ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีความพยายามในการรักษาสิ่งแวดล้อและสร้างความประหยัดด้วยการลดขนาดเครื่องยนต์ หรือปรับเปลี่ยนรูปแบบเครื่องยนต์ เช่นจากเครื่องยนต์ V6 มาเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเป็นต้น ในมุมหนึ่งทุกคนมองว่า ขุมพลังยุคใหม่จะประหยัดมากขึ้น มันอาจจะมีส่วนจริงบ้าง หากไม่ใช่ทั้งหมดของความจริงเบื้องต้นกำลังยุคใหม่
เครื่องยนต์รุ่นหม่ประหยัดจริงหรือ กำลังเป็นคำถามที่หน่วยงานทางด้านการรักษาสิ่งวดล้อม หรือ EPA ตั้งคำถามถึงบริษัทรถยนต์ในวันนี้ แม้ว่าเครื่องยนต์จะมีการปรับลดขนาดความจุ หรือรูปแบบเครื่องยนต์ หากบริษัทรถยนต์ก็พยายามอย่างยิ่งยวดในการทำให้เครื่องยนต์สมัยใหม่มีความเรา้ใจในการขับขี่มากขึ้น อันต้องแลกมาด้วยกับการประหยัดน้ำมัน
ข้อมูลทางด้านสมรรถนะเครื่องยนต์ในรถยนต์ที่ขายในอเมริกาชี้ให้เห็นว่ าเมื่อเทียบกับรถยนต์ในปัจจุบัน จากข้อมูลในปี 2008 เผยให้เห็นถึงสมรรถนะทางด้านพละกำลังที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 14 และ มีอัตราการบริโภคน้ำมันโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24
โดยในอเมริกาปัจจุบันรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีแรงมากโดยปรมาณอยู่ที่ 300 แรงม้า และมีความพยายามสร้างรถให้มีประสิทธิภาพในการใช้น้ำมันอย่างคุ้มค่ามากขึ้น โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากเครื่องยนต์ V6 ยอดนิยมในอดีตมาสู่เครื่องยนต์ 4 สูบ ติดตั้งระบบเทอร์โบชาร์จมากขึ้น
การติดตั้งระบบอัดอากาศไม่ว่าจะเทอร์โบชาร์จหรือซุปเปอร์ชาร์จมีการขยายตัวจากเดิมถึงร้อยละ 23 เมือเทียบกับ 10ปีที่แล้ว และปัจจุบันเครื่องยนต์ V8 เหลือในรถยนต์รุ่นใหม่เพียงร้อยละ 16 มีรถยนต์ดั้งเดิมที่ใช้เครื่องยนต์ V8 แล้วหันมาเปลี่ยนใช้เครื่องยนต์ใหม่ที่เล็กลงหลายรุ่นเช่นกัน
EPA ได้ยกตัวอย่างหนึ่ง จาก Chevrolet Silverado ที่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ 2.7 ลิตร 4 สูบ ให้กำลัง 310 แรงม้า เรียกแรงบิด 471 นิวตันเมตร แทนเครื่องยนต์เดิม V8 4.8 ลิตรให้กำลัง 302 แรงมา้ ทำแรงบิด 414 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ใหม่เล็กลงและแรงกว่ารุ่นเดิม
อย่างไรก็ดีตามรายงานของ Bloomberg ที่นำเสนอรายงานชิ้นนี้ ชี้ว่ารถยนต์สมัยใหม่จะแรงและประหยัดขึ้น โดยเฉพาะการก้าวเข้าสู่ยุคต่อไป ซึ่งเครื่องยนต์ไฮบริดจะเข้ามามีบทบาทในรถยนต์สมัยใหม่มากขึ้น
โดยตัวอย่างหนึ่งที่สำคัญ คือรถยนต์ Volvo XC60 T8 twin engine มันดูหรูหน้าตาแบบรถยนต์ครอบครัวยุคใหม่ หากในใต้ร่างของมันเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ติดตั้งเทอร์โบชาร์จและซุปเปอร์ชาร์จ พร้อมระบบมอเตอร์ไฟฟ้า ขับย่องๆ ก็ให้ความประหยัด และมันพร้อมจะห้ำหั่นทำความเร็วเมื่อคุณต้องการ
เมื่อย้อนมองในประเทศไทย เรื่องทำนองเดียวกันก็เกิดขึ้นเช่นกันใ นทิศทางแแบบที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ยกตัวอย่างเช่นรถยนต์คอมแพ็คคาร์ยอดนิยม Honda Civic รุ่นปี 2008 (โฉม FD) ซึ่งเดิมทีขายเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ในยุคนั้นทำกำลัง 155 PS ให้แรงบิด 188 นิวตันเมตร
เมื่อเทียบกับปัจจุบัน Honda Civic ใหม่ เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จมันทำกำลัง 173 แรงม้า และ ทำแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร และแถมมีเครื่องยนต์เล็กลง ก็ยิ่งน่าสนใจ
เทรนด์ประหยัดเพิ่มความแรง นับเป็นเทรนด์ใหม่ที่น่าสนใจในเวลานี้ของบริษัทรถยนต์ชั้นนำทั้งหลาย ที่ต้องการออกมาเรียกวร้องให้คนสนใจรถพวกเขามากขึ้น และผลประโยชน์ตกอยุ่ที่ผู้บริโภค
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com