หากพูดถึงรถกระบะแล้ว คุณคงนึกถึง ความแกร่ง , ดุดัน ,ถึก ดูลุย พร้อมใช้งาน น่าแปลกใจเลยที่กระบะถูกมองว่าเป็นรถยนต์เชิงพาณิชยไว้ใช้งาน ตั้งแต่อดีตมาจวบจนปัจจุบัน ไม่ว่าในไทยหรือต่างประเทศ ทว่าในมุมหนึ่งของประวัติศาสตร์ยานยนต์ คุณจะแปลกใจ ที่เชฟโลเร็ต เจ้าของเดียวกับ Chevrolet Colorado เคยพยายามสร้างสรรค์รถกระบะให้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง
ทุกวันนี้เราอาจจะเห็นกระบะแต่งซิ่งมากขึ้นในบ้านเรา หากย้อนไปเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ในชื่อ “Chevrolet SSR” ทาง General Motor เคยพยายามรถกระบะสายซิ่งออกมาจำหน่าย มันคือที่สุดของการฉีกกฎทางความคิดในการสร้างรถกระบะว่า ทำไม รถกระบะ จะดูสปอร์ตไม่ได้ ทำไมมันต้องดูแกร่งพร้อมลุยเพียงอย่างเดียว ทั้งที่กระบะอาจจะให้ความหมายอื่นมากกว่า แค่เป็นม้าใช้ หรือต้องออกลุยตามเส้นทางทุรกันดารอย่างที่เราหลายคนเข้าใจกัน
เรื่องราวของ Chevrolet SSR เริ่มต้นจากความคิดแบบนั้น แต่ในแง่มุมความจริงหนึ่งทางทีมออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถกระบะ Chevrolet ที่เคยทำออกมาขายตั้งแต่ช่วงปี 1947-1955 พวกเขาคิดว่ามันน่าสนใจที่จะทำกระบะให้มีแนวความคิดที่แตกต่างจากปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง ด้วยมันอาจจะจับกลุ่มคนใหม่ๆ เข้ามาได้
นั่นเป็นความคิดก่อนจะเข้าสู่ยุค 2000 ช่วงที่โลกต้องการหาแรงบันดาลใจแปลกใหม่ล้ำสมัย ทางเชฟวี่เลยถือโอกาสนี้ใจการเปิดตัวรถต้นแบบที่มีราคาสุงถึง 4 ล้าน ดอลล่าร์สหรัฐ ถือว่ามีมุลค่าสูงสุดในช่วงยุคดังกล่าว Chevrolet SSR Concept เปิดผ้าคลุมออกมาในงาน Detroit Auto Show 2000 มันถูกกล่าวขานมากในฐานรถกระบะที่แปลกแตกต่าง ด้วยการให้ส่วนผสมความสปอร์ตตั้งแต่หัวจรดท้าย
หลายคนมักคิดว่ากระบะจำเป็นดุทึกโหด ตลอดเวลา แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ทาง General Motor ต้องการ พวกกำลังมองตลาดกลุ่มใหม่ที่อาจจะต้องการถที่แตกต่าง คนกลุ่มนี้คือคนที่มีรถระบะแล้ว แต่กำลังอาจจะอยากขยับไปหารถสปอร์สักคัน อาจจะเป็นรถ Chevrolet Corvette หรือของคู่แข่ง พวกเขาเลยคิดว่า เฮ้!! ทำไมเราไม่ทำกระบะดีๆ สักคัน แล้วเขย่ามันให้เป็นรถกระบะสายพันธุ์แรงจากพวกเราเชฟวี่ทรัค
ความคิดนี้ถึงมือ นาย อังเคร ฮัดสัน นักออกแบบ GM ในยุคนั้น ผลงานเขาเราเห็นมามากมายทั้ง Hyundai Sonata 2011 , Hummer H3 และคนเดียวกันนี้ย้อนไปเมื่อปี 2000 เขาคือผู้ออกแบบ Chevrolet SSR ให้ประจักษ์ว่ากระบะก็มีดีในแบบสปอร์ตได้เช่นกัน
อังเครเล่าให้ GM hightech magazine ฟังว่า มันยากทมากที่จะออกแบบรถคันนี้ให้ได้ตามโจทย์ที่ทางผู้บริหารวางแผนเอาไว้ แต่ส่วนสำคัญคือการทำให้รถมีส่วนผสานที่น่าสนใจจนลูกค้าต้องการ GM เลือกเอา 4 แนวการออแบบที่เขาวางเอาไว้ที่ดีสุด ที่เหลือถูกกวาดลงจากโต๊ะ บ้างเลือกไปใช้ในโครงการอื่นของบริษัท
