Kia AD

Home » 2025 Suzuki Solio / Solio Bandit เคคาร์หน้าใหม่ เน้นใส่สไตล์หรูหราน่าใช้กว่าเดิม

Kia AD

Suzuki AD

รถใหม่ รถใหม่ต่างประเทศ

2025 Suzuki Solio / Solio Bandit เคคาร์หน้าใหม่ เน้นใส่สไตล์หรูหราน่าใช้กว่าเดิม

ผ่านไป 4 ปีนิดๆ นับตั้งแต่การปรับโฉมครั้งใหญ่ ตอนนี้ก็ได้เวลาแล้วที่ทางค่ายจะต้องเพิ่มความสดใหม่ให้กับ 2025 Suzuki Solio / Suzuki Solio Bandit

ด้วยความเป็นรถร่างปรับโฉมแบบ Minor Change จึงไม่น่าแปลกใจนักที่ 2025 Suzuki Solio / Solio Bandit จะไม่ได้มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่มากนัก นอกไปเสียจากการปรับงานออกแบบภายนอกใหม่ และออพชันใหม่ให้ดูน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น

เริ่มจากไลน์อัพหรูอย่าง Solio Bandit ซึ่งเป็นตัวรถรุ่นพรีเมียมที่คราวนี้ได้รับการแต่งหน้าทาปากใหม่ ให้ดูมีความหรูหรามากขึ้นไปอีกขั้น ด้วยกระจังหน้าขนาดใหญ่พร้อมแถบตะแกรงแบบแนวตั้งจากบนจรดล่าง ซึ่งดูไปดูมาก็เหมือนกับงานออกแบบกระจังหน้าของ Toyota Alphard และ Vellfire อยู่ไม่น้อย

ในขณะเดียวกัน ด้วยการตีกรอบขนาบข้างแนวไฟหน้า แบบแยกส่วนดวงไฟหลักกับไฟ DRL ลงไปถึงกรอบไฟตัดหมอก แต่มีการตวัดขอบให้เบนออกด้านข้างทั้งด้านบนและด้านล่างนั้น กลับทำให้มันดูเหมือนกับว่าเป็นเส้นสายที่หยิบยืมมาจากงานออกแบบกระจังหน้า Dynamic Shield ของ Mitsubishi อีกทีแทน

ส่วนตัวรถ Solio รุ่นพื้นฐาน จะเน้นงานออกแบบที่ดูพอดิบพอดี ไม่หรูเกินไป แต่ก็ไม่จืดชืดมากนัก ด้วยกระจังหน้าใหม่ขนาดใหญ่ แต่ใช้ตะแกรงแบบแถบนอนพร้อมการเล่นชิ้นงานโครเมียม 3 ชั้นด้านบน และบริเวณกรอบไฟตัดหมอกด้านล่าง ส่วนไฟหน้าก็มีการปรับงานออกแบบใหม่เล็กน้อย โดยแม้จะไม่ได้เป็นแบบแยกส่วน แต่ก็สวยงามลงตัว ด้วยดวงไฟ LED Projector ขนาดใหญ่ และแถบไฟ DRL สอดทางด้านล่างคล้ายกับ Suzuki Swift

นอกนั้นในด้านงานออกแบบอื่นๆของตัวรถ ทั้งตัวถังด้านข้าง ตัวถังด้านท้าย และไฟท้าย ทั้งหมดล้วนยังคงเดิม แแต่ที่เพิ่มขึ้นมาคือ เฉดสีใหม่อย่าง เฉดสี Speedy Blue Metallic ในทั้งสองรุ่นย่อย โดยที่ตัว Bandit จะมีออพชันหลังคาดำมาให้เลือกซื้อกันด้วย

ภายในห้องโดยสาร ก็มีการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย ดว้ยการเพิ่มระบบเบรกมือไฟฟ้าเข้ามา และปรับปรุงระบบเชื่อมต่อกับหน้าจออินโฟเทนเมนท์ใหม่ อย่างระบบ Suzuki Connect ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่นเดียวกับระบบ ADAS ที่มีการเพิ่มฟังก์ชันระบบ Adaptive Cruise Control, Lane Keeping Assist, และ Blind Spot Monitor ใหม่เข้ามา

นอกนั้นตัวรถยังคงใช้โครงสร้างแพลตฟอร์ม Heartect แบบเดียวกับ Suzuki Swift และมาพร้อมกับเครื่องยนต์ 3 สูบเรียง 1.2 ลิตร พ่วงระบบ Mild Hybrid ที่ให้กำลังสูงสุด 82 แรงม้า PS และแรงบิดสูงสุด 109 นิวตันเมตร ตามเดิม เช่นเดียวกับระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ก่อนจะส่งกำลังไปยังชุดล้อคู่หน้าหรือทั้งหมดในแบบ 4WD Full Time แล้วแต่ออพชัน

โดยราคาของตัวรถสำหรับการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น จะเริ่มจ้นที่ 1,926,100 เยน หรือราวๆ 421,000 บาท สำหรับตัวรถ Suzuki Solio และจะขยับขึ้นเป็น 2,303,400 เยน หรือราวๆ 504,000 บาท สำหรับตัวรถ Suzuki Solio Bandit ซึ่งหากใครที่อยากเห็นมันถูกนำมาทำตลาดในประเทศไทย งานนี้ก็อาจจะต้องรอแบบมีความหวังริบหรี่กันสักหน่อย เพราะทาง Suzuki ประเทศไทย ไม่เคยมีแผนจะทำตลาดรถยนต์ระดับเคคาร์ในบ้านเรามาก่อนเลยนั่นเอง

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.