กลายเป็นรถยนต์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคนี้ เมื่อใครจะซื้อรถยนต์ใหม่สักคัน คงจะต้องการหรืออยากได้รถอเนกประสงค์เป็นคู่หูคู่ใจคันใหม่ และในปีทีผ่านมา มีการเปิดตัวรถยนต์อเนกประสงค์มากมายหลายรุ่น แต่คุณคงขี้เกียจอ่านรีวิวอันแสนยืดยาวใช่ไหม … วันนี้เราจึงถือวาระโอกาสดี จะมาสรุป บุคลิกแต่ละรุ่น ให้ฟังง่ายๆ แล้วกัน
*** บทสรุปของเรามาจากการขับขี่ของทีมงาน ทั้งจากการทดสอบเดี่ยวและทดสอบกลุ่ม โดยบริษัท รถยนต์จัดทริปทดสอบ …
MG ZS – รักทันสมัยราคาพอเพียง
ถ้าคุณต้องมองหารถอเนกประสงค์ในราคาที่ไม่แพงเกินไป ผมเชื่อว่าในนาทีนี้ MG ZS คงจะเด้งเข้ามาในหัวหลายคนไม่น้อย ตัวรถที่มาพร้อมงานออกแบบดูดี ทั้งภายนอกภายใน อัดแน่นอนด้วยความทันสมัยอย่างครบเครื่อง เป็นโจทย์ที่ทำให้หลายคนร้องว้าว จนดันยอดขายรถยนต์รุ่นนี้ขึ้นมาติดอันดับต้นๆ ของกลุ่ม
MG ZS มีดีตรงความสามารถในการใช้งานอันครบถ้วน ตรงความต้องการ ขนาดมิติตัวถังของรถไม่เป็นสองรองใครในตลาด ฟังชั่นใช้งานก็ครบตามต้องการ ไม่ว่าจะเบาะพับได้ แถมราคาเดียวกัน ยังได้หลังคา Sun Roof ด้วย ที่สำคัญที่สุด ผมว่าหลายคนคงจะซื้อรถคันนี้ด้วยระบบความทันสมัยมากกว่าการมองสมรรถนะที่แท้จริงของตัวรถ
โดยเฉพาะระบบสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ที่ยังไม่มีใครทำได้เหมือนในนาทีนี้ ถ้าคุณเป็นผู้หญิงต้องใช้รถร่วมกันกับคุณสามี ก็คงชอบ ระบบ i-smart ที่สามารถติดตามพฤติกรรมของสามีได้ตลอดเวลาเช็ค สถานที่อยู่ของรถ ณ ปัจจุบัน หรือจะตั้งอาณาเขต ต้องห้ามเข้า หรือ ห้ามออกกก็ทำได้ด้วย
ข้อโดดเด่นดังกล่าว ทำให้ MG ZS มาแรงแซงทางโค้ง หลายคนแทบไม่สนใจเลยว่า รถยนต์คันนี้มาพร้อมเพียงเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรและเกียร์ 4 สปีด ที่ทำอัตราเร่งได้เทียบเท่าประมาณ อีโค่คาร์ปกติทั่วไป เพราะเมื่อนับว่าตัวรถจบครบฟังชั่น และมีพื้นที่ใหญ่กว่าการใช้เก๋งขนาดเล็ก บวกกับความทันสมัยของรถที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น ในราคาที่ไม่แพงเกินเอื้อม ก็ทำให้มันค่อนข้างน่าสนใจสำหรับใครหลายคน
Mazda CX-5 – รักสนุก และผูกพัน
