“Gazoo Racing” ดั้งเดิมใครหลายคนคงเข้าใจว่า เป็นสำนักที่ Toyota ทำขึ้นมาเพื่อพัฒนารถแข่งและชุดแต่งสำหรับรถยนต์นั่งเท่านั้น แต่ล่าสุดพวกเขากลับมีการเผยชุดแต่งสำหรับรถยนต์เพื่อการพานิชย์อย่าง Toyota HiAce ด้วย

Toyota HiAce Gazoo Racing คือผลิตภัณฑ์ชุดแต่งใหม่ล่าสุดของรถตู้ HiAce (5th Generation) ที่ทาง Toyota บริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นพึ่งเปิดตัวออกมา และจะมีการเผยทางเลือกออกมา 2 แบบ ด้วยกัน ตามแต่ความต้องการของลูกค้า ทั้งสายทางฝุ่นและสายทางเรียบ

เริ่มจาก Toyota HiAce GR Part Version I ซึ่งจะเป็นชุดแต่งที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “รถสายฝุ่น” โดยจะประกอบไปด้วย ชุดตัวครอบกันชนหน้าที่ทำให้ตัวรถดูบึกบึนขึ้น แถมยังมาพร้อมกับดวงไฟตัดหมอกและแผ่นกันกระแทกทางด้านล่างตามสไตล์สายลุย โดยที่ด้านท้ายรถเองก็มีการเปลี่ยนชุดกันชนท้ายใหม่ให้เข้ากับด้านหน้ารถเช่นกัน ซึ่งทั้งหมดที่ว่ามานี้ สนนราคาวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเพียง 231,000 เยน หรือราวๆ 51,500 บาท เท่านั้น

โดยหากชุดแต่งข้างต้นดูลุยเกินไป ก็ยังมีชุดแต่ง Toyota HiAce GR Part Version II ที่จะมาพร้อมกับการปรับแต่งตัวรถด้วยภาพลักษณ์ “รถซิ่งทางเรียบ” มากกว่า จากการที่มันมาพร้อมกับชุดสเกิร์ตรอบคัน ซึ่งทำให้ตัวรถดูเตี้ยกว่าเดิม และสนนราคาวางจำหน่ายที่ 143,000 เยน หรือราวๆ 32,000 บาท

และหากไม่พอ ลูกค้ายังสามารถเลือกซื้อชุดแผ่นบังโคลนสีแดง ในราคา 33,000 เยน หรือราวๆ 7,350 บาท กับชุดล้อลายพิเศษ ขนาด 15 นิ้ว รัดด้วยยาง Goodyear Eagle F1 ที่ทำให้ตัวรถดูน่าลุยกว่าเดิมด้วยราคา 242,000 เยน หรือราวๆ 54,000 บาท เพิ่มได้อีก

โดยหากชุดแต่งของ Gazoo Racing ทำให้ตัวรถดูมีความวัยรุ่นมากไป อันที่จริงทาง Toyota ยังได้มีการเปิดตัวชุดแต่งจาก Modellista ที่ช่วยทำให้รถดูมีความหล่อหรูมากขึ้นแทนออกมาด้วย ซึ่งมันก็จะมีชิ้นส่วนเสริมทั้ง สเกิร์ตข้างรอบคัน, คิ้วกรอบไฟตัดหมอกด้านหน้า, และชุดล้ออัลลอยด์สีดำเงา กับปลายท่อไอเสีย กับของแต่งจุกจิกภายในห้องโดยสารอีกนิดหน่อย

ติดก็แค่เพียงทางค่ายยังไม่ได้มีการเผยราคาของชุดแต่ง Toyota HiAce Modellista นี้ออกมา แต่ก็คาดว่าจะมีราคาที่ไม่หนีไปจากชุดแต่งฝั่ง Gazoo Racing เท่าไหร่นัก

นอกจากนี้ เราขอย้ำอีกทีว่าเบื้องต้น ทาง Toyota มีแผนจะจำหน่ายชุดแต่งนี้ แค่เฉพาะในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ดังนั้นสำหรับชาวไทยคนไหนที่สนใจ ก็อาจจะต้องฝากใครสักคนช่วยหิ้วเข้ามา และนั่นหมายความว่าคุณอาจจะต้องบวกงบประมาณเพิ่มอีกพอสมควร ส่วนจะคุ้มค่ากับความหล่อแบบแท้ๆฉบับชุดแต่งจากโรงงานแค่ไหน ก็อยู่ที่คุณจะพึงพอใจกันอีกที