สรุปความน่าสนใจ จะเลือกคันไหนดี   

คุณรู้ไหมว่า?? จุดเริ่มต้นการเขียนบทความประชันกระบะ 4 ประตู ขับสองยกสูง ที่กำลังอ่านนี้มาจากรุ่นน้องผมคนหนึ่งเข้ามาปรึกษาเรื่องการซื้อรถกระบะให้คุณพ่อของเขา ที่กำลังตัดสินใจว่าจะปลดระวางรถคันเก่า ซึ่งถึงวาระอายุการใช้งาน

แน่นอน ผมกับน้องต้องช่วยกันเปรียบความคุ้มค่าเพื่อหารถกระบะที่เหมาะสมและดีที่สุดในตลาด ในการเปรียบเทียบครั้งนี้เราไม่มองถึงโปรโมชั่นการตลาดที่จะเข้ามาส่งเสริมภายหลัง หากจะมองเพียงความคุ้มค่าจากตัวรถและออพชั่นที่ให้

แน่นอนว่า รถกระบะขับ 2 ยกสูง ที่ขายในบ้านเราตอนนี้ ถ้ามองรุ่นเริ่มต้นจากทุกค่าย ดูเหมือนจะเป็นรถที่ขาดๆ เกินๆ ออพชั่นมาค่อยครบสมองค์ประกอบเท่าไรนัก ทำให้ ส่วนใหญ่เวลามองกระบะขับ 2 ยกสูง เราจึงมักมองรุ่นที่สูงกว่า ไปในทันที พวกรุ่น ราคา 7 แสนกว่าบาท  อย่างที่มีใน   Mitsubishi – Mazda-Isuzu  แทบจะถูกปัดตกโดยปริยาย

เมื่อเขยิบมามองที่ราคา 8 แสนกว่าบาท คุณจะพบว่า รถกระบะสี่ประตูขับ 2 ยกสูง ที่ถูกที่สุดในตลาดส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วยรุ่นเกียร์ธรรมดา โดยรุ่นที่ขายถูกที่สุด คือ   Chevrolet Colorado Crew Cab Z71 2.5 MT   ราคาอยู่ที่ 813,000 บาท ส่วนตัวเกียร์ออโต้ถูกที่สุดก็ยังเป็นของ   Chevrolet  เช่นกันในราคา 859,000 บาท จึงทำให้   Chevrolet  ครองตำแหน่งกระบะขับสองยกสูง 4 ประตู ที่ถูกที่สุดในเวลานี้ไป

แต่เมื่อมามองเอาตามความตั้งใจจริง หลายคนคงเริ่มดูที่เจ้าตลาดอย่าง   Toyota   ก่อน  เช่นเดียวกับน้องผม  Toyota Hilux Revo  Prerunner   อาจไม่ใช่รถที่โดดเด่นมาก เพราะตัวมันก็ขายตัวเองอยู่แล้ว ออพชั่นต่างๆถือว่ามีไม่ขาด และดียิ่งกว่า ถ้าได้หน้าตาดีขึ้นเพียงจ่ายเงินเพิ่ม 30,000 บาท ทำให้มันดูมีความน่าสนใจมากกว่า เดิม

ในขณะที่เจ้าตลาดที่เบียดกันมายาวนานอย่าง   Isuzu   อาจจดูด้อยกว่าถ้ามองเพียงขนาดเครื่องยนต์ แต่เมื่อมามองกำลังเครื่องยนต์แล้วจะเห็นว่าทำได้ดีสูสีไม่หนีกันอย่างที่หลายคนมักค่อนขอดจากเครื่องยนต์ขนาดเล็ก  แถมความหล่อเหลาล้ออัลลอยขอบ 18 นิ้วที่ให้มาแถมได้โคมไฟหน้า โปรเจคเตอร์และไฟท้าย   Led  ก็เรียกว่าเป็นสิ่งที่ทำให้หลายคนสนใจอย่างมากเมื่อมองเทียบกับระหว่าง 2 ค่ายนี้

