอกจากนี้ ยังมีโหมด Kia’s Ground View Monitor (GVM) สามารถประมวลผลภาพ เพื่อดู อุปสรรคในเส้นทาง เพื่อให้สามารถผ่านเส้นทางลุย ได้อย่างราบรื่น

KIA Tasman จะเริ่มขายในตะวันออกกลาง และ ออสตรเลีย ในปี 2025 ตามประกาศของทางค่ายเกาหลี โดยตลาดหลักรถรุ่นนี้ ทางเกีย มองว่า คือตะวันออกกลาง

ส่วนประเทศไทย ต้องยอมรับว่าในฐานะ ตลาดกระบะ เบอร์ต้นๆ ของประเทศ มีโอกาส อยู่พอสมควร ที่รถรุ่นนี้จะมาวางจำหน่ายในบ้านเรา

ข้อมูล KIA Global