แม้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เราอาจเคยได้เห็นรายงานว่าทาง Porsche ประสบปัญหาหนักด้านการทำยอดขายรถของพวกเขาในประเทศจีนช่วงปี 2024 แต่ในความเป็นจริง สำหรับประเทศอื่นๆนอกจากนั้น พวกเขากลับทำผลงานยอดขายออกมาได้ดีเลยทีเดียว
จากการเปิดเผยข้อมูลโดย Porsche เปิดเผยว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา พวกเขาสามารถทำยอดขายรถยนต์ของตนเองในตลาดโลกไปได้ทั้งหมด 310,718 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่หดตัวจากปีก่อนเพียง 3% เท่านั้น จากที่เคยทำได้ 320,221 คัน ในปี 2023
โดยสาเหตุที่ยอดขายรถยนต์ของแบรนด์ในตลาดโลกลดลงไปเกือบหมื่นคัน หลักๆแล้วก็ต้องพุ่งเป้าไปในประเทศจีน ที่ประชาชนเริ่มหันกลับไปเลือกซื้อรถยนต์สัญชาติตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ในปี 2024 ที่ผ่านมานั้น ทางค่ายสามารถขายรถของพวกเขาในประเทศดังกล่าวไปได้เพียง 56,887 คัน โดยมันถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยกว่าปีก่อน ซึ่งเคยขายได้ 79,283 คัน อยู่ -28% หรือหายไปกว่า 22,396 คัน
แต่นอกนั้นในประเทศอื่นๆ ยอดขายรถยนต์ของแบรนด์กลับมียอดขายที่สูงขึ้น ซึ่งช่วยกู้สถานการณ์ได้ดี ทั้งในบ้านเกิดอย่างประเทศเยอรมัน ที่ส่งมอบรถไปได้ทั้งหมด 35,858 คัน ซึ่งเติบโตขึ้น 11% หรือหากมองไปที่ประเทศอื่นๆในทวีปยุโรปรวมกัน ก็จะมีรถถูกส่งมอบไปทั้งหมด 75,899 คัน ซึ่งก็นับว่าเติบโตขึ้น 8% เช่นกัน
ส่วนในตลาดใหญ่สุดอย่างทวีปอเมริกาเหนือ ก็มีการส่งมอบรถ Porsche ไปกว่า 86,541 คัน หรือเพิ่มขึ้นมา 1% และท้ายสุดสำหรับตลาดในภูมิภาคยิบย่อยอื่นๆ ทั้งตะวันออกกลาง, ทวีปแอฟริกา, หรือเอเชียอื่นๆไม่นับจีน ก็จะมีการส่งมอบรถไปทั้งหมดรวกันได้ 55,533 คัน ซึ่งถือว่าเติบโตขึ้น 6%
หากเจาะจงไปที่โมเดลรถยนต์แต่ละรุ่น เราจะพบว่าด้วยความต้องการของชาวจีนที่ลดลง ทำให้รถยนต์ที่เป็นตัวขายดีในประเทศดังกล่าวหดหายไปพอสมควรด้วย โดยเฉพาะ รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Taycan ที่แม้ทางค่ายจะไม่ได้เปิดเผยยอดขายในประเทศจีนออกมา แต่คาดว่าแค่เฉพาะในประเทศจีน ก็หายไปหลักหมื่นกว่าคันแล้ว จนทำให้ในตลาดโลกปีที่ผ่านมา ตัวรถรุ่นนี้มียอดขายหดตัวลงถึง 49% เหลือเพียง 20,836 คัน เท่านั้น
เช่นเดียวกับ Panamera ที่มีตลาดหลักในประเทศจีนเช่นกัน และทำให้มันมียอดขายทั่วโลกลดลงเหลือ 29,587 คัน ซึึ่งเท่ากับว่าหดหายไปราวๆ 13% ซึ่งจำนวนที่หายไปก็คาดว่าจะเกิดขึ้นจากความต้องการของลูกค้าในประเทศจีนที่ลดลงเป็นส่วนใหญ่นั่นเอง
ส่วนตัวรถที่มียอดขายหดลงในตลาดโลกอีกหนึ่งรุ่น ก็คือ Porsche Macan ที่มียอดขายรวมทั่วโลก 82,795 คัน โดยแบ่งเป็นรุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน 64,517 คัน และรุ่นใหม่ที่มีแต่รุ่นขุมกำลังพลังงานไฟฟ้า 100% เท่านั้น และพึ่งเริ่มส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกในเดือนกันยายนเป็นต้นมาจนถึงสิ้นปี ทั้งหมด 18,278 คัน
ซึ่งจากตัวเลขข้างต้น อาจจะดูเหมือนเยอะ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยอดรวมของมันกลับหดตัวลงจากปีก่อนอยู่ 5% โดยทาง Porsche ให้เหตุผลว่าเป็นเพราะการโดนสั่งห้ามขายตัวรถรุ่นสันดาปภายใน ในทวีปยุโรป และการทำตลาดตัวรถรุ่นขุมกำลังไฟฟ้าที่กระแสตอบรับไม่ได้เปรี้ยงปร้างดังที่คาดหวังไว้ เพราะเป็นช่วงที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเริ่มแผ่วความร้อนแรงลงไม่เหมือนปีก่อนๆ
ทั้งนี้ เมื่อข้ามฝั่งมายังกลุ่มรถยนต์ที่ขายดีกว่าเดิม ก็คงต้องเริ่มกันด้วย Porsche 911 ที่มีการส่งมอบทั้งหมด 50,941 คัน ในปี 2024 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับปี 2023
ตามด้วย 718 Boxster และ 718 Cayman ที่มีการส่งมอบ 23,670 คัน ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าอาจเป็นเพราะตัวรถคู่หลังอยู่ในวาระใกล้ปรับโฉมใหญ่แล้ว แถมยังเป็นโฉมสุดท้ายที่จะมาพร้อมขุมกำลังสันดาปภายในด้วย จึงทำให้ขาซิ่งต้องรีบซื้อเก็บกัน
และท้ายสุดคือตัวรถรุ่น Cayenne ที่พึ่งมีการปรับโฉมใหญ่ไปในปี 2023 ก็กลายเป็นรถที่มียอดจำหน่ายดีที่สุดในบรรดารุ่นทั้ง 6 ของแบรนด์ในปี 2024 โดยมีการส่งมอบ 102,889 คัน เพิ่มขึ้น 18% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
การส่งมอบ มกราคม – ธันวาคม 2023 2024 ความต่าง ทั่วโลก 320,221 310,718 -3% ประเทศเยอรมนี 32,430 35,858 +11% อเมริกาเหนือ 86,059 86,541 +1% ประเทศจีน 79,283 56,887 -28% ทวีปยุโรป (ยกเว้น เยอรมนี) 70,229 75,899 +8% กลุ่มประเทศและตลาดเกิดใหม่ 52,220 55,533 +6%