 มันเป็นรถที่ครบครันในเรื่องความดูดี  แต่ถ้าเอา 2 ยี่ห้อนี้มาเปรียบ คุณจะพบว่า   Isuzu   มีราคาแพงกว่า   Toyota   ในระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่มากจนถึงขนาดที่คุณจะรู้สึกว่าแพงกว่ามาก ถ้าเอาโปรโมชั่นมาถัวรวมเข้าไป
ตารางแสดงเปรียบเทียบ   Toyota Hilux Revo  Prerunner รุ่น   E   และ  Isuzu  Dmax  Hi Lander Z

*หมายเหตุ รุ่น  E เป็นโคมฮาโลเจนธรรมดา ถ้าเป็น  E Plus   จะเป็นโคมโปรเจคเตอร์ ไฟหน้า  LED พร้อมระบบเครื่องเสียง   DVD  ซึ่ง จะทำให้ส่วนต่างเป็น   Toyota แพงกว่า 22,000 บาท  

หลังจากตบเท้าออกจากโชว์รูมรถทั้ง 2 ยี่ห้อ ผมกับน้องเริ่มสำรวจมวยรอง โดยเริ่มจากค่ายกระบะยอดนิยมเบอร์ 3   Ford  ซึ่ง   Ford Ranger  เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจจากความนิยมของคนทั่วประเทศ เครื่องยนต์ตัวใหม่ 160 แรงม้า ถือเป็นตัวเลือกที่ทำให้มันเป็นกระบะกลุ่มนี้ ที่แรงมาเป็นอันดับที่ 3 รองจาก   Mitsubishi, Chevrolet , ด้วยเครื่องยนต์ 2.2 ลิตร รุ่นใหม่ ทำกำลัง 160 แรงม้า 

เรือนร่างภายนอก   Ford Ranger  ใหม่ คมเข้มมาแต่ไกล น่าเสียดายค่ายวงรีสีน้ำเงินให้ล้อเพียงขอบ 17 นิ้วเท่านั้น  ทว่าก็ได้ระบบต่างมาอย่างครบครัน ทั้งระบบเปิด-ปิด  ไฟหน้า และปัดน้ำฝนอัตโนมัติ  ภายในได้เบาะผ้าเครื่องเสียงบิวอินครบครัน เมื่อนับว่าเครื่องยนต์แรงกว่าเจ้าตลาดทั้ง 2 ค่ายก็น่าสนใจอย่างยิ่ง

แต่เมื่อนำราคาเดียวกันกับที่คุณซื้อ   Ford   ไปพบกับคู่แข่งตัวฉกาจจากบ้านเดียวกัน   Chevrolet  Colorado  เชฟวี่กลับทำราคาถูกกว่าในราคาที่ใกล้เคียงกัน แม้ว่า ตัวรถจะไม่ได้มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์ แต่ความหล่อของรถในแบบอเมริกันขนานแท้ ก็ให้ความรู้สึกที่ไม่แตกต่างกันมากมายนัก จนกล้าพูดว่าไม่มีโปรเจคเตอร์ก็หล่อได้

ศูนย์บริการ   Chevrolet  ให้เราดูรถตัวแคปขับสองยกสูง ที่มีความเหมือนกับรุ่นสี่ประตู

อย่างไรก็ดีเครื่องยนต์   Chevrolet   อาจจะมีขนาดใหญ่กว่าด้วยเครื่องยนต์ขนาด 2.5 ลิตร แต่ก็มีกำลังสูงกว่าถึง 180 แรงม้า แรงเป็นอันดับที่ 2  ของตลาดรถกลุ่มนี้เป็นรองเพียง   Mitsubishi    เท่านั้น เสียอย่างเดียวเสียงเครื่องยังอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดังไปหน่อย

ถ้าเทียบฟังชั่นแบบหมัดต่อหมัด เรียกว่าแทบไม่ต่างกันมากมายนัก  มีเพียงออพชั่นเทคโนโลยีเท่านั้น ที่เชฟวี่ไม่มีแต่ฟอร์ดมี โดยเฉพาะระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ  รวมถึงระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ  ถ้าคุณทำใจได้ ก็เรียกว่า เชฟวี่ น่าสนใจไม่น้อยเหมือนกัน แต่ขอเรียนให้ทราบว่า การเข้าไปดูรถที่ศูนย์เชฟวี่บางเจ้าต้องทำใจสักหน่อย

