ท่ามกลางความชื่นมื่นของงาน Tokyo Motor Show 2019 แบรนด์รถยนต์ฮอนด้า ถือเป็นแบรนด์สร้างกระแสหลักในครั้งนี้ ด้วยรถยนต์นั่งขนาดเล็ก Honda Fit ใหม่ มีแนวโน้มสูงว่าจะไม่เข้าไทย แต่การเชิญผู้สื่อข่าวไทยจำนวนหนึ่งไปประเทศญี่ปุ่นครั้งนี้ เหมือนจะมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจมากกว่า เจ้าตัวเล็ก
ตั้งแต่เมื่อปีกลาย ฮอนด้า ประกาศเดินตามแนวทางวิสัยทัศน์ใหม่ของบริษัท วางเป้าจำหน่ายรถยนต์ที่ขับเคลื่อนไฟฟ้ามากขึ้น ตลอดจนในงาน Tokyo Motor Show 2019 นาย ทาคาฮิโระ ฮาจิโกะ CEO ของ Honda เปิดเผยถึงวิสัยทัศน์ใหม่ ในการสร้างคุณค่าตามวิสัยทัศน์ 2030 และพร้อมกันนี้ยังแนะนำ เทคโนโลยีคอนเซปต์ใหม่ ภายใต้ Honda e : Technology
เทคโนโลยี Honda e มุ่งเน้นส่วนสำคัญ ในการเติมเต็มรถยนต์ไฮบริดขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ให้กว้างขวางมากขึ้น ซึ่งทางฮอนด้าเรียกว่า e:HEV ซึ่งจะใช้เรียกแทนภาพรวมของระบบ Sport i-MMD แบบ 2 มอเตอร์ขับเคลื่อน ซึ่งปัจจุบันใช้ในรถหลายรุ่น และบ้านเราติดตั้งใน Honda Accord Hybrid
วิสัยทัศน์ใหม่ น่าจะส่งผลต่อหลายตลาดทั่วโลก ที่มีความเป็นไปได้ในการทำตลาดรถยนต์ไฮบริด สำหรับประเทศไทย ด้วยโครงสร้างภาษีใหม่ CO2 หรือ จัดเก็บภาษีสรรพสามิต ตามการปล่อยไอเสียของรถยนต์รุ่นนั้นๆ ยิ่งทำให้รถไฮบริดได้เปรียบ จะเห็นได้จากการตั้งราคาขายของคู่แข่ง Toyota สามารถปรับราคา Toyota Corolla Altis Hybrid จนสามารถตีตลาดเรียกความสนใจจากลูกค้า
ฮอนด้าเองมีแนวโน้มจะพุ่งเป้าขายไฮบริดมากขึ้น ตั้งแต่เมื่อปีกลาย หลังนาย พิทักษ์ พฤกธิสาริกร บอสใหญ่ฮอนด้า ยอมรับว่า ต่อไป ฮอนด้าจะมีรถยนต์ไฮบริดเข้าสู่ตลาด ทำตลาดเคียงค้างกับรถยนต์รุ่นเครื่องยนต์ปกติมากขึ้น
การประเดิมเปิดตัว Honda Accord ใหม่ ท้าทายตลาดด้วยเครื่องยนต์เบนซินปกติ เพียงรุ่นเดียว และให้รุ่นเครื่องยนต์ไฮบริดมากถึง 2 รุ่น แถมราคาขายยังถูกกว่าเดิมเล็กน้อย เหมือนเป็นการส่งสัญญาณว่า ฮอนด้าจะเอาจริงเรื่องไฮบริด และ พวกเขามีรถไฮบริดอีกอย่างน้อย 2 รุ่น ที่มีความเป็นไปได้ จะเข้าไทย ที่สำคัญ พานักข่าวไปขับทดสอบในญี่ปุ่นแล้วด้วย ตามธรรมเนียม โดยส่วนใหญ่รถที่นักข่าวได้ขับ จะมีโอกาสเข้าไทย
ตลอดจนการปรับให้ไทย เป็นฐานการส่งออกรถยนต์ไฮบริดสำคัญ ซึ่งบ้านเรา จะส่งออกรถยนต์ Honda Accord ใหม่ ไปขายในญี่ปุ่น ราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ ปีหน้าเป็นต้นไป หลังคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน อนุมัติโครงการลงทุนรถไฮบริดมูลค่า 5,821 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงฐานการผลิตทั้งในอยุธยา และ ปราจีนบุรี รองรับการผลิตรถยนต์ไฮบริดในอนาคต
Honda CR-V Hybrid
Honda CR-V รถยนต์อเนกประสงค์ยอดนิยมทั่วโลก จากฮอนด้า มีแนวโน้มจะถูกเปลี่ยนไปเป็นไฮบริดสูงที่สุด เดิมทีหลายคนคาดการณ์ ว่ามันน่าจะเป็นรุ่นแรกที่เปลี่ยนไปเป็นรถไฮบริดด้วยซ้ำ แต่เมื่อนานวันไป ฮอนด้า แอคคอร์ด มาเปิดตัวนำหน้า ทำให้หลายคนคิดว่ามันอาจจะไม่เปลี่ยนแปลงแล้ว
อันที่จริง ฮอนด้า ยุโรป มีแนวคิดยกเลิกเครื่องยนต์ดีเซล และจะไม่แนะนำต่อภายในปี 2021 หรือ ภายในปี 2020 จะไม่มีการผลิตรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลเพิ่มเติม ส่งผลให้ขุมพลัง I -Dtec 1.6 ลิตร ปัจจุบันผลิตในโรงงานที่ประเทศอังกฤษ จะไม่มีป้อนในส่วนอื่นของโลก นั่นรวมถึงประเทศไทยด้วย