เมื่อ GM เริ่มสร้างรถคันจริงหลังจากโชว์รถต้นแบบไปแล้ว ทาง Chevrolet จับเอา Chevrolet Trailblazer เวอร์ชั่นขายในอเมริกา รุ่น V8 ที่มาพร้อมเครื่องยนต์รหัส LM4 มาเป็นพื้นฐาน เครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่ธรรมดามันให้กำลัง 290 แรงม้า และทำแรงบิด 441 นิวตันเมตร
จากนั้นงานออกแบบจึงเริ่มสร้างสรรค์ความแตกต่างขึ้นบนโครงสร้างดังกล่าว ทางทีมออกแบบมั่นใจว่าสไตล์โมเดิร์เรโทร น่าจะเรียกเสียงจากลูกค้าได้ หน้าตาของ Chevrolet SSR จึงออกมาในเส้นสายของรถกึ่งยุคเก่าใบหน้าของมันแทบจะถอดมาจากบรรพบุรุษ GM กระบะหลายรุ่น เติมแนวทางของคาทันสมัยด้วยการวางคิ้วโครเมี่ยมขนาดใหญ่ตรงกลางยางจากไฟหน้าซ้ายถึงขวา ชุดไฟหน้าเป็นทรงกลม เช่นเดียวกับไฟท้าย ก่อนจับยัดล้ออัลลอยขอบ 19 นิ้วทางด้านหน้า และ 20 นิ้วทางด้านหลัง เรียกว่าอลังการมากในยุคนั้น
แต่ถ้าถามถึงจุดเด่นรถรุ่นนี้จริงๆ ก็คือชุดหลังคา Retractable hardtop หรือหลังคาคูเป้เปิดประทุนได้ เป็นสิ่งที่ทำให้รถมีความงามสง่าเนรมิตให้เป็นกระบะแปลกตาได้ในหน้าหนาว และลูกค้าจีเอ็มหลายคนก็ชอบรถคันนี้ รวมถึงบรรดากระจอกข่าวยานยนต์ในอเมริกา ก็เป็นคนผลักดันให้รถคันนี้เกิดขึ้น
ในช่วงปีใหม่ปี 2003 General Motor เริ่มโฆษณาพร้อมวางขาย Chevrolet SSR มันปิดป้ายราคาไว้ที่ 42,000 ดอลล่าร์ ถือว่าเป็นกระบะที่มีมูลค่าสูงมากคันหนึ่ง และไม่ใช่รถที่คนทั่วไปอยากจะคบหา ประกอบกับตัวตนที่ดูแปลกตาของมัน เมื่อเทียบกับเก๋งสปอร์ตชั้นนำ แถมลูกค้ายังต้องรอทางบริษัทส่งมอบรถถึง 301 วัน กว่าจะได้ขับ เรียกว่าสั่งปีนี้ปีหน้าได้ขับกันเลยทีเดียว เป็นเหตุผลที่ทำให้รถขายไม่ได้จำนวนมากอย่างที่ GM คาดหวังไว้
ในท้ายที่สุดเมื่อเห็นว่าไม่น่าจะไปรอด Chevrolet SSR ก็ยุติการวางจำหน่ายในปี 2006 หลังจากขายมา 3 ปี โดยนักวิเคราะห์ที่มีข้อมูลภายในของ GM บางคน เคยออกมาเปิดเผยว่ารถรุ่นนี้ผลิตขายเพียง 24,150 คันเท่านั้น แต่ที่ส่งถึงมือลูกค้ามีเพียง 24,114 คัน ก่อนจะยุติการวางจำหน่าย
แต่กระนั้นถึงมันจะเป็นรถที่โคตร Fail สำหรับความคิดบ้าๆ ของเชฟวี่ แต่สำหรับนักสะสมรถแล้ว นี่คือที่สุดในคอลเลคชั่นความแปลก หากหามาครอบครองได้ จะถือว่าเทพมาก แถมยังขับใช้งานได้ด้วย โดยไม่ต้องจอดตายในโรงรถ
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง
ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา ridebuster.com
[ngg_images source=”galleries” container_ids=”231″ display_type=”photocrati-nextgen_basic_thumbnails” override_thumbnail_settings=”1″ thumbnail_width=”200″ thumbnail_height=”160″ thumbnail_crop=”1″ images_per_page=”20″ number_of_columns=”3″ ajax_pagination=”1″ show_all_in_lightbox=”0″ use_imagebrowser_effect=”0″ show_slideshow_link=”0″ slideshow_link_text=”[Show slideshow]” order_by=”sortorder” order_direction=”ASC” returns=”included” maximum_entity_count=”500″]