BMW iX นับเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่สร้างความแปลกใหม่ให้กับแบรนด์สู่ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี และในตอนนี้ทางค่ายก็ได้มีการเผยโฉมปรับเล็ก หรือ Minor Change ออกมาแล้ว แม้ว่ากว่ามันจะถูกขายจริงคือในปี 2026 เลยก็ตาม

2026 BMW iX มาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนในหลายจุดด้วยกัน เพื่อให้มันมีความสดใหม่และยังคงน่าสนใจในสายตาลูกค้า และในคราวนี้ แม้มันจะไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงในเรื่องหน้าตามากนัก แต่ทางค่ายก็ได้มีการปรับเส้นสายตัวรถใหม่เล็กน้อย เพื่อให้มันดูลงตัวมากขึ้น

เริ่มจากชุพดโคมไฟหน้าที่มีการปรับแถบไฟ DRL ด้านในใหม่ ให้เป็นแถบตั้ง ซึ่งคาดว่าจะได้แรงบันดาลใจมากจากรถต้นแบบ BMW Vision Neue Klasse, ปรับลวดลายกราฟฟิกบนแผ่นปิดกระจังหน้าใหม่, ปรับรายละเอียดช่องดักลม ด้านล่างใหม่ให้ใหญ่ขึ้น และลดความซับซ้อนของเส้นสายช่องดักลมด้านข้างให้น้อยลง แต่ดูในภาพรวมแล้วลงตัวกว่าเดิม

นอกนั้นในส่วนของชุดล้อ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงลวดลายใหม่เล็กน้อย โดยในบางรุ่นย่อยก็จะมีการเพิ่มครีบตัดอากาศเข้ามาที่ก้านล้อเพื่อลดอากาศหมุนวนในซุ้มล้อ และมีการทำสีแถบพลาสติกชายล่างรอบคัน ให้กลายเป็นสีเดียวกับตัวรถ แทนที่จะเป็นสีดำตัดกับตัวถัง ซึ่งทำให้รถดูสวยงามมากขึ้น

ภายในห้องโดยสารตัวรถ ยังคงมีงานออกแบบคล้ายเดิม โดยเฉพาะชุดจอ BMW Curve Display และคอนโซลต่างๆทั้งหมดที่ยังคงเหมือนเดิม ไม่ว่าจะคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง หรือแผงข้างประตู

จุดที่เปลี่ยนไปจริงๆ ก็คืองานออกแบบตัวเบาะนั่ง ที่จะถูกปรับใหม่ให้มีความปสปอร์ตมากขึ้น โดยเฉพาะการเพิ่มปีกข้างสะโพกเพื่อซัพพอร์ทตัวผู้นั่งขณะเข้าโค้งได้ดีกว่าเดิม และมีการเปลี่ยนโทนสีหนังหุ้มเบาะ และวัสดุใหม่ เพื่อความนุ่มสบายมากขึ้น และมีการเพิ่มระบบปรับอากาศ ฟังก์ชันในการปรับตำแหน่งต่างๆเข้ามามากกว่าเดิม

ที่น่าสนใจก็คือ ในส่วนระบบทำความร้อนตัวเบาะที่ใส่เข้ามา จะเป็นการอาศัยลมร้อนจากระบบขับเคลื่อนและแบตเตอรี่ที่ปล่อยออกมาขณะใช้งาน ไม่ได้เป็นการใช้กระแสไฟจากตัวแบตเตอรี่มาแปลงเป็นพลังงานความร้อน ซึ่งทำให้รถประหยัดพลังงานกว่าเดิม

และในส่วนระบบทำความเย็น ก็ยังมีการปรับให้เป็นระบบ 4 Zone หรือก็คือในคราวนี้ ผู้โดยสารแต่ละที่นั่งจะสามารถปรับอุณภูมิแอร์ให้ตรงกับความต้องการของตนเองได้เลย ไม่ต้องเผื่อใครหนาวอีกต่อไป (เว้นผู้นั่งตรงกลางแถวหลัง ที่อาจจะรู้สึกว่าอุณหภูมิแอร์ซ้าย-ขวาต่างกันแปลกๆ)

อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของการปรับโฉมในครั้งนี้ ก็คือการเพิ่มรุ่นย่อยใหม่รหัส xDrive45 สำหรับตลาดสหรัฐอเมริกา โดยจะเป็นรุ่นล่างสุด ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังขับรวม 408 PS สามารถเรียกอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในเวลา 4.9 วินาที และมีระยะทางในการใช้งานสูงสุด 502 กิโลเมตร/ชาร์จ ตามมาตรฐาน EPA

นอกนั้นในส่วนรุ่นย่อยอื่นๆ ก็จะมีการปรับสเป็คใหม่ด้วยเช่นกัน (อิงตามสเป็คตัวรถที่เปิดข้อมูลแล้วในสหรัฐอเมริกา) โดยเริ่มจากรุ่น xDrive50 ที่มาพร้อมกำลังรวม 523 PS, xDrive60 มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังรวม 543 PS, M60 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังรวม 619 PS, และ M70 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังรวม 659 PS โดยในรุ่นสุดท้ายนี้ จะมาพร้อมความสามารถในการเรียกอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.6 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 250 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ด้านระยะทางในการวิ่ง หากอิงตามมาตรฐาน EPA ตัวรถรุ่น xDrive60 จะมาพร้อมกับระยะทางในการวิ่งต่อชาร์จสูงสุด ที่ 547 กิโลเมตร/ชาร์จ ซึ่งถือว่าเพิ่มจากโฉมก่อนหน้าราว 48 กิโลเมตร ส่วนรุ่นแรงสุดอย่าง M70 ก็มีระยะทางในการวิ่งเพิ่มขึ้นเป็น 486 กิโลเมตร/ชาร์จเช่นกัน นอกนั้นก็จะมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเช่นกัน

ส่วนกำหนดการเปิดตัวในไทย คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2026 โดยอาจเป็นได้ตั้งแต่ช่วงต้นปีถึงกลางปี ซึ่งในส่วนกำหนดเวลาที่แน่ชัด เราจะมาอัพเดทกันต่อไปอีกครั้งในภายหลัง