ทุกวันนี้กระแสความนิยมรถยนต์อเนกประสงค์ ทำให้ บริษัทรถยนต์หลายรายต้องมีการปรับตัวในการดำเนินงานบริษัท หลายรายต่างพยายามมุ่งน้าหันมาทำตลาดรถยนต์อเนกประสงค์โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิง่ในยรรดาบริษัทขนาดกลาง หรือเป็นผู้ผลิตมวยรอง หากในช่วงเดือนที่ผ่านมา การตัดสินใจของฟอร์ด ที่มุ่งมุ่นตั้งใจว่า ในอนาคตรถเก๋งซีดานอาจไม่จำเป็นกลายเป้นประเด็นดราม่าท่ามกลางวงการยานยนต์ระดับโลก ที่มีทั้งคนเห้นด้วยและไม่เห็นด้วย
จุดเริ่มต้นของกระแส “เก๋งซีดาน …เดี่ยวก็ตาย” มาจากการประกาศกลางงานแถลงจ่าวเรื่องผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนี้ ทางฟอร์ดเผยถึงการโละไลน์อัพรถเก๋งในตลาด จนเหลือไว้เพียงรถยนต์อเนกประสงค์ และรถสปอร์ตชั้นนำ Ford Mustang เท่านั้น ในอเมริกา โดยพวกเขาชี้ว่าความนิยมรถเก๋งประเภทซีดาานน้อยลง และได้รับผลกระทบจากความต้องการรถยนต์อเนกประสงค์ ทำให้ผู้ซื้อรถกลุ่มนี้น้อยลงตามลำดับ และน่าจะหายไปจากตลาดในอนาคต
การประกาศของฟอร์ด ทำให้ทั่วโลกตื่นตกใจถึงการตัดสินใจของค่ายวงรีสีน้ำเงิน แม้ว่าทางฟอร์ดเองจะยังไม่ถึงขนาดตัดเยื่อใยรถซีดาานเสียทีเดียว เนื่องจากใน Ford focus รุ่นใหม่ ก็มีีรุ่น 4 ประตูเหมือนกัน เพียงแต่ทำตลาดในประเทศทางเอเซีย มากกว่าทางยุโรป ชี้ให้เห็นว่า ความจริงแล้ว พวกเขาก็ยังมองว่าน่าจะยังมีความต้องการ อยู่บ้างในตลาดบางประเทศ ที่เสพติดรถยนต์เก๋งซีดาานมาช้านาน
แนวทางของฟอร์ด ร้อนถึงขนาด ผู้สื่อข่าวในอเมริกา ต้องหิ้วึำถามนี้ไปยังยักษ์ใหญ่ General Motor ,ถามตรงถึงผู้บริหารหญิงคนเก่ง แมรี่ บาร์ร่า ,เธอ ออกมากล่าวยืนยันว่า แนวคิดของ General Motor ไม่เหมือนกับทางฟอร์ด และแม้เธอในฐานะผู้บริหารสูงสุดจะเห็นภาพใหญ่ที่สำคัญว่ารถยนต์นั่งเก๋งประเภทซีดาน กำลังถดถอยลง ทว่าก้ยังไม่ถึงขนาดจะต้องหันหลังให้รถยนต์กลุ่มนี้ เนื่องจากกำลังซท้อแม้จะน้อยลง หากก็ยังมากอยู่ในระดับที่มากพอจะทำกำไรได้
ด้านผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่น “Subaru” ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องเดียวกัน เนื่องจากซูบาุร เป็นบริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่นยอดนิยมในอเมริกา และมีความต้องการรถยนต์ซีดานกลางอย่างต่อเนื่องทั้งขนาดเล็ก และขนาดกลาง รวมถึง การเปิดตัว Subaru Viziv Performance Concept ว่าที่รุ่นแรง Subaru WRX รุ่นต่อไป ชี้ชัดว่าทางบริษัทจะยังทำร่างซิ่งซีดานกลับมาแจ้งเกิดอีกครั้ง
ซูบารุ เผยว่า Subaru มั่นใจว่ารถยนต์ซีดานจะยังขายได้ อาจจะจริง ที่รถเก๋งมียอดขายน้อยลง และกระแสรถยนต์ซีดาานมีมากมายขึ้น แต่ความจริงคือว่า ราคาน้ำมันในตลาดโลกจะเป็นปัจจัยต่อรถยนต์นั่งซีดาน รถอเนกประสงค์ได้ฟังชั่นในการใช้งานก็จริง หากก็ต้องแลกด้วยการประหยัดน้ำมัน ซึ่งรถซีดานทำได้ดีกว่าในเรื่องดังกล่าวอย่างไม่ต้องสงสัย และพวกเขาเชื่อว่า เมื่อถึงจุดอิ่มตัวของอเนกประสงค์คนจะกลับมาใช้รถเก๋งเหมือนเดิม แค่คำถามคือเมื่อไรเท่านั้น
