นอกจากขนาดตัวที่กว้างขวาง และขุมกำลังที่ถูกปรับเซ็ทมาให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้งานได้มากกว่า ล่าสุด Mitsubishi Xforce HEV ยังได้รับการการันตีมาตรฐานความปลอดภัยจากหน่วยงาน Asean NCAP ในระดับ 5 ดาว ด้วย
จากผลการทดสอบของ Asean NCAP ระบุว่า Mitsubishi Xforce ทั้งรุ่น Petrol ที่ขายใน เวียดนาม, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และบรูไน กับ รุ่น HEV ที่ตอนนี้ยังมีขายเฉพาะในไทยเท่านั้น ต่างก็ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับ 5 ดาว
โดยหากแบ่งเกณฑ์การให้คะแนนออกเป็นหมวดๆ เราจะพบว่าตัวรถ Xforce สามารถทำคะแนนจากการทดสอบได้เกือบเต็มในในทุกหมวด ทั้ง
หมวดการป้องกันอาการบาดเจ็บของผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่ง สามารถทำคะแนนจากการชนเยื้องหน้า ได้ 14.61/16 คะแนน, คะแนนจากการชนด้านข้าง ได้ 7.85/8 คะแนน แม้ไม่มีถุงลมที่หัวเข่าผู้ขับ, คะแนนจากการป้องกันอาการบาดเจ็บที่ศรีษะ ได้ 6.00/8 คะแนน แม้ไม่มีม่านถุงลมด้านข้าง
โดยสิ่งที่สามารถสังเกตได้จากคลิปทดสอบการชน เราจะพบว่าตัวรถรุ่นนี้ มาพร้อมกับการออกแบบโครงสร้างที่ชาญฉลาดพอสมควร เพราะในส่วนการทดสอบการชนแบบเยื้องข้าง เราจะพบว่าโครงสร้างช่วงห้องเครื่องสามารถยุบตัวได้ดี โดยไม่มีการแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆของโครงสร้างใดๆออกมา และแม้ชุดล้อฝั่งที่โดนชนจะมีการเคลื่อนตัวจากซุ้มล้อ แต่กลับแทบจะไม่ถูกดันเข้าไปในห้องโดยสาร ซึ่งบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่ามันมีโครงสร้างห้องโดยสารที่แข็งแรงมาก
ส่วนการชนทางด้านข้าง แม้รถจะไม่มีทั้งถุงลมหัวเข่า และม่านถุงลมข้างศรีษะ แต่โครงสร้างของรถและบานประตูกลับไม่ได้ยุบเข้ามาในห้องโดยสารมากนัก โดยที่ตัวกรอบประตูด้านบนเอง ก็บิดออกจากแนวศรีษะเล็กน้อย ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการตั้งใจหรือไม่ แต่ก็ช่วยใหส้ศรีษะของผู้ขับเสี่ยงที่จะกระแทกกับขอบประตูน้อยลง
และเมื่อมองไปที่กราฟฟิกความเสียหาย หรือโอกาสที่จะได้รับอาการบาดเจ็บของร่างกายผู้โดยสาร เราก็จะพบว่ามีเพียงแค่ น่องของผู้ขับทั้งสองข้าง และน้องของผู้โดยสารด้านข้างฝั่งขวา (ฝั่งที่รถถูกชน ทั้งในการทดสอบชนเยื้อง และทดสอบชนด้านข้างโดยตรง) มีระดับความเสี่ยงอยู่ในโซนสีเหลือง ซึ่งเป็นโซนที่อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี เช่นเดียวกับช่วงหน้าอก
นอกนั้นในส่วนของศรีษะ คอ ต้นขา หัวเข่า และเท้า กับข้อเท้า ล้วนอยู่ในเกณฑ์ดีทั้งหมด
ด้านคะแนนการปกป้องผู้โดยสารที่เป็นเด็ก โดยมีการติดตั้งพร้อมกับเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ในบริเวณที่รองรับ ซึ่งก็คือเบาะหลังทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวา และจะติดตั้งทั้งแบบหันหน้าเด็กไปด้านหน้าตัวรถ (เด็กประถม) และหันหน้าไปด้านหลังของตัวรถ (แบบที่เด็กเล็กควรนั่ง) เราก็จะพบว่ามันสามารถเก็บคะแนนการทดสอบมาได้น่าสนใจเช่นกัน โดยเฉพาะในส่วนของการชนเยื้องหน้า และการชนด้านข้าง ที่ได้คะแนนเต็ม 16.00/16 และ 8.00/8 ตามลำดับ
นอกนั้นคะแนนในส่วนของการติดตั้งเบาะนิรภัย คาดว่าอาจจะมีความติดขัดเล็กน้อย จึงทำให้คะแนนถูกลดลงมาเหลือ 10.43/12 คะแนน และคะแนนในส่วนของลูกเล่นพื้นฐานบนรถเพิ่มเติม จะถูกหักเหลือ 9.00/13 คะแนน เนื่องจากรถไม่มีออพชันบางอย่างที่ควรมี
ส่วนคะแนนเรื่องของระบบความปลอดภัยขั้นสูง หลักๆแล้วก็จะได้คะแนนเกือบเต็มเช่นกัน โดยเฉพาะระบบช่วยเบรกฉุกเฉินที่จะได้คะแนน 6.00/6 ขณะที่ระบบเบรกอัตโนมัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ก็จะได้คะนน 1.88/2.50 และ 2.63/3.50 ตามลำดับรูปแบบการทดสอบในเมือง และนอกเมือง และที่น่าเสียดายที่สุดคือระบบแจ้งเตือนการรัดเข็มขัดนิรภัย ที่ถูกตัดคะแนนจนเหลือ 4.50/6 เนื่องจากรถไม่มีระบบตรวจจับการนั่งของผู้โดยสารเด็กบนเบาะหลังนั่นเอง
และท้ายสุดคือ คะแนนความปลอดภัยต่อผู้ใช้รถมอเตอร์ไซค์ ที่ได้คะแนนรวมไป 10.36/16 เนื่องจากตัวรถไม่มีระบบตรวจจับวัตถุทางด้านหลัง แต่ยังดีที่ระบบ Blind Spot สามารถตรวจจับรถมอเตอร์ไซค์ได้ง่ายและเร็ว แถมยังมีการเตือนตั้งแต่รถมอเตอร์ไซค์อยู่ด้านข้างเยื้องหลังในระยะ 10 เมตร, คะแนนระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าสูง/ต่ำ อัตโนมัติ 1.50/2 คะแนน และมีคะแนนระบบป้องกันการใช้คันเร่งผิดพลาด ที่ได้คะแนนเต็ม 2.00/2
โดยจากผลคะแนนการทดสอบรวมข้างต้น ทำให้ทาง Asean NCAP ให้การรอบรับว่าตัวรถ Mitsubishi Xforce ทั้งรุ่นขุมกำลังเบนซิน และรุ่นขุมกำลัง HEV ที่ขายในบ้านเราทั้งโลก ได้การรับรองว่าเป็นรถที่ผ่านมาตรฐานการทดสอบความปลอดภัยในระดับ 5 ดาว