ถ้าย้อนกลับไป เมื่อ 2-3 ปี ก่อน แบรนด์รถยนต์ Neta ถือเป็นที่พูดถึงกันมากในฐานะ แบรนด์น้องใหม่ถอดด้ามจากประเทศจีน ที่เข้ามาทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าราคาถูกตอบตลาดคนไทย แนะนำกับ Neta V รถยนต์นั่งขนาดเล็กสำหรับคนเมือง ด้วยราคาเริ่มต้น ไม่ข้าม 5 แสนบาท ถือว่าถูกมากในเวลานั้น
การเข้ามาของ Neta ได้สร้างแรงกระเพื่อมตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในระดับหนึ่ง เนื่องจากราคารถที่ถูก ทำให้การตัดสินใจซื้อของคนไม่ยากนัก โดยเฉพาะใครที่ยังไม่มั่นใจว่าจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าดีหรือไม่ ? ซึ่ง เนต้า กลายเป็นตัวเลือกยอดฮิตของใครหลายคนแทบจะในทันที ในยุคที่รถยนต์ไฟฟ้าในเวลามีราคาล้านกว่าบาท ขึ้นไปทั้งนั้น
ตัวรถ เนต้า วี เรียกว่าเป็น รถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เน้นสำหรับการใช้งานในเมืองเท่านั้น โดยมีความเร็วสูงสุด 120 ก.ม./ช.ม. มาพร้อมแบตเตอร์รี่ขนาด 35 กิโลวัตต์ มอเตอร์ไฟฟ้ามีพลังขับ 95 แรงม้า และ แรงบิดมอเตอร์สูงสุด 175 นิวตันเมตร ถ้ามองในมุมการใช้งานทั่วไป ถือว่ามีพลังขับพอเพียง
ในส่วนตัวรถก็ออกแบบมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กไซส์มินิมอล ไม่ได้เล็ก หรือใหญ่ และยังมีทรงเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 5 ประตูร่วมด้วย
ก่อนที่ปีที่ผ่านมา ทางแบรนด์จะนำรถยนต์อเนกประสงค์ Neta X เข้ามาขาย แนะนำตัวในฐานรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็ค ได้รับความสนใจอย่างมากจากลูกค้า เนื่องจากมีตัวถังใหญ่ ในราคาก็ไม่ได้แรงมาก เริ่มต้นเพียง 739,000 บาทเท่านั้น มาพร้อมแบตเตอร์รี่ 51 KW และมอเตอร์ขับเคลื่อน 163 แรงม้า และ แรงบิด 250 นิวตันเมตร
เรื่องราวของ เนต้า ได้รับการจับตาอย่างมาก เนื่องจากในระยะหลัง เริ่มมีกระแสข่าวหนาหู ว่าแบรนด์เริ่มมีปัญหา โดยเฉพาะข่าวจากประเทศจีน ที่ออกมาเปิดเผยว่าบริษัทเริ่มมีการค้างจ่ายกับทางซัพพลายเออร์ และกำลังมีเรื่องเข้าสู่กระบวนการฟ้องร้องด้วยมูลค่าหนี้สูงถึง 48.2 ล้านหยวน และจากเรื่องดังกล่าวทำให้บริษัทออกแผนงานฟื้นฟู
โดยเมื่อปลายปี 2024 ทางสื่อเนชั่น รายงานว่า เนต้า ออโต้ ประเทศไทย ในฐานะบริษัทลูกมีแผนในการลดตำแหน่งงานลง 400 ตำแหน่ง ทั้งในบริษัท และ สายการผลิตที่บางชัน จนระส่ำความมั่นคงของแบรนด์ไม่น้อย
ไม่เพียงเท่านี้ นอกจากประเด็นความมั่นคงของบริษัท ตัวรถยังเจอประเด็นจากการทดสอบของ Asean NCAP ยิ่งสร้างผลกระทบกับตัวสินค้าที่ถือว่าขายดีของค่าย และไหนจะเจอการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะสงครามราคา
เนต้า จึงเป็นค่ายที่เจอปัญหารอบด้าน ทั้งจากภายใน และภายนอก จนหลายคนอาจจะเริ่มจับตามองว่า จะอยู่ หรือ ไป กันแน่
สถานการณ์ Neta วันนี้
แม้ว่า สถานการณ์จะไม่สู้ดีนัก แต่ Neta ก็ยังไม่ชักธงขาวยอมแพ้ พวกเขายังพยายามเดินต่อเท่าที่ยังไปไหว ในเวลานี้ ด้วยความมตั้งใจต่อการทำตลาดในประเทศไทยต่อไป
ก่อนอื่น ถ้าเรามาส่องยอดขาย Neta ในงาาน มอเตอร์โชว์ 2025 เราจะพบว่า พวกเขาก็พอจะมียอดขายเก็บกลับไปจากงานอยู่ไม่น้อยมากถึง 1,219 คัน นั่นมากกว่าแบรนด์ใหญ่ อย่าง Geely, Zeekr และ อีกมากมาย แม้ว่าในสายตาของคนที่ผ่านไปผ่านมา ในบูธ จะดูเงียบเหงา ก็ตามที
