Kia AD

Home » Afeela 1 รถยนต์ไฟฟ้าโปรเจ็กท์ร่วม Honda – Sony เปิดขายสหรัฐอเมริกา เริ่ม 3.1 ล้านบาท

Kia AD

Suzuki AD

รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

Afeela 1 รถยนต์ไฟฟ้าโปรเจ็กท์ร่วม Honda – Sony เปิดขายสหรัฐอเมริกา เริ่ม 3.1 ล้านบาท

หลังประกาศความร่วมมือในการพัฒนารถยนต์ร่วมกันนานหลายปี ในที่สุด Afeela 1 EV รถยนต์โปรเจ็กท์ร่วมระหว่าง Honda และ Sony ก็พร้อมแล้วสำหรับการเปิดตัวร่างขายจริงออกมา พร้อมตั้งราคาสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยราคาเริ่มต้น 89,900 ดอลล่าร์ หรือราวๆ 3.11 ล้านบาท

หลังการประกาศจับมือกันอย่างเป็นทางการระหว่าง Honda และ Sony จนเกิดเป็นบริษัท Sony Honda Mobility (SHM) และเผยโฉมร่างต้นแบบครั้งแรกในงาน CES เมื่อปี 2023

ในที่สุด ณ งานเดียวกันของปี 2025 นี้ ทางค่ายก็ได้เผยโฉมร่างขายจริงของ Afeela 1 ออกมา พร้อมกับระบุราคาตัวรถทั้ง 2 รุ่นย่อย ได้แก่รุ่น Origin และรุ่น Signature สำหรับการเปิดรับจองก่อนส่งมอบภายในช่วงกลางปี 2026

โดยตัวรถรุ่นนี้ มาพร้อมกับขนาดตัวถังด้านยาว 4,915 มิลลิเมตร, ด้านยาว 1,900 มิลลิเมตร, ด้านสูง 1,461 มิลลิเมตร, ระยะฐานล้ออีก 3,000 มิลลิเมตร, ความสูงใต้ท้องรถอีก 137 มิลลิเมตร, และมีความจุพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังอีกมากถึง 764.5 ลิตร

ส่วนระบบกันสะเทือน ด้านหน้าก็เป็นแบบปีกนกคู่ และด้านหลังก็เป็นแบบมัลติลิงค์ ซึ่งเบื้องต้นจะมาพร้อมกับระบบโช้กอัพและสปริงแบบปรับและแปรผันค่าด้วยระบบไฟฟ้า ซึ่งทั้งหมดก็เพื่อให้รับกับพละกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ที่ให้กำลังรวมกันสูงสุด 490 แรงม้า PS

ขณะที่ตัวแบตเตอรี่ ก็มีขนาด 91 kWh ซึ่งรองรับระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จสูงสุด 483 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน EPA และรองรับการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสตรง DC สูงสุด 150 kW ส่วนการชาร์จด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ AC ก็จะรองรับกำลังไฟได้สูงสุด 11 kW

ขณะเดียวกันตัวรถก็โดดเด่นด้วยรูปทรงตัวถังแบบรถซีดานท้ายลาด หรือฟาสท์แบ็ค และใช้งานออกแบบตัวถังที่เน้นความเรียบง่ายแต่ทันสมัย ไม่ได้ใช้เส้นสายที่หวือหวา แต่เน้นความสะอาดตาบนรูปทรรงตัวถังที่โค้งมนแล้วใส่รายละเอียดการตกแต่งต่างๆเข้าไปเพื่อให้ตัวรถดูมีความโมเดิร์นสูง ทั้ง แถบไฟหน้าที่มีการปาดมุมแหลมคมด้านข้าง

แต่มีการคาดแถบกระจังหน้าเป็นเส้นตรงไปจนถึงไฟหน้าอีกฝั่ง ซึ่งตัวแถบคาดกลางที่ว่านี้ ก็จะทำหน้าที่เป็นหน้าจอ MEDIA Bar เพื่อแสดงผลข้อความและสัญญาณเตือนต่างๆให้ผู้คนที่อยู่ภายนอกตัวรถได้เข้าใจถึงสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น หรือผู้โดยสารภายในรถต้องการจะสื่อ เช่นข้อความ สวัสดี, ทักทาย, แจ้งเตือนการชน, บอกระบบแบตเตอรี่, แม้แต่การบอกว่าตอนนี้ผู้โดยสารในรถเล่นเกมอะไรของแพลตฟอร์ม PlayStation อยู่ ก็ยังบอกเป็นกราฟฟิกภาพสีสดไสแสดงออกมา

ส่วนด้านข้างตัวรถ ก็เรียบง่าย แต่ล้ำสมัยด้วยประตูเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า เมื่อเรดาร์ตรวจพบความเคลื่อนไหวของผู้ใช้ (ยืนยันตัวตนด้วยกุญแจ หรือโทรศัพท์ก็ว่ากันไป) เช่นเดียวกับฝาปิดพอร์ทชาร์จแบบ NACS Superchager ที่จะถูกเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้าเช่นกัน และมันยังโดดเด่นด้วยชุดล้อลายเกือบปิดทึบตามฉบับรถไฟฟ้า แต่หน้าตาดูแหวกแนวกว่ารถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติยุโรปและจีน หรือเกาหลีพอสมควร แถมยังมีให้เลอืกทั้งขนาด 19 นิ้ว หรือ 21 แน้ว แล้วแต่รุ่นย่อย และด้านท้ายตัวรถก็ยังคงเน้นความสะอาดตาเช่นเดียวกันด้านหน้า และแม้แถบคาดกลางไฟท้ายของมัน จะไม่ได้มีจอแสดงผลตรงกลางเหมือนด้านหน้า แต่มันก็ยังมีลูกเล่นสปอยเลอร์แบบกางยก หรือ พับเก็บไฟฟ้า ใส่มาให้

