ท่ามกลางกระแส  PM 2.5   ในประเทศไทย รถยนต์ดีเซลตกเป็นจำเลยหลักในการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็กทำลายสุขภาพของคนในสังคม  ฝุ่นเหล่านี้มาจากรถยนต์ดีเซลเป็นส่วนใหญ่จนมีการสั่งห้ามรถใช้ในบางพื้นที่ไปจนถึง เตรียมแบนดีเซลในอนาคตอันใกล้

ภาพของการต่อต้านดีเซลในยุโรปอย่างกว้างขวางทำให้บริษัทรถยนต์ชั้นนำฝั่งเยอรมัน อาทิ  Mercedes Benz, ไปจนถึงถึงแบรนด์รถยนต์อีกหลายราย อาทิ  Volvo  ต่างประกาศหยุดวางจำหน่ายและผลิตรถเครื่องยนต์ดีเซล ขณะที่ผู้บริโภค รวมถึงวิศวกรยังเชื่อมั่นในความสามารถว่าน่าจะสามารถพัฒนาได้อีก

อนาคตเครื่องยนต์ดีเซลกลายเป็นดับวูบ นับตั้งแต่กระแส Diesel Scandal  ของบริษัทรถยนต์ชั้นนำ   Volkswagen  ในยุโรป การโกงไอเสียด้วยการติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ สร้างผลต่อความเชื่อมั่นในรถยนต์ดีเซลในการปล่อยมลภาวะ แถมการทดสอบใหม่ๆ พบว่ามีการปล่อยไอเสียมากกว่าปกติ ยิ่งทำให้รถดีเซลสมควรจะหายไปจากตลาดในอนาคต

แม้การปะทุในเรื่องราวโกงไอเสียจะทำให้ครื่องดีเซลหายไปจากตลาดในช่วงปีที่ผ่านมา ประกอบกับการประกาศเลิกจำหน่าย-ผลิต ยิ่งดูเข้าเค้าว่าในอนาคตเครื่องจะหายไปในเร็วๆ นี้

การสำรวจล่าสุด KPMG’s Global Automotive Executive Survey 2019 เปิดเผยว่า ในท้ายที่สุดเครื่องยนต์ดีเซลจะกลับมาอีกครั้ง

รายงานจากการสำรวจชี้ว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เครื่องยนต์ดีเซลปัจจุบันไม่ได้รับการยอมรับ เนื่องจากการประโคมข่าวของสื่อมวลชน การออกกฎควคุมของภาครัฐ โดยเฉพาะทางฝั่งยุโรป และการเปิดเผยข้อเท็จจริงสำคัญว่ามันไม่สะอาด ทำให้สังคมยินดีจะปฏิเสธพวกมัน

แต่เครื่องยนต์ดีเซลจะยังไม่หายไป และจะกลับมาในอนาคต ด้วยความเข้าใจจากวิศวกร และผู้ใช้ว่าดีเซลมีประสิทธิภาพสูงในการขับขี่ ทั้งทางด้านความประหยัดและพลังกำลังของรถ

ผู้บริหารกลุ่มขบวนรถตามบริษัทขนส่งชั้นนำ ยืนยันว่าเครื่องยนต์ดีเซลมีประสิทธิภาพสูงและใช้งานได้อย่างคุ้มค่า และให้ประสิทธิผลทางการดำเนินธุรกิจที่ดี

อย่างไรก็ดี เครื่องยนต์ดีเซลยังจะคงเป็นที่ต้องการสำหรับลูกค้าบางกลุ่ม โดยเฉพาะการแนะนำเครื่องยนต์ดีเซลในรถยนต์บางกลุ่ม โดยเพาะกระบะและอเนกประสงค์ ทำให้เครื่องยนต์ดีเซลแม้ว่าจะไม่เป็นที่ต้องการ แต่ก็ยังน่าจะอยู่รอดในอนาคต

จากการประเมินของการสำรวจ เชื่อว่า น่าจะมีคนถึง 1 ใน 3 ยังคิดจะซื้อเครื่องยนต์ดีเซล หรือ รถดีเซลจะคิดเป็น 1 ใน 5 ของรถทั้งหมดที่ขายในโลก แต่เรื่องนี้จะต้องขึ้นอยู่กับการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลให้สะอาดมากขึ้นและมีความตั้งใจจริงในการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น  เพื่อให้สังคมเป็นที่ยอมรับ

แม้ว่าในวันนี้สังคมยังจะพอยอมรับเครื่องยนต์ดีเซล แต่การประเมินของการสำรวจ พบว่า ถ้าท้ายที่สุดเครื่องยนต์ดีเซลจะหายไปจากตลาด คนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 47 จะไปซื้อรถไฮบริดแทน และอีกร้อยละ 28 จะไปซื้อรถยนต์ไฟฟ้า แทนรถดีเซล และมีคนอีกกลุ่มเผยว่าพวกเขาจะยังเก็บรถดีเซลไว้เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่ารถแบบใหม่ๆ ที่เผยออกมา

อนาคตเครื่องยนต์ดีเซลจะเป็นอย่างไร เชื่อว่า น่าจะอีกไม่นานนี้เราจะได้รู้กัน ว่ามันจะยังอยู่ในตลาด หรือจากไปในท้ายที่สุด