Home » ทำไมหนูชอบกัดสายไฟรถรุ่นใหม่? อ่านนี่แล้วจะรู้คำตอบ
หนูกัดสายไฟ
สกู๊ปเด็ด

ทำไมหนูชอบกัดสายไฟรถรุ่นใหม่? อ่านนี่แล้วจะรู้คำตอบ

เราเชื่อว่าผู้อ่านหลายคนมีประสบการณ์รถคันโปรดถูกสัตว์ตัวเล็กอย่างหนู บุกรุกเข้าไปภายในห้องเครื่องยนต์รวมถึงกรองแอร์ บางตัวก็ออกลูกหลาน แต่หนักหน่อยก็ถึงขั้นกัดแทะสายไฟจนทำให้รถยนต์เสียหาย บางรายเสียเงินหลักหมื่นเพื่อซ่อมแซมสายไฟให้ใช้งานได้ดังเดิม ว่าแต่คุณสงสัยไหมว่าทำไมหนูน้อยตัวเล็กถึงชอบกัดสายไฟ?

 

ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาบรรดาค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่าง Toyota, Ford และอื่นๆ เริ่มหันมาใช้วัสดุเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งไล่ตั้งแต่พลาสติกที่ใช้ประกอบรถตามส่วนต่างๆ ไปจนถึงปลอกหุ้มสายไฟรถทั้งคัน แน่นอนว่ามันส่งผลดีต่อโลกอย่างมาก แต่อีกหนึ่งความลับที่คุณคงไม่รู้มาก่อนก็คือ อะไหล่บางส่วนมีส่วนประกอบของถั่วเหลือง…

 

หนูกัดสายไฟ
หนูชอบเข้าไปทำรังในช่องกรองอากาศ แน่นอนว่ามันทำให้เจ้าของรถหัวเสียมาก

 

ปัญหาจะเริ่มขึ้นทันทีเมื่อคุณดับเครื่องรถยนต์หลังจากขับรถกลับมาบ้าน ด้วยความร้อนของเครื่องยนต์ที่เป็นแรงดึงดูดให้สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมตัวเล็กเช่นหนู หาเส้นทางปีนป่ายเข้ามาที่บริเวณห้องเครื่องเพื่อพักผ่อนแอบอิงเอาไออุ่นจากเครื่องยนต์ บางตัวก็ย่องเข้าไปในช่องกรองอากาศแอร์ แล้วทำการเพิ่มประชากรออกลูกหลานกันเป็นล่ำเป็นสัน ก่อให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์รวมถึงสร้างเชื้อโรคเข้าสู่ภายในเมื่อผู้ขับขี่เปิดแอร์

อีกหนึ่งเคสที่ร้ายแรงกว่าก็คือหนูกัดสายไฟ คำถามมากมายเกิดขึ้นว่าทำไมหนูถึงกัดสายไฟ? คำตอบที่ดูเป็นเหตุเป็นผลมากที่สุดก็คือ รถยนต์รุ่นใหม่มีการใช่สายไฟที่มีเปลือกห่อหุ้มทำจากวัสดุที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ นั่นก็คือมีส่วนประกอบของถั่วเหลือง จึงเป็นสาเหตุให้หนูซึ่งเป็นสัตว์ฟันแทะเกิดอารมณ์หมันเขี้ยวปนหิว พุ่งตรงเข้าไปกัดสายไฟจนเสียหายหรืออาจขาด ส่งผลให้รถยนต์ทำงานผิดปกติจนเจ้าของรถต้องพาเข้าศูนย์ฯ ไปซ่อมแซ่ม โดยบางรายต้องเสียเงินหลักพันไปถึงหมื่นบาทเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว

 

 

หากถามถึงวิธีการป้องกันมิให้หนูน้อยเข้ามาทำรังหรือกัดสายไฟรถคันโปรดของคุณ เราคงตอบได้เพียงว่าให้แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการกั้นตระแกรงไม่ให้หนูปีนป่ายเข้าห้องเครื่อง หรือไม่ก็วางกับดับหนูเอาไว้บริเวณโรงรถ เพราะเราไม่สามารถไปบอกให้ผู้ผลิตรถยนต์เปลี่ยนวัตถุดิบในการผลิตสายไฟ หรือให้พวกเขาติดตั้งตระแกรงป้องกันหนูเข้ารถได้

 

ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com

 

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.