ไหนๆ พูดถึง   Ford  ก็คงจะต้องเอ่ยถึง   Mazda   เลยแล้วกัน  แฝดคนละฝาคู่นี้มีความแตกต่างระหว่างกันไม่มากนัก โดยรวมออพชั่นเรียกว่าเหมือนกันราวกับแกะ ยกเว้นการออกแบบภายนอกภายในที่ทำออกมาได้แปลกแตกต่างกัน ตามแต่คนจะชอบเท่านั้น รวมถึงสมรรถนะในการควบคุมรถก็แตกต่างกัน

 Mazda  ยังคงใช้เครื่องยนต์ที่มีกำลัง 150 แรงม้า ของ   Ford Ranger  เดิมหาได้มีการอัพเกรดสมรรถนะเหมือนค่ายอเมริกา ทำให้ในภาพรวมถ้าไม่รักกันจริง ก็พูดตามตรงว่า ซื้อฟอร์ดน่าจะดีกว่า

อย่างไรก็ดี ส่วนที่น่าสนใจคือ ราคาจำหน่าย   Mazda BT 50  Pro   รุ่นเกียร์ธรรมดานั้นมีราคาแพงกว่า   Ford   Ranger   อยู่  1 หมื่นบาท  ( Ford Ranger  รุ่นเกียร์ธรรมดา   XLT   ราคาเริ่มต้นที่ 839,000 บาท   Mazda BT 50  Pro  Hi Racer ABS ราคา อยู่ที่ 849,000 บาท)

กลับกันรุ่นเกียร์ออโต้  Mazda   กลับมีราคาขายถูกว่า  13,000 บาท ( Ford Ranger  รุ่นเกียร์ธออโต้   XLT   ราคาเริ่มต้นที่ 879,000 บาท   Mazda BT 50  Pro  Hi Racer 6AT ราคา อยู่ที่ 866,000 บาท) แต่ก็แลกมาด้วยกำลังเครื่องน้อยกว่า 10 แรงม้า 

ทางด้านแฝดคนละฝาจากญี่ปุ่น   Mitsubishi  – Nissan   ที่พัฒนาร่วมกันช่วงแรก แล้วมาแยกทางสะบั้นรักตอนหลัง ยอมรับว่า  ต่างคนต่างมีแนวทางของตัวเอง   Mitsubishi  Triton  เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีและออพชั่นที่ให้มาครบแบบจัดเต็ม

อีกข้อดีของ   Mitsubishi  Triton   ที่อดจะพูดถึงไม่ได้ คือด้านหลังนั่งสบายที่สุด ชันหลังน้อยสุดกว่าทุกรุ่น

ไม่ว่าจะเป็นพวกดีวีดี  กุญแจ   Immobilizer  และการออกแบบตัวรถทั้งภายนอกและภายในที่ดูพรีเมี่ยมไฮโซในบัดดล นอกจากนี้พละกำลังของ   Mitsubishi   ยังถือว่าเป็นตัวท๊อปของรุ่นเครื่องยนต์ 2.5ลิตร ด้วยกำลังสูงสุด 181 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร

ขณะที่ Nissan  Navara  เครื่องยนต์ 2.5 ในรุ่นขับ 2 ยกสูงทำกำลังเพียง 163 แรงม้า และทำแรงบิด 403 นิวตันเมตร เท่านั้น  ส่วนออพชั่นมีดีกว่า   Mitsubishi  ตรงล้อขอบ 18 นิ้ว  นอกนั้นออพชั่นต่างๆ แทบจะเหมือนกัน และด้อยกว่าด้วยเครื่องเสียงที่มาพร้อมจอ 5 นิ้ว   แถมท้ายสุดเปิดราคาออกมา ในรุ่น  EL  เทียบเท่ากับเกรด   GLs – LTD  ราคาจำหน่ายดูจะสูงกว่า Mitsubishi   ดังนั้น ถ้าเอาความคุ้มเห็นได้ว่า มิตูบิชิ คุ้มสุดกว่า และจากออพชั่นทั้งหมด มันเป็นรถที่มีออพช่ะนคุ้มที่สุดในกลุ่มกระบะขับสองยกสูง

ตารางเปรียบเทียบราคาระหว่าง   Mitsubishi Trion Plus  GLS LTD   และ   Nissan Navara  Calibre  EL

อ่านหน้าต่อไป >>>