ผ่านไปหลายปี จากยุคที่กระแสความนิยมในรถยนต์ไฟฟ้าพุ่งพรวด ตอนนี้ก็เริ่มมีการเก็บข้อมูลความพึ่งพอใจในการใช้งานของผู้ใช้รถยนต์เหล่านั้น ซึ่งผลที่ออกมาก็ถือว่าค่อนข้างน่าประหลาดใจ

เพราะก่อนหน้านี้ บทสรุปของแบบทดสอบความพึ่งพอใจในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าของผู้ใช้ในประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีการระบุว่ามีผู้ใช้เกือบครึ่งที่มองว่าหากต้องซื้อรถยนต์คันใหม่ พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะขอกลับไปใช้รถยนต์ขุมกำลังสันดาปภายในดังเดิม

ซึ่งล่าสุด ผลจากการเก็บข้อมูลและทำแบบสอบถามของเหล่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศออสเตรเลียเอง ก็มีผลออกมาในลักษณะคล้ายๆกัน นั่นคือมีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเกือบครึ่ง ที่ยังคงอยากจะกลับไปใช้รถยนต์ขุมกำลังสันดาปภายในอยู่

โดยจากการเปิดทำแบบสอบถาม 2024 Mobility Consumer Pulse ของบริษัท McKinsey & Company ที่ว่าด้วยเรื่องของความพึ่งพอใจ และความสะดวกในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมีคำถามทั้งหมด 200 กว่าข้อ และมีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้ความสนใจและเข้ามากรอกข้อมูลทำแบบสอบถามนี้อีก 30,000 กว่าคน

ผลปรากฏว่า หากนับเฉพาะเหล่าผู้กรอกแบบสอบถามที่เป็นชาวออสเตรเลีย ก็มีจำนวนกว่า 49% ที่ “ตัดสินใจจะกลับไปใช้รถเครื่องยนต์สันดาปภายใน” ส่วนอีก 51% ที่เหลือไม่ได้มีการแจกแจงว่ามีอัตราส่วนที่อยากจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าล้วนต่อไป หรือลังเลที่จะใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่อไป เท่าไหร่กันแน่

และจาก 8 ประเทศ ที่มีการเข้ามาทำแบบสอบถาม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, บราซิล, จีน, เยอรมัน, นอร์เวย์, ฝรั่งเศส, อิตาลี, และออสเตรเลีย เหล่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากประเทศเหล่านี้ ล้วนมีอัตราการตัดสินใจกลับไปใช้รถยนต์ขุมกำลังสันดาปภายในที่ค่อนข้างสูงทั้งสิ้น หรือหากคิดค่าเฉลี่ยของเหล่าผู้ใช้จากนานาประเทศทั่วโลก ก็พบว่ามีมากกว่า 29% ที่คิดเช่นนั้น

และจากการกรอกแบบสอบถาม และแจกแจข้อมูลโดยละเอียดเพิ่มเติม เราก็จะพบว่ามีผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้ากว่า 35% ที่มีปัญกับเรื่องจุดชาร์จไม่เพียงพอต่อการใช้งาน, 34% มองว่าค่าใช้จ่ายในการครอบครองรถยนต์ไฟฟ้ายังสูงเกินไป, 32% มองว่าระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จยังไม่เพียงพอต่อการใช้งาน, และ 24% มีปัญหาเรื่องการติดตั้งตู้ชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน

ซึ่งนี่คือเหตุผลพื้นฐานที่ทำให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเกือบครึ่ง ตัดสินใจจะกลับไปใช้รถยนต์สันดาปภายในต่อ

นอกจากนี้ เหล่าผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศออสเตรเลียที่เข้ามาตอบแบบสอบถามนี้กว่า 63% ยังมีเหตุผลสำคัญร่วมกัน ที่ทำให้พวกเขาไม่อยากใช้รถยนต์ไฟฟ้าต่อในตอนนี้ คือ “ไม่อยากวุ่นวายกับเทคโนโลยีใหม่ๆในรถยนต์ไฟฟ้า” ซึ่งถือว่าเป็นอัตราส่วนที่เยอะกว่าการคิดอัตราส่วนเฉลี่ยของผู้ใช้ทั่วโลกที่มาตอบแบบสอบถามนี้ และมีความคิดเดียวกันนี้เพียง 8% เท่านั้น

ท้ายสุดคือ สำหรับเหล่าผู้ทำแบบสอบถามจากทั่วโลก ที่พึ่งมีการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ได้เพียงไม่นาน พบว่ากว่า 44% ยังคงไม่มีการทำตู้ชาร์จไฟไว้ที่บ้าน และอีก 39% ที่มองว่าระยะทางในการใช้งานต่อชาร์จของรถยังไม่คุ้มค่า หรือทำได้ไกลตามที่คาดหวังเท่าไหร่นัก

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่