โดยยอดขาย 4 เดือนแรกของ Subaru สามารถทำยอดขายขาย Subaru XV ใหม่ ดีขึ้น ถึงร้อยละ 66 ส่วนรถเก๋ง ทั้ง Subaru Impreza หรือ Subaru Legacy ตลอดจน Subaru WRX ทั้งหมด กลับมียอดขายตกลง เล็กน้อย
ในแง่ความเป็นจริงในตลาด รถประเภท 4 ประตูยังได้รบความนิยมจากลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นเก่า ที่มองหารถยนต์เพื่อใช้ในการขับขี่ ในการโดยสารมากกว่าฟังชั่นในการใช้งานแบบอื่นๆ ที่พวกเขาอาจจะมองหาได้จากรถยนต์อเนกประสงค์
รถยนต์สี่ประตูมีความโดดเด่นในเรื่องการโดยสารยังไม่พอ พวกมันยังมีความปราดเปรียวและลู่ลมกว่ารถยนต์ประเภทอื่นๆ ในตลาดที่ไม่ใช่รถสปอร์ต เนื่องจากการทำให้ตั้งแต่ช่วงเสา C ลาดลงมายังฝากระโปรงท้าย สามารถช่วยลดลมหมุนท้ายรถ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้รถมีแรงเสียทานอากาศมากกว่าในยามขับขี่
ข้อเท็จจริงดังกล่าว ทำให้รถยนต์นั่งซีดาานเมื่อขับขี่บนเส้นทางเดียวกัน หากเป็นรถที่มีขนาดเครืื่องยนต์และกำลัง รวมถึงน้ำหนักใกล้เคียกงัน รถเก๋งซีดานจะตอบความสามารถในเรื่องความประหยัดได้ดีกว่าในระดับหนึ่ง แม้ว่าในความเป็นจริงอาจจะเป็นตัวเลขที่น้อยมาก เมื่อเปรียบเทียบออกมา หากก็ช่วยผู้ใช้งานลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางได้รัดับหนึ่งเมื่่อเทียบว่า เติมน้ำมันเท่าๆกัน
นานมาแล้ว บริษัทชั้นนำอย่างมาสด้า ประเทศไทย เคยเปิดเผยข้อมูล ทางด้านการตลาดของพวกเขา ในรถยนต์ Mazda 3 รุ่นปัจจุบันว่า ยอดขายของมาสด้าเมื่อคิดเป็นสัดส่วนระหว่าง รุ่นซีดานกับรุ่นแฮทช์แบ็คแล้ว มีอัตราส่วน 40/60
จากสัดส่วนดังกล่าว เมืื่อหันมองความเป็นจริง เราจะพบว่ารถยนต์มาสด้า 3 อาจจะมีรุ่นแอทช์แบ็คเยอะมากบนถนน หากเราก็ยังเห็นรุ่นซีดานอยู่บ้างเหมือนกัน
ส่วนทางด้านแบรนด์ชั้นนำ อาทิ ฮอนด้า เมื่อปีกลายจับเอารถยนต์ Honda Civic Hatchback เข้ามาทำตลาด เอาใจลูกค้า ในเวลานั้นหลายคนมองว่ามันน่าจะประสบความสำเร็จอย่างล้มหลาม แต่เอาเข้าใจจริง รถซีดานยังขายดีอย่างต่อเนื่อง ถึงจะมีคนออกรถแฮทช์แบ็คจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
ภาพเดียวกันนี้ อ้างอิงได้ถึงตลาดกลุ่มรถยนต์นั่งหรูที่แม้จะมีรถยนต์กลุ่มแฮทช์แบ็คมาให้เลือกในระยะหลัง แต่คนกลับยังชอบสไตล์การออกแบบของรถเก๋งซีดานมากวก่า น้อยครั้งที่เราจะพบรถเก๋งประเภทพรีเมี่ยมคาร์ที่เป็นแฮทช์แบ็ค ยกเว้นรถยนต์ขนาดคอมแพ็ค อาทิ Mercedes Benz A class และ BMW Series 1 หรือ Volvo V40 ที่ดูจะสร้างยอดขายรถนั่ง 5 ประตูได้ดี
พวกมันตอยคำถามได้ว่ าคนที่นิยมรถเก๋ง 5 ประตู ส่วนใหญ่ คือคนรุ่นใหม่ ที่มองหาการใช้ชีวิตที่หลากหลายครบเครื่องในคันเดียว
คำถามว่า “เก๋งซีเาน จะตายในอนาคตหรือไม่” ดูจะยังยากที่จะตอบ สำหรับคนรักรถที่นั่งสบาย และเรื่องราวปัจจัยจากความประหยัดน้ำมัน ดูจะทำให้รถยนต์เก๋ง 4 ประตู น่าจะยังอยู่ต่อไปในโลกยุคหน้า แต่แน่นอนว่า มันอาจจะมีการปรับตัวไปสู่ไตล์การออกแบบใหม่ ที่จะทำให้ดูน่าสนใจ น่าใช้งานมากขึ้น
เรื่องโดย ณัฐยศ ชูบรรจง นักทดสอบรถยนต์ และ คอลัมนิสต์ เว็บไซต์ Ridebuster.com ติดตามผลงานการเขียน และข้อมูลที่น่าสนใจได้ทาง Facebook
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com