นับตั้งแต่วันที่ Mazda CX-5 รุ่นใหม่ล่าสุดเริ่มจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เพื่อนชายคนสนิทของผมผู้เป็นเจ้าของ Mazda 2 1.3 Skyactiv-G มากว่า 3 ปี ก็ได้เอ่ยปากออกมาว่า “คันต่อไปต้อง CX-5” ด้วยความสงสัยผมจึงถามว่าทำไมถึงอยากได้ล่ะ? ไหนบอกไม่ชอบรถเอสยูวี… คำตอบที่ได้กลับมาก็คือ “ไม่รู้หรอก แต่ถ้าจะซื้อรถคันถัดไปก็ต้องอัพขนาดให้ใหญ่ขึ้น และใช้งานได้อเนกประสงค์ ซึ่งเจ้า CX-5 ก็คือรถคันถัดไปที่ต้องเอามาจอดในโรงรถให้ได้”
จากย่อหน้าที่แล้วดูเหมือนว่า CX-5 จะเป็นรถที่ถูกจริตคนบางกลุ่มเป็นพิเศษ แต่ที่แน่ๆ คือกลุ่มคนเหล่านั้นพวกเขามีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นก็คือ “รักสนุก” คำว่ารักสนุก ในที่นี้มาจากการบุคลิกรถยนต์ของมาสด้า ที่มาพร้อมกับการขับขี่อันสนุกสนาน ไว้ใจได้ทุกเส้นทาง และที่สำคัญคือเมื่อแรกเห็นแล้วมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร
โดยจากประสบการณ์สุดประทับใจที่เจ้าของรถมาสด้าคันเก่า หรือใครก็ตามที่รู้ตัวว่าตนต้องการใช้ชีวิตบนถนนแบบสนุกไม่น่าเบื่อ แน่นอนว่า CX-5 จะเป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์คันแรกๆ ที่หนุ่มสาวผู้รักการขับขี่นึกถึงเมื่อพวกเขาโตขึ้นจนต้องการรถคันใหม่ให้แก่ครอบครัว และนี่เองที่ทำให้เห็นว่าคนรักสนุกก็มักเลือกรถยนต์ที่มอบความสนุกมาเป็นคู่หูเช่นเดิมเสมอ อาจด้วยรถใหม่สวยกว่าเดิม หรูกว่าเดิม หรือขับดีกว่าเดิม แต่ที่จริงแล้วพวกเขาสนใจและเลือกมันเพราะผูกพันกับแบรนด์นี้มากไม่แพ้กัน
Subaru XV สายเที่ยวพบผู้ใหญ่
คุณเคยมีแฟนสุดเฟี้ยว ที่มองอย่างไรผู้ใหญ่ก็คงจะบอกกับคุณ ว่า “ต้องเลิกกันแน่ๆ ไหม” นั่น คือสิ่งที่ Subaru เป็นมาตลอดในช่วงหลายปี รถของพวกเขาขับดี ขับมั่นใจ แต่ต้องแรกกับความสบายมาโดยตลอด มีรถเพียงไม่กี่รุ่น ที่ทำให้นั่งสบายได้พร้อมกับสมรรถนะการขับขี่
Subaru XV ถือเป็นการเปลี่ยนจุดยืนที่สำคัญของแบรนด์ มันเป็นรถรุ่นที่ 2 ที่เปิดตัว พร้อม Subaru Global Platform การเปลี่ยน ตั้งแต่เชิงโครงสร้างหลักตัวรถ ทำให้ซูบารุ ไม่จำเป็นต้องเซทช่วงล่างให้แข็งแบบเดิมอีกต่อไป
รถรุ่นใหม่ขับสบายขึ้น ช่วงล่างนิ่มนวลขึ้นผิดหูผิดตา เหมือนกับคุณมีเพื่อนที่เคยเถื่อน แล้วมันสุขุมมากกว่าเดิมเมื่อกลับมาเจอกัน ตอนมันผ่านวัย 30 อะไรแบบนั้น เครื่องยนต์ประหยัดขึ้นเล็กน้อย ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้ฟังชั่น X Mode ที่ลุยจริงจังขึ้นกว่าเดิม ไปดีขึ้นในทางโหด ยังคงเป็นรถที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวในทุกเส้นทาง
