5.ประหยัดที่สุด
ถ้าไม่พูดเรื่องความประหยัดในรถยนต์อีโค่คาร์ คงจะอะไรๆ อยู่สักหน่อย ในเรื่องนี้ผมคงจะขอเอาตัวเลขที่เคลมจากบรรดาผู้ผลิตรถยนต์เป็นที่ตั้ง เนื่องจากเป็นการทดสอบตามผลที่ต้องทดสอบแล้วแจ้งใน Eco Sticker
อีโค่คาร์เบนซินประหยัดที่สุด Mitsubishi Mirage
จากข้อมูลที่มีการแจ้งบน Eco Sticker อีโค่คาร์เครื่องยนต์เบนซินที่มีความประหยัดมากที่สุดจากการทดสอบคือรถยนต์ Mitsubishi Mirage ซึ่งสามารถทำอัตราประหยัดได้ถึง 23.8 ก.ม./ลิตร จากการทดสอบ เดิมที Mitsubishi Mirage ก็ครองตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ด้วยอัตราประหยัด 22 ก.ม./ลิตร และรุ่นใหม่ก็ยิ่งประหยัดมากขึ้นไปอีก
จนแม้แต่รถยนต์ Mazda 2 รุ่นใหม่ ที่มาพร้อมเครื่องยนต์ Mazda Sky Activ G ยังมองค้อน เพราะมันทำอัตราประหยัดจากการทดสอบได้เพียง 23.3 ก.ม./ลิตรเท่านั้น
อีโค่คาร์ดีเซล ประหยัดที่สุด Mazda 2 1.5 XD
ในตลาดตอนนี้มีเพียงรถยนต์ ‘อีโค่คาร์’ เครื่องยนต์ดีเซลเพียงรุ่นเดียว นั่นคือ มาสด้า 2 เครื่องดีเซล ที่ทำตลาดมา 2 ปี และยังไร้คู่แข่ง ที่จะมาปราบเซียนเจ้ารถคันนี้
ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลทำให้มันเป็นอีโค่คาร์ที่ประหยัดที่สุดในตอนนี้ด้วยตัวเลขอัตราประหยัด สูงถึง 26.3 ก.ม./ลิตรเลยทีเดียว แถมเรี่ยวแรงกำลังวังชาของรถไม่ได้ขี้เหร่อะไร ขับสนุก ประหยัด รูปหล่อ อะไรจะยอดเยี่ยมขนาดนั้น ซึ่งเราก็หวังว่าในอนาคต น่าจะเห็นอีโค่คาร์ดีเซลในตลาดมากกว่านี้
6.ปล่อยไอเสียต่ำสุด – Mitsubishi Mirage
จุดเริ่มต้นของโครงการอีโค่คาร์ คือการสร้างรถที่ช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม แม้ว่าวันนี้บริบทอีโค่คาร์จะถูกมองว่ามันเป็นรถที่เอาไว้ใช้ขับประหยัด ทว่าเนื้อแท้ของมันคือการลดการปล่อยไอเสียจากการเดินทางของเราๆ
แม้ว่าน้อยคนจะสนใจเรื่องการปล่อยเสียของรถ แต่ในอีโค่คาร์ รถที่ปล่อยไอเสียน้อยที่สุดในตอนนี้คือรถยนต์ Mitsubishi Mirage รุ่น GLX CVT ซึ่งปล่อยไอเสียเพียง 98 กรัม ต่อ กิโลเมตร น้อยที่สุดจากการทดสอบของกรมสรรพสามิตร มันเป็นรองเพียง BMW i3 รถยนต์ไฟฟ้าของค่ายตราพัดฟ้าเท่านั้น แต่มาตรฐานการปล่อยไอเสียของมิราจ คือ 100 กรัม ต่อกิโลเมตร
มันเป็นตัวเลขที่เท่าๆกันกับ Mazda 2 ที่ตามมาจ่อคอหอยติดๆ ด้วยนวัตกรรมเครื่องยนต์ที่ใหม่กว่าหลายขุม ส่วนอีโค่คาร์ที่ปล่อยไอเสียน้อยเป็นอันดับที่ 3 คือ Suzuki Celerio น้องน้อย จากค่าย Suzuki นั่นเอง
7.อีโค่คาร์ราคาแพงที่สุด
หลังจาก 7 ปี ตั้งแต่ที่อีโค่คาร์รุ่นแรก Nissan March วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ การแข่งขันทางด้านรถอีโค่คาร์ก็ทำให้ รถยนต์อีโค่คาร์มีออพชั่นฟังชั่นต่างๆ มากขึ้น จนน่าคบหานำมาใช้งาน แต่สิ่งที่ตามมาด้วย คือราคาจำหน่ายที่แพงขึ้นเป็นเงาตามตัว และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นตามลำดับในอนาคตด้วย
แน่นอนราคาจำหน่ายที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ ทำให้เราอยากจะพูดถึงรถอีโค่คาร์ที่แพงที่สุดในตลาดวันนี้ และรถคันนั้นก็คือ Mazda 2 เครื่องยนต์ดีเซลรุ่นท๊อป High Plus L ซึ่งมีราคาจำหน่ายสุงถึง 789,000 บาท เป็นราคาที่แพงเท่าๆ หรือมากกว่า รถซิตี้คาร์บางรุ่นในตลาดเสียอีก
แน่นอน สาเหตุที่รถ Mazda 2 ดีเซล มีราคาแพงมาก มีปัจจัยสำคัญจากเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งให้ความสามารถในการขับขี่มกากว่า ประหยัดกว่า รวมถึงนวัตดรรมใหม่ๆที่ทางมาสด้าใส่เข้ามามีประโยชน์และมันมีมูลค่าที่ทำให้รถราคาทะยานไปไกล นอกจากนี้ที่สำคัญ มาสด้ายังใส่ระบบช่วยเหลือการขับขี่ Active Safety บางรายการจาก Mazda I Active Sense เข้ามาในรุ่นท๊อป ได้แก่ ระบบเตือนการสัญจรของรถในมุมอับยามถอย หรือ Rear Cross Traffic Alert รวมถึงยังมีระบบช่วยเตือนมุมบอับสายตาระหว่างขับขี่ให้ด้วย
แน่นอน ราคาขนาดนี้บางคนอาจจะคิดว่าซื้อรถที่มีขนาดใหญ่กว่าดีไหม อันนี้คงต้องใช้วิจารณญาณของแต่ละคน
กว่า 7 ปี ของการทำตลาดรถยนต์อีโค่คาร์ วันนี้เรากำลังมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ เมื่อในอีกไม่นานจากนี้รถยนต์อีโค่คาร์หลายรุ่นจะเข้าสู่การถ่ายรุ่นเปลี่ยนโฉม ซึ่งจะทำให้มันเข้าสู่โครงการอีโค่คาร์ระยะที่ 2 และเราอาจจะได้เห้นนวัตกรรมใหม่ๆในรถเล็กรุ่นนี้ก็ได้
ชอบกดไลค์ใช่กดแชร์ ขอบคุณทุกกำลังใจสำหรับพวกเรา ridebuster.com