ตลาดรถกระบะ นับเป็นตลาดรถยนต์ที่มีการแข่งขันกันสูงมาก ประเทศไทย ถือเป็นตลาดสำคัญของรถกระบะขนาดกลาง และ เป็นประเทศที่ใช้รถประเภทนี้เยอะติดอันดับโลก จนบริษัทชั้นนำหลายบริษัทให้ความใส่ใจเปิดตัวรถยนต์ครั้งแรกในโลก หลายต่อหลายรุ่น
นิสสันเอง ก็ให้ความสำคัญกับบ้านเรา ด้วยการแนะนำ Nissan Navara ในปี 2006 และอีกครั้งในปี 2014 ด้วยการออกแบบใหม่ที่มีความทันสมัยมากขึ้นกว่า จนรถรุ่นนี้กลายเป็นดาวเด่นกระบะญี่ปุ่น ท่ามกลางการเปิดตัวของคู่แข่งญี่ปุ่นที่ออกมาตามหลังไม่นาน ก็ไม่ได้รับความนิยมมากนัก หากฝากฝั่งกระบะพันธุ์แกร่งจากตะวันตกกลับไล่ต้อนแบรนด์เสียจนมุมถูกใจลูกค้า ที่ต้องทรวดทรงถึกถึนดุดันตอบโจทย์
การเปลี่ยนแปลงของกระบะอเมริกันในปี 2016 ส่งผลให้ลูกค้าเปลี่ยนแนวคิดการซื้อกระบะไปมาก จากเดิม กระบะจะต้องมีความเป็นเก๋ง พกความสะดวกสบายครบถ้วนครบครัน กลายเป็นต้องการกระบะดูแกร่งพร้อมลุยขับง่าย ทำให้ Nissan ตกที่นั่งลำบาก
แถมด้วยการไม่ยอดเปลี่ยนรุ่นปรุงโฉมนับตั้งแต่เริ่มขายในปี 2014 มาจนถึงเวลานั้น ก็นับเป็นเวลากว่า 3 ปี ทำให้ผลิตภัณฑ์เริ่มโรยรา แม้นว่าจะมีความพยายามในการสร้างสรรค์กระบะแต่งพิเศษขึ้นมาตอบโจทย์ อาทิ Autech Edition หรือ อื่นในห้วงเวลาก่อนหน้านี้ ก็ไม่ได้ปาลูกดอกตรงเป้ากลางใจลูกค้า
ไม่มีรุ่นใหม่ ไม่มีปรับโฉม ก็คงต้องเล่นรุ่นพิเศษ โจทย์นี้ถูกโยนเข้าสู่ห้องประชุมผู้บริหาร ภายใต้ข้อจำกัดการดำเนินงานจาก Nissan เอเชีย-โอเชียเนีย หรือ นิสสันภูมิภาค และเป็น คุณ สุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ดำรงตำแหน่ง รองประธาน สายงานการตลาด นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ดันให้กระบะนาวาร่ามีรุ่นพิเศษอีกครั้งที่คาดว่าจะตอบโจทย์ชาวไทยได้ตรงเป้า
ก่อเกิดเป็น Nissan Navara Black Edition กระบะแต่งพร้อมลุยจากค่ายนิสสัน โดดเด่นกว่าชาวบ้านด้วยกราฟฟิก สติกเกอร์ดีไซน์สีดำ เย็บโป่ง ล้อดำ หลังคาและฝากระโปรงหน้ามีรายละเอียดสติกเกอร์ ขับมาแล้ว เด่นสะดุดตาไม่น้อย รถรุ่นนี้เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017
รายละเอียดทางวิศวกรรมตัวรถไม่ได้เปลี่ยนแปลงจากเดิม หรือทางการตลาดเรียกว่า สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตัวรถ (Value Add) แถมราคาขาก็ไม่ได้เพิ่มจากเดิมมากมายนัก จนนาวาร่าเริ่มเข้ามาอยู่ในสายตาผู้บริโภคอีกครั้ง ท่ามกลางกลุ่มกระบะแกร่ง ที่เปิดตัวออกมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะแบรนด์อเมริกา รุกคืบเข้ามา จนถ้าไม่เจ้าตลาดก็หนีไปค่ายตะวันตกกันเลย
ในงานมอเตอร์โชว์ครั้งล่าสุด นิสสันสายต่อ Nissan Navara Black Edition รุ่นที่ 2 ด้วยการสติกเกอร์เชนจ์รถรุ่นนี้ให้ดูดีมากขึ้นกว่าเดิม ภายในตัดเย็บเบาะนั่งใหม่เพิ่มรายละเอียดมากนัก น่าเสียดายไม่ยอดเปลี่ยนการออกแบบคอนโซลหน้าน่าใช้ขึ้น อย่า ง Nissan X-Trail
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ น่าจะเรียกว่าประสบความสำเร็จมากขึ้น วัดได้จากจำนวนรถที่เห็นบนถนนเยอะขึ้น จนพอจะกล่าวได้ว่า เป็นความสำเร็จในทางที่ดี
อย่างไรก็ดี นิสสันยังต้องการรถกระบะใหม่ที่ออกแบบได้ทัดเทียมคู่แข่งมากขึ้น เนื่องจากกระแสความต้องการเปลี่ยนแปลงไปแล้วในวันนี้ ลูกค้าต้องการกระบะดูลุคแกร่งดุดัน มีความสปอร์ตมากขึ้น ไม่ใช่กระบะหน้ามลดูเหมือนขับเก๋งคันโตอย่างในอดีต
ทิศทางนี้ขัดเจนจากคู่แข่ง รวมถึงค่ายพันธมิตรใต้ร่มโพธ์ความร่วมมือ Mitsubishi Motor ทันทีที่เปลี่ยนการออกแบบให้เป็นไปตามกระแส ยอดขายก็วิ่งทะลุเป็นที่ต้องการของลูกค้าทันที เพียงแค่เปลี่ยนการวิศวกรรมเล็กน้อยให้ตอบโจทย์มากขึ้น ไม่ใช่คงความเป็นกระบะสไตล์แบบเดิม ออกมาขาย
Nissan Navara Black Edition นับเป็นรถที่สร้างความสำเร็จให้กับนิสสัน ในยุคเฝ้ารออีโค่คาร์คันใหม่ ทำไมนิสสันถึงเดินได้ดีขึ้น ทั้งที่คู่แข่งในตลาดกลุ่มนี้แข่งขันกันเอาเป็นเอาตาย การสร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าไม่เพียงแค่สำคัญ ยังต้องสร้างให้ตรงความต้องการของลูกค้าด้วย