อันที่จริง ในช่วงก่อนมอเตอร์โชว์ เนต้า มอเตอร์ ประเทศไทย มีการประกาศแผนการฟื้นฟูครั้งใหญ่ โดยจับมือกับทางพันธมิตร และวางเป้าหมายชัดเจน ในการสร้างบริษัทในไทย เป็นสาขาที่สำคัญในการขยายธุรกิจไปยังประเทศในแถบอาเซียน
ในการนี้ ทาง เนต้า ได้จับมือกับพันธมิตร 4 รายสำคัญ เพื่อต่อยอดธุรกิจและแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับทางแบรรด์เนต้า
เริ่มจากการบันทึก MOU กับทางบางชัน แอสเซมบลี ในการเตรียมนำรถยนต์อเนกประสงค์ Neta X เข้ามาผลิตในไทย ซึ่งจะเป็นรถรุ่นที่ 2 หลังจากผลิต Neta V II วางจำหน่ายไปแล้วก่อนหน้านี้
โดยสายการผลิตของ Neta X เวอร์ชั่นประกอบไทย จะเริ่มขึ้นในเดือน กรกฏาคม พ.ศ. 2568 นี้ และโรงงานแห่งนี้ จะเป็นสายการผลิตหลักสำหรับป้อนรถสู่ตลาดอาเซียนด้วย
การนำ Neta X เข้ามาประกอบในไทย น่าจะมีการปรับรายละเอียดตัวรถบางส่วนด้วยเพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของคนไทย และ ลดปัญหาการส่งมอบล่าช้า หลังจากทางแบรนด์ประสบปัญหานี้มาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ประการต่อมา, ทางบริษัท ได้บันทึกความเข้าใจว่าด้วยข้อตกลงเชิงกลยุทธ์สำหรับความร่วมมือกับสถาบันทางการเงินกับ นิสสัน ลีสซิ่ง (NLTH)
โดย นิสสัน ลีสซิ่ง มีวางเงินให้ 10,000 ล้านบาท กับเนต้า ในการสนับสนุนเงินทุนสำหรับการสนับสนุนตัวแทนจำหน่าย หรือ ดีลเลอร์ สำหรับกระบวนการค้าส่ง และจำนวนหนึ่ง เป็นเงินวงเงินสำหรับการเช่าซื้อรถยนต์เนต้า แก่ลูกค้าส่วนบุคคล ที่สนใจซื้อรถเนต้า
ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการแก้ปัญหา เรื่องชิ้นส่วนและอะไหล่ โดยจับมือกับ Hong Kong Sola Technology Co., Ltd ในการจัดหาอะไหล่ มีวงเงินถึง 500 ล้านบาท ในการจัดหาอะไหล่ และทาง เนต้า มีแผนในการตั้งคลังอะไหล่ เพิ่มเติม ใน 3 แห่ง คือ กรุงเทพฯ ,เชียงใหม่ และภูเก็ต โดย จะสามารถจัดส่งอะไหล่ด่วนได้ใน 48 ชั่วโมง และ ภายใน 5 วัน ทำการ สำหรับ กรณีทั่วไป
สิ่งที่น่าสนใจไปกว่านั้น คือ ทางแบรนด์ ยังลงนามในข้อตกลงเชิงกลยุทธ์กับ Kintai Automotive Industry Development Co.,Ltd. จัดตั้งศูนย์บำรุงรักษาแบตเตอร์รี่ 3 แห่ง ภายในปีนี้ (แต่ยังไม่มีการประกาศตำแหน่งที่ตั้ง) โดยมีเป้าหมายในการบำรุงรักษาแบตเตอร์รี่ให้ได้ ปีละ 1,000 ชุด
ทางด้านแบรนด์ในจีนเอง จากที่สอบถามแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ได้รับคำตอบว่า บริษัทในจีน ต่อไปจะปรับเปลี่ยนสู่ บริษัทในลักษณะของ Holding Company โดยจะยุติการวางจำหน่ายรถยนต์ในจีนในอนาคต แล้วจะมามุ่งเน้นในการทำตลาดในต่างประเทศมากกว่า
นอกจากนี้ ตามนโยบายของ เน้ตา ที่เคยประกาศไว้เมื่อปีที่แล้ว ระบุว่า ทางบริษัท จะมีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าวางจำหน่ายในไทย เพิ่มเติมปีละ 1 รุ่น
โดยในงานมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมามีการจัดแสดงรถยนต์ Neta S รุ่นใหม่ และเมื่อปีที่แล้ว ทางเนต้า เคยมีการนำ Neta GT เข้ามาให้นักข่าวลองขับ และเผยว่า กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้
ถึงแม้จะไม่ได้ดูมาแรงแบบเดิม แต่เนต้าเองก็มีแผนและตั้งเป้าหมายในการขายรถให้ได้ 50,000 คัน ในปี 2029 ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าว่าจะขาย 10,000 คัน
ดังนั้น เนต้า ยังอยู่สู้ต่อ และน่าจะเห็นความเคลื่อนไหวมากขึ้น หลังจาก Neta X ประกอบไทยออกมาวางจำหน่าย อย่างเป็นทางการ