Home » Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology เปิดขายไทย ราคา เริ่มต้น 9.5 ล้าน บาท
รถใหม่ รถใหม่ในประเทศ ราคารถใหม่

Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology เปิดขายไทย ราคา เริ่มต้น 9.5 ล้าน บาท

หลังการเปิดตัว Mercedes-EQ จนครบทุกไลน์อัพ ก็ได้เวลาของ G-Class รุ่นขุมกำลังพลังงงานไฟฟ้าล้วน Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology จะถูกนำมาวางจำหน่ายในประเทศไทยของเราบ้าง กับ ราคา เริ่มต้น 9.5 ล้านบาท

Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology ครั้งแรกกับการสานต่อตำนาน 45 ปี ของ G-Class เจ้าของฉายา “King of Off-Road” ผสมผสานสมรรถนะระดับสูง และความหรูหราตามแบบฉบับของ เมอร์เซเดส-เบนซ์ แต่ยังคงความคลาสสิกด้วยรูปลักษณ์สไตล์ทรงกล่องได้อย่างลงตัว ให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ “STANDARD” และ “EDITION ONE”

โดยตัวรถทั้ง 2 รุ่น มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แยกกันขับเคลื่อนชุดล้อทั้ง 4 ล้อ แบบ All-Wheel Drive ให้กำลังสูงสุด 587 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1,164 นิวตันเมตร พร้อมความสามารถในการทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 4.7 วินาที สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ 180 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ตัวแบตเตอรี่ที่ติดรถมา มีขนาด 116 kWh รองรับระยะทางในการใช้งานได้ไกลถึง 473 กิโลเมตร (WLTP) ต่อการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 1 ครั้ง รองรับการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC charge) สูงถึง 200 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10-80% ในเวลา 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 11 ชั่วโมง 45 นาที

โครงสร้างตัวถังนิรภัยถูกออกแบบมาพร้อมความแข็งแรงและทนทานด้วยการใช้เหล็กกล้าที่มีความหนากว่า 3.4 มิลลิเมตร และยังเสริมแผ่นกันกระแทก Carbon-fibre skid plate หนา 3 ซม. สำหรับการปกป้องแบตเตอรี่แบบ high-voltage เข้ามาใต้ท้องรถ

พร้อมตอบสนองทุกการขับขี่ทั้งแบบ on-road และ off-road โดยการขับขี่แบบ off-road จะมาพร้อม G-TURN ซึ่งเป็นระบบการกลับรถรูปแบบใหม่ที่สามารถหมุนรถได้ถึง 720 องศา หรือ 2 รอบ ช่วยให้ตัวรถสามารถหมุนตัวกลับได้ในทันที และระบบการเข้าโค้งแบบ G-STEERING ช่วยลดรัศมีวงเลี้ยวให้แคบลง โดยสั่งการให้แต่ละล้อเพิ่มหรือลดกำลังอย่างอิสระตามสถานการณ์ ในความเร็วไม่เกิน 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้การเข้าโค้งง่ายดายกว่าที่เคย โดยทั้งสองระบบนี้จะจำกัดให้สามารถทำงานได้บนพื้นถนนที่เป็น off-road แบบถนนทรายหรือถนนเปียกเท่านั้น

G 580 with EQ Technology มาพร้อมกับ ELECTRIC DYNAMIC SELECT โปรแกรมรูปแบบการขับขี่ที่มีให้เลือกมากถึง 5 แบบ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการขับขี่ on-road มีให้เลือก 3 โปรแกรม ได้แก่ Comfort, Sport และ Individual นอกจากนี้ เสริมด้วยโปรแกรมการขับขี่เฉพาะสำหรับรูปแบบการขับขี่แบบ off-road ให้เลือก 2 โปรแกรม ได้แก่ Trail และ Rock โดยการใช้งานโปรแกรมการขับขี่ LOW RANGE จะสามารถใช้ได้แค่ในโหมด ‘Rock’ เท่านั้น

มอบทัศนวิสัยการขับขี่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเทคโนโลยีไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED สามารถตรวจจับทางโค้งและมุมอับสายตาอย่างแม่นยำ ผสานการทำงานกับฟังก์ชัน ULTRA RANGE Highbeam ปรับความสว่างของไฟหน้าให้ส่องได้ไกลกว่า 650 เมตร โดยอัตโนมัติหากไม่พบรถยนต์ที่วิ่งสวนทาง ช่วยให้การขับรถทางไกลนอกเมืองเป็นไปอย่างราบรื่น

และยังมาพร้อมระบบส่องสว่างอัจฉริยะ (ILS – Intelligent Light System) ที่จะปรับเปลี่ยนการทำงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์การขับขี่และรูปแบบของถนน ระบบ ALS (Active Light System) ปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ระบบ Cornering Light เพิ่มการส่องสว่างขณะเลี้ยวโค้ง และระบบ Adaptive Highbeam Assist ปรับไฟสูงอัตโนมัติไม่ให้รบกวนสายตาของผู้ขับขี่เลนตรงข้าม

Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology ติดตั้งล้ออัลลอย 5-twin-spoke ขนาด 18 นิ้ว พ่นสี high-gloss black พร้อมระบบช่วงล่างแบบ Suspension with adaptive damping adjustment ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการตอบสนองผ่านโหมดการขับขี่ต่าง ๆ รวมถึงปรับตาม differential locks ที่กำลังใช้งานอยู่ ณ ขณะนั้น ให้เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง เมื่อขับขี่บนถนนเรียบ ระบบจะปรับช่วงล่างให้มีการตอบสนองต่ำ เพื่อลดแรงสะเทือนและเสียงดังที่เกิดจากยาง แต่เมื่อขับขี่บนถนนขรุขระ ระบบจะปรับช่วงล่างให้มีการตอบสนองสูงขึ้น เพื่อความรู้สึกนุ่มนวลและสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