และท้ายสุดคือหลังคาตัวรถ ที่มีส่วนนูนโหนกออกมาเหนือกรอบกระจกบานหน้า 3 จุด ซึ่งเป็นที่ตั้งของเซนเซอร์ตรวจจับวัตถุทางด้านหน้า โดยเป็นทั้งเซนเซอร์คลื่นสั้น และ LiDAR Sensor ตรงกลาง ซึ่งจะทำงานร่วมกับเซนเซอร์รับภาพ และเรดาร์อื่นๆรอบคัน ที่นับรวมกันได้กว่า 40 จุด เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร และการเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อมรอบคันเพื่อใช้ประมวลผลระบบขับขี่อัตโนมัติ AFEELA Intelligent Drive (Level 2+), ระบบช่วยจอด และอื่นๆอีกมากมายที่ถูกใส่เข้ามา

ด้วยราคาระดับ 3 ล้านกว่าบาท (เมื่อแปลงค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐเป็นเงินบาทไทย) จึงทำให้ภายในห้องโดยสารของมัน จะถูกใส่เต็มความพรีเมียม เพื่อความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารมากมาก ทั้งเบาะนั่งหุ้มหนังอัลตร้าซูเอดและหนังกลับอัลคันทาร่า พร้อมระบบระบายอากาศ พวงมาลัยสไตล์โมเดิร์น, แท่นไวร์เลสชาร์จ 2 จุด, แท่นและลูกบิดปรับใช้ลูกเล่นต่างๆของตัวรถตรงกลางแบบมัลติฟังก์ชัน

แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่าคือลูกเล่นเรื่องระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆที่ถูกใส่เข้าไป ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์ขนาดใหญ่ ที่กินพื้นที่ตั้งแต่กลางคอนโซล ถึงด้านหน้าผู้โดยสาร ซึ่งนอกจากมันจะสามารถแสดงผลแอพลิเคชันต่างๆที่ติดมากับรถได้อย่างเต็มพิกัด ผู้โดยสารยังสามารถใช้จอนี้เล่นเกม หรือเสพความบันเทิงอื่นๆได้อย่างเต็มที่ เท่าที่มีอยู่บนแพลตฟอร์มของ Sony

นอกจากนี้ยังมีระบบเครื่องเสียง 360 Spatial Sound ที่ถูกพัฒนาโดย Sony ซึ่งไม่ใช่แค่สามารถปล่อยพลังเสียงอันน่าอภิรมย์ออกมาเท่านั้น แต่ยังมีระบบตัดเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อให้ภายในห้องโดยสารมีความเงียบสงบมากที่สุดด้วย และในฝั่งผู้โดยสารตอนหลัง ก็ยังมีหน้าจอแสดงผล ขนาด 12.9 นิ้ว 2 ตำแหน่ง ติดตั้งมาให้เสร็จสรรพ ซึ่งมันก็สามารถใช้รับชมความบันเทิง และเล่นเกมต่างๆได้เช่นกันไม่ต่างจากจอด้านหน้าผู้โดยสารแถวหน้า ซึ่งทั้งหมดจะใช้ชิปประมวลผลของ Qualcomm เป็นสมองกลส่วนกลาง ซึ่งก็นับว่าไม่น่าแปลกใจตามฉบับของบริษัทด้านเทคโนโลยีอย่าง Sony นั่นเอง

โดยตัวรถ Afeela 1 มีการเปิดราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ 89,900 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,110,000 บาท สำหรับรุ่น Origin ที่เป็นรุ่นเริ่มต้น มาพร้อมชุดล้อ 19 นิ้ว, ไม่มีจอคู่หลังสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ห้องโดยสารสีดำล้วน เช่นเดียวกันสีภายนอกก็มีให้เลือกแค่สีดำ

ส่วนรุ่น Signature ก็จะสนนราคา 102,900 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราวๆ 3,566,000 บาท ซึ่งเป็นรุ่นท็อป ที่จะได้ชุดล้อ 21 นิ้ว พร้อมหน้ายางกว้างขึ้น, มีจอสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ภายในห้องโดยสารสามารถเลือกได้ว่าจะตกแต่งด้วยโทนสีดำหรือสีขาว, สีตัวถังเลือกได้ทั้งสีขาว สีเทา หรือ สีดำ, ระบบกล้องมองหลังพร้อมฉายภาพบนจอที่กระจกมองหลังพร้อมระบบเชื่อมต่อ HomeLink เป็นต้น

ขณะที่กำหนดการส่งมอบตัวรถ จะเริ่มในช่วงกลางปี 2026 สำหรับรุ่น Signature และในส่วนรุ่น Origin ก็จะเริ่มส่งมอบในช่วงต้นปี 2027 ซึ่งหมายถึงเฉพาะในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาเท่านั้น ส่วนในประเทศอื่นๆยังต้องรอติดตามกันต่อไปไม่เว้นแม้แต่ในประเทศญี่ปุ่นบ้านเกิดของแบรนด์ก็ตาม

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.