แม้ในช่วงไไม่กี่ปีที่ผ่านมา “การทำสงครามราคา” ของรถยนต์สัญชาติจีน จะเป็นอาวุธสำคัญที่ทำให้รถยนต์ของพวกเขาสามารถตีตลาดคู่แข่งในหลายๆประเทศได้เป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนว่าบางทีมันก็อาจจะมากเกินไป จนแม้แต่คนในประเทศเองก็เดือดร้อน

นั่นจึงทำให้ล่าสุด ทางรัฐบาลจีน ต้องเพิ่มความเข้มงวดในการลดราคารถยนต์ในตลาดของเหล่าผู้ผลิต ว่าจะต้องมีความสมเหตุสมผล ไม่ใช่กะมอบส่วนลดอย่างเดียว เพียงเพื่อฆ่าคู่แข่งให้ตาย ขณะที่ลูกค้าก็พากันหลังหัก และส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจองค์รวมในภายหลัง

โดยหลังจากที่หน่วยงานสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน China Passenger Car Association (CPCA) นำโดยนาย Cui Dongshu เลขาธิการของสมาคม ระบุว่าหน่วยงานของพวกเขาประเมินไว้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศจีนปี 2025 นี้ จะมีการเติบโตจากปีก่อนอยู่ 3.5% เป็น 16.1 ล้านคัน

ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้หน่วยงานข้างต้น คาดการณ์ไว้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายในประเทศจีน จะสามารถทำตัวเลขสะสมได้ดีขึ้น ก็เป็นเพราะทางภาครัฐจะยังคงมอบเงินอุดหนุนค่าตัวรถยนต์ไฟ้าให้กับประชาชน โดยที่ทางผู้ผลิตเอง ก็จะมีการเสนอโปรโมชันรถราคาพิเศษอย่างต่อเนื่อง

ถึงกระนั้นนาย Zheng Bei รองหัวหน้าคณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติ หรือ National Development and Reform Commission (NDRC) กล่าวในงานประชุม EV100 ซึ่งเป็นงานประชุมระหว่างผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมยานยนต์ กับเหล่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศจีนเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ได้ระบุว่า

“เราจะร่วมมือกับผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้นโยบายนี้เป็นจริง” Zheng Bei กล่าว “เพื่อรักษาความสมดุลของตลาด, การจับตาดูราคารถในตลาด (ให้มีความเหมาะสมตามจริง) จะมีความเข้มงวดขึ้น และผู้ผลิตที่ออกนโยบาย จะต้องได้รับผลจากการกระทำนั้น (เมื่อมอบส่วนลดมากเกินไป)”

และจากข้อมูลโดย CPCA ระบุว่าในปี 2024 ที่ผ่านมา มีรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เบนซิน กว่า 227 โมเดล ที่ถูกอัดโปรโมชันลดราคา ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากเมื่อเทียบกับตอนปี 2023 ที่มีรถได้รับส่วนลด 148 คัน และในปี 2022 ที่มีรถถูกอัดโปรส่วนลดเพียง 95 คัน

นอกจากนี้ แหล่งข้อมูลยังระบุอีกว่า เมื่อต้นปี 2024 ที่ผ่านมา ในเดือนมกราคม ตัวเลขส่วนลดโดยเฉลี่ยของรถยนต์ไฟฟ้า มีตัวเลขเฉลี่ยเพียงแค่ราวๆ 24,000 หยวน หรือราวๆ 113,000 บาท และก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง จนมูลค่าส่วนลดโดยเฉลี่ยช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา มีตัวเลขที่ 225,000 หยวน หรือราวๆ 1,062,000 บาท เข้าไปแล้ว

ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจนัก ที่แม้ในปัจจุบัน จะมีผู้ผลิตมากกว่า 50 รายในประเทศจีน ที่แย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากันอยู่ และมีตั้งแต่ผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุดของตลาดมูลค่าหลักหลายหมื่นล้าน อย่าง BYD ไปจนถึงบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง Leapmotor

แต่จากจำนวนข้างต้น ทางหน่วยวงาน CPCA ระบุว่ามีผู้ผลิตเพียง 3 แบรนด์เท่านั้น ที่ยังคงสามารถฟันกำไรได้จากการขายรถตลอดปี นอกนั้นล้วนขาดทุนหมด จากความพยายามในการตัดราคารถยนต์ไฟฟ้าของตนเองมากจนเกินไป ซึ่งหากยังคงเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ มันก็อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศจีนอย่างหนักหน่วงในภายหลังได้ เพราะจำนวนผู้ผลิตอาจลดลงจนขาดความหลากหลายด้านการแข่งขันของผลิตภัณฑ์ในตลาดนั่นเอง

ข้อมูลจาก SMCP