มันคือ ซูบารุเหมือนเดิม แต่คุณจะรักมากขึ้น การตัดความโหด ดิบ ของช่วงล่างอาจจะรู้สึกประหลาดไปบ้าง แต่ถ้านับว่ารถอเนกประสงค์บางทีก็ต้องขับไปรับผู้ใหญ่บ้างในบางโอกาส ก็ถือว่าเหมาะสม และสนองความต้องการคุณเอง ที่อาจจะต้องการอเนประสงค์ครอสโอเวอร์ที่สามารถลุยได้
Toyota C-HR Hybrid พ่อมดจอมประหยัด
ในบรรดารถยนต์อเนกประสงค์ในบ้านเรา มีไม่กี่รุ่นที่มาพร้อมเครื่องยนต์ไฮบริด และ โตโยต้าอาศัยจุดนี้อุ้มชู Toyota C-HR เข้ามาขายในไทย
ตัวรถคงไม่ต้องอธิบายมากความในเรื่องการออกแบบที่เปลี่ยนแปลงฉีกจากเดิมโดยสิ้นเชิง แต่เมื่อได้ขับความโดดเด่นของ Toyota C-HR กลับกลายเป็นเรื่องความประหยัดของเครื่องยนต์ไฮบริดที่พัฒนาติดต่อเป็นเจนเนอร์เรชั่นที่ 4 และรุ่นนี้มีการพัฒนาศักยภาพในการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมด้วย จนจากการขับขี่นอกเมืองด้วยความเร็ว 100-120 ก.ม./ช.ม. ToyotC -HR อัตราประหยัดได้ถึง 21 ก.ม./ลิตร และ ทำอัตราประหยัดตามการเคลมของโตโยต้าได้ 24.4 ก.ม./ลิตร หรือมากกว่า 25% จากรุ่นเดิม
นอกจากนี้ด้วยการสรรค์สร้างเทคโนโลยีหลักๆ ใหม่ อาทิ โครงสร้างตัวถังหลัก TNGA ทำให้สามารถเซทช่วงล่างใหม่ขับมั่นใจมากขึ้น การให้ Toyota Safety Sense P . ช่วยเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในการขับขี่ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ระบบเชื่อมต่อระยะไกล Toyota T connect Telematic ถือเป็นการเพิ่มพูนความทันสมัยมากขึ้น (ซึ่งใน 2 ตัวหลังจะพบได้เฉพาะตัวท๊อป)
แต่ทั้งหมด โดยเฉพาะโครงสร้างตัวถังใหม่ ทำให้ Toyota C-HR เป็นรถที่สร้างปรากฎการณ์ที่แตกต่าง มันเป็นรถอเนกประสงค์ที่ขับดี จนคุณไม่คิดว่า โตโยต้าจะสร้างรถอย่างเจ๋งได้ขนาดนี้ แถมการเก็บเสียงยังทำได้ดีในรับที่น่าพอใจ และสมรรถนะอัตราเร่งจากเครื่องยนต์ไฮบริด ก็ไม่ขี้เหร่ มันเร่งได้เท่าเทียมรถเครื่อง 2.0 ลิตร เพียงแค่ความเร็วปลายอาจด้อยกว่าสักหน่อย
และทั้งหมดที่กล่าว ทำให้ Toyota C-HR เป็นรถที่คิดใหม่ ทำใหม่ ของค่ายโตโยต้า ถ้าถามว่าอะไรคือจุดเด่นรถรุ่นนี้แน่นอน มันคือความประหยัด โดยเฉพาะใครที่ต้องการใช้รถยนต์ในเมือง
เป็นอย่างไรบ้างครับ กับการสรุป 4 รถยนต์อเนกประสงค์หน้าใหม่ในตลาดของพวกเรา คุรคงพอจะได้คำตอบบ้าง ว่ารุ่นไหน เหมาะกับความเป็นคุณ แต่ผมอยากจะพูดว่า ฟังเราแล้ว อย่าลืมไปลองขับเองด้วย ช่วยกันตัดสินใจ เพื่อจะได้รถที่ดีที่สุดในตลาด