ในส่วนของเทคโนโลยีและระบบความบันเทิง มาพร้อมระบบปฏิบัติการ MBUX7 ทำงานโดยใช้ AI ที่จะจดจำรูปแบบการใช้งาน และปรับการตั้งค่าให้เหมาะสมกับผู้ขับขี่แต่ละคน ติดตั้งหน้าจอความละเอียดสูงพร้อมระบบควบคุมแบบสัมผัส ขนาด 12.35 นิ้ว สามารถควบคุมการทำงานของระบบต่าง ๆ ผ่านการสัมผัสและแสดงข้อมูลที่ชัดเจน เช่น ระบบนำทางและการเชื่อมต่อมัลติมีเดีย รองรับการสั่งงานด้วยเสียงเจเนอเรชันใหม่ได้ถึง 27 ภาษา

นอกจากนี้ ยังทำงานร่วมกับระบบเสียง Burmester® 3D surround sound system พร้อมลำโพงคุณภาพสูง DSP 16 amplifier channels จำนวน 18 ตัว รอบห้องโดยสารด้วยกำลังขับขนาด 760 วัตต์ ถ่ายทอดเสียงอันไพเราะด้วยโหมดเสียงพิเศษแบบ Pure & 3D-Sound ที่ Burmester® ออกแบบมาสำหรับ The new G-Class โดยเฉพาะ

รถยนต์คันนี้มาพร้อมความโดดเด่นของระบบความปลอดภัย Assistance Package แบบจัดเต็ม อาทิ ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Active Distance Assist DISTRONIC) ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องทางจราจร (Active Lane Keeping Assist) Active Steering Assist, ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตา (Active Blind Spot Assist) ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัย (Active Steering Assist) และ Parking Package พร้อมกล้องรอบคัน 360° ฯลฯ 

Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology EDITION ONE”

สำหรับ Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology ยังมาพร้อมรุ่นพิเศษ EDITION ONE ที่ยกระดับฟีเจอร์ต่าง ๆ ไปอีกขั้น อาทิ ระบบกุญแจ KEYLESS-GO ชุดแต่งภายนอกรอบคันแบบ AMG Bodystyling ชุดแต่ง Night Package และ MANUFAKTUR logo package in black โดยจะมีสัญลักษณ์รูปตัว G เพื่อสื่อถึงไอคอนิกของ G-Class ทุกตำแหน่ง เช่น มือจับประตู ไฟส่องที่พื้น และด้านหลังของที่เก็บสัมภาระ

ทั้งยังเพิ่มความโดดเด่นด้วยเส้นด้านข้างของตัวรถ ซึ่งจะถูกตกแต่งด้วยสีเงินและสีน้ำเงิน มาพร้อมกันชนหน้าและคาลิปเปอร์ที่ตกแต่งด้วยสีน้ำเงินเช่นกัน ช่วงล่างติดตั้งล้ออัลลอย AMG 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว ที่มีรูปแบบให้เลือกมากยิ่งขึ้นตามความชื่นชอบของผู้ขับขี่  

ดีไซน์ภายในของรุ่น EDITION ONE มีการตกแต่งแบบ AMG Interior มาพร้อมเบาะนั่งทูโทนตัดสลับ
สีเงิน และเดินด้วยด้ายสีน้ำเงินทั้งคัน พร้อมกับ Trim Carbon-fibre แบบพิเศษ ที่ตกแต่งด้วยสีน้ำเงิน รวมถึงการเพิ่ม Active Multi Contour Seat ของเบาะนั่งคู่หน้า ช่วยให้ทุกการขับขี่และการโดยสารเป็นไปอย่างสะดวกสบาย

รุ่นเครื่องยนต์แรงม้าสูงสุด
  (แรงม้า)
แรงบิดสูงสุด (นิวตันเมตร)อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.
(วินาที)
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)
Mercedes-Benz G 580 with EQ Technologyมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แยกติดตั้ง 4 ล้อ (4 Permanently Excited Synchronous Motors – One Per Wheel)5871,1644.7180
  • Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology รุ่น “STANDARD วางจำหน่ายเริ่มต้นในราคา 9,500,000 บาท
  • Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology รุ่น “EDITION ONE” วางจำหน่ายเริ่มต้นในราคา 12,200,000 บาท

โดยรุ่น “STANDARD” มีสีตัวถังให้เลือกทั้ง Metallic Paints และ Non-Metallic Paints กว่า 8 สี, MANUFAKTUR Metallic Paints 8 สี, MANUFAKTUR Non-Metallic Paints 6 สี, MANUFAKTUR Bright Paints 1 สี, MANUFAKTUR Magno Paints 10 สี, MANUFAKTUR Exclusive Magno Paints 3 สี, และสีน้ำเงิน (MANUFAKTUR South Sea Blue Magno) ซึ่งเป็นสีเฉพาะสำหรับ Mercedes-Benz G 580 with EQ Technology อย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนรุ่นพิเศษ EDITION ONE” มีสีตัวถังพิเศษให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ (Obsidian Black Metallic) สีน้ำเงิน (MANUFAKTUR South Seas Blue Magno) สีขาว (MANUFAKTUR Opalite White Bright) และสีเทา (MANUFAKTUR Classic Grey Non-metallic)

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.