หลังปล่อยให้ Tesla Model 3 ชิงปรับโฉมไปก่อนตั้งแต่ปลายปี 2023 ดูเหมือนว่าตอนนี้ฝั่ง Tesla Model Y อีกหนึ่งตัวขายยอดนิยมของแบรนด์ ก็ใกล้จะได้เวลาเปิดตัวร่างปรับหน้าแล้วเช่นกัน โดยอาจจะเกิดขึ้นในอีกไม่เกิน 1 เดือนนับจากนี้กันเลย
จากการรายงานโดยสื่อประเทศจีน Sina ระบุว่า ตัวรถ Tesla Model Y รุ่นใหม่ ที่ใช้โคเดเนม “Juniper” ได้ถูกวางกำหนดการผลิตไว้แล้ว ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคม ปี 2025 ณ โรงงานในเมืองชางให่ ประเทศจีน โดยแหล่งข้อมูลต้นทางยังระบุอีกว่าอันที่จริงทางค่ายได้มีการเดินหน้าผลิตรถร่างต้นแบบเอาไว้แล้ว สำหรับการาจำลองและใช้ในการวางแผนเตรียมผลิตจริงต่อไป เพื่อลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อตัวรถถูกเปิดไลน์ผลิตอย่างเต็มกำลังในอีกไม่ถึงเดือนต่อจากนี้
โดยเบื้องต้น ทาง Tesla อาจมีการขายตัวรถ Model Y รุ่นใหม่ ภายใต้ 2 ร่าง ด้วยกัน ได้แก่ รุ่นมาตรฐาน ที่มาพร้อมทางเลือกย่อยแบบที่นั่ง 2 แถว สำหรับ 5 คน และ ที่นั่ง 3 แถว ซึ่งจะมีการเพิ่มที่นั่ง “เล็กๆ” เข้ามาทางด้านหลัง ให้เด็กนั่ง ซึ่งจะประเดิมขายกันเลยตั้งแต่ต้นปี
ส่วนในช่วงปลายปี ทางค่ายก็จะเสริมทัพต่อ ด้วยรุ่นตัวถังฐานล้อยาว ซึ่งจะมีการแบ่งที่นั่งออกเป็น 3 แถวเช่นกัน แต่จะแบ่งที่นั่งออกเป็นแถวละ 2 ตำแหน่ง โดยที่นั่งแถวหลังสุดจะสามารถทำให้ใหญ่ขึ้นได้กว่ารุ่นตัวถังฐานล้อมาตรฐานเล็กน้อย และดูเหมือนว่ารุ่นฐานล้อยาวนี้ จะมีไว้ขายแค่เฉพาะในจีนก่อนเท่านั้น
ด้านงานออกแบบตัวรถรอบคัน โดยหลักและอ้างอิงจากคลิปรถทดสอบที่กำลังวิ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา เราก็จะพบว่ามีความเป็นไปได้สูงมากๆว่า Model Y รุ่นใหม่ จะมาพร้อมกับหน้าตาที่ไม่หนีไปจาก Tesla Model 3 รุ่นล่าสุดมากนัก ด้วยการปรับเปลี่ยนงานออกแบบไฟหน้า-ไฟท้ายใหม่ ให้ดูโฉบเฉี่ยวเพรียวบางมากขึ้น และปรับเส้นสายบนกันชนหน้ากับกันชนท้ายใหม่ ให้รับกับงานออกแบบไฟหน้าและไฟท้ายที่เปลี่ยนไป รวมถึงมีการเปลี่ยนลายล้อ(หรือที่ครอบล้อ ?)ใหม่อีกเล็กน้อย เพื่อไม่ให้รถดูจำเจจนเกินไป
ส่วนภายในห้องโดยสาร ก็คาดว่าทางค่ายจะมีการปรับส่วนควบต่างๆใหม่ ในลักษณะเดียวกับ Model 3 ตัวล่าสุดเช่นกัน ทั้ง คอนโซลหน้าที่ดูสะอาดตามากขึ้น ปรับเปลี่ยนรูปทรงพวงมาลัยใหม่ และถอดก้านเปิดไฟเลี้ยว ก้านเปิด-ปิดระบบปรับน้ำฝน และปรับตำแหน่งเกียร์ทิ้งไป (เพราะเกือบทั้งหมด ถูกย้ายระบบสั่งการไปไว้ในหน้าจอ), ปรับเปลี่ยนรูปทรงเบาะใหม่, เพิ่มระบบไฟแวดล้อม, และเพิ่มจอทัชสกรีนไว้เหนือช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เอาไว้ปรับเซ็ทระบบปรับอากาศ หรือดูระบบความบันเทิงก็ได้
น้องจากนี้ แหล่งข้อมูลยังระบุอีกว่า ทาง Tesla จะมีการปรับปรุงวัสดุตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ และอัพเกรดโครงสร้างตัวถัง กับช่วงล่างใหม่ เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบาย นุ่มนวล และมั่นใจยิ่งขึ้น รวมถึงชิ้นส่วนฮาร์ดแวร์ระบบความปลอดภัยต่างๆเอง ก็จะได้รับการปรับปรุงเช่นกัน
นอกนั้นในส่วนของตัวแบตเตอรี่ และมอเตอร์ไฟฟ้า อาจจะยังคงยกมาจากรุ่นก่อนหน้า แค่มีการปรับปรุงในส่วนของระบบซอฟท์แวร์ เพื่อการจัดการพลังงานใหม่ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นก็เท่านั้น
ด้านราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเอง ก็เป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ แต่อย่างน้อยที่สุดก็มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะถูกปรับราคาขึ้นจากรุ่นปัจจุบันพอประมาณ เนื่องจากตัวรถรุ่นปัจจุบันก็ถูกหั่นราคาลงมา (เพื่อระบายสต็อค) พอสมควรแล้วนั่นเอง