การเปิดเผยโฉม Honda CR-V ใม โฉม 2020 เมื่อไม่กี่เดือนทีผ่านมา มีความชัดเจนว่า Honda CR-V Diesel ปัจจุบันอาจถึงกาลต้องปลดระวาง เมื่อ Honda อเมริกา (ซึ่งส่วนใหญ่เหมือนฮอนด้าบ้านเราจะอ้างอิงตาม) ประกาศเปลี่ยนแปลง รายละเอียดเครื่องยนต์ จากเครื่อง 2.4 ลิตร มาเป็นเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรเทอร์โบ
นอกจากนี้ยังปรับเพิ่ม Honda CR-V ไฮบริดเข้ามาเติมเต็มให้กับลูกค้า โดยยกเครื่องยนต์ของ Honda Accord ไฮบริดเข้ามาประจำการ นับเป็นประเทศที่ 2 รองจากกลุ่มยุโรป ที่รถรุ่นนี้เข้าสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ
รายละเอยดทางเทคนิค เครื่องยนต์ในภาพรวม เรียกว่าเหมือนกับ Honda Accord ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ 2.0 ลิต รพร้อมระบบไฮบริด Sport i-MMD ให้กำลัง 200 กว่า แรงม้า ตั้งแต่คลอดออกจากสายพานโรงงาน ให้แรงบิดสูงสุด 315 นิวตันเมตร และมีความประหยัดที่น่าประทับใจถึง 21.2 ก.ม./ลิตร ตามการทดสอบในโหมด WLTC ใหม่ ในญี่ปุ่น
บ้านเรา Honda CR-V เปิดขายมาตั้งแต่ ปี 2017 และแนวโน้มปรับโฉมในปีหน้า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คาดว่าจะมาพร้อมกับการปรับรุ่นปรุงโฉมและหน้าตารถ
Honda Insight
รถยนต์ Honda Insight เป็นรถไฮบริดรุ่นเฉพาะที่เคยถูกนำเข้ามาขายในไทย เมื่อนานมาแล้ว และจางหายไปอย่างรวดเร็วจากตลาดบ้านเรา
ฮอนด้า อินไซท์ เป็นรถไฮบริดขนาดคอมแพ็คคาร์ ที่วางจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในญี่ปุ่นและอเมริกาด้วย ตัวรถรุ่นนี้ถ้าพูดในความจริง มันไม่ต่างจาก Honda Civic เครื่องไฮบริด เพียงแต่ฮอนด้าไม่ได้สร้างซีวิคไฮบริดขึ้นมา พวกเขาสร้าง Honda Insight โดยวาง Product Position เสียบกลางไว้ในระหว่าง Honda Accord และ Honda Civic จับลูกค้าพรีเมี่ยม ที่ไม่มีความประสงค์ต้องการรถยนต์ขนาดใหญ่
ตัรถรุ่นใหม่ เปิดตัวออกมาในงาน New York Motor Show 2018 การออกแบบเน้นเด่นความทันสมัย ด้วยลายเซ็นต์เอกลักษณ์ Flying Wing หน้าตาดูคมเข้มรายละเอียดโครเมี่ยมเป็นตัน มาพร้อมไฟหน้าและไฟท้าย LED การออกแบบที่มีความสปอร์ต และทรงด้านหลัง ที่ออกมาเป็นสไตล์เส้นหลังคา Coupe Like
ด้านในห้องโดยสาร ออกแบบให้มีความพรีเมี่ยมกว่า Honda Civic รุ่นปกติ หันมาใช้วัสดุ Soft Touch บวกกับการเดินด้ายเย็บของจริง ติดตั้งหน้าจอ TFT ขนาด 7 นิ้ว สำหรับบอกข้อมูลในการขับขี่ ให้เครื่องเสียงจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play และ Android auto ครบเสร็จสรรพ ให้ระบบเกียร์ปุ่มแทนคันเกียร์ดั้งเดิม
พื้นที่โดยสารให้มากกว่า Honda Civic ด้วยฐานล้อยาว 2,700 มม. ช่วยให้การโดยสารสบายมากขึ้น มีพื้นที่วางขายาว 95 เซนติเมตร ส่วนห้องสัมภาระท้าย ก็ใหญ่ไม่แพ้รถซีดานกลาง ด้วยความกว้าง 427 ลิตร
การขับเคลื่อน เป็นหน้าที่ของเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรทำงานแบบแอทคินสันไซเคิล ติดตั้งร่วมกับระบบไฮบริด Sport i-MMD ให้กำลังขับรวมสูงสุด 151 แรงม้า และทำแรงบิดจากระบบขับรวม 267 นิวตันเมตร ตัวรถมาพร้อม 3 โหมดการขับขี่ ได้แก่ Normal , Eco และ Sport
การก้าวเข้าสู่โลกไฮบริดของแบรนด์ฮอนด้า นับเป็นการขับเคลื่อนครั้งสำคัญ ซึ่งเราน่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงภายในปีหน้า การนำผู้สื่อข่าวไปขับรถทั้ง 2 รุ่นไกล ถึงญี่ปุ่น บ่งชี้ว่า ฮอนด้ากำลังเบนเข็มมาเพิ่มรุ่นไฮบริดในรถปัจจุบันมากขึ้น และพวกเขาอาจมีความตั้งใจจริงทำตลาดไฮบริดในไทย