ในกระแสการแข่งขันรถยนต์ในปัจจุบัน รถยนต์ซีดานกลาง ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีความแตกต่างในการขับขี่ด้วยการมุ่งเน้นการใช้งานหรูหราและสะดวกสบาย ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นได้ว่ารถกลุ่มนี้ไม่ได้รับความนิยมจากลูกค้า ทั้งปัจจัยความนิยมในรถยนต์อเนกประสงค์ รวมถึงรถเก๋งจากแบรนด์ยุโรป มีรุ่นเล็กให้เลือก
ความกดดันที่สะสมในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้หลายบริษัทรถยนต์จากญี่ปุ่นคิดไม่ตก เนื่องจากลูกค้าผละจากรถยนต์ที่เคยได้รับความนิยมไปสู่กระแสนิยม อย่างรถยนต์อเนกประสงค์ที่ดูจะตรงความต้องการและลักษณะการใช้
นแบบครอบครัวมากกว่า หรือใครอยากจะดูดี ปัจจุบัน รถยนต์ขั้นนำ โดยเฉพาะสามทหารเสือรถยุโรป ทั้ง Benz,BMW และ Volvo ต่างก็มีทางเลือกให้ลูกค้าจับจองเป็นเจ้าของกันง่ายขึ้นในราคาเดียวกับซีดานกลาง แต่ได้สมรรถนะการขับขี่เหนือระดับ
โจทย์ยากเหล่านี้ทำให้ ซีดานกลางนับวันแลยิ่งจะเสื่อถอยในความคิดของใครหลายคน แต่ก็มีบางแบรนด์ เชื่ออย่างสุดใจว่าท้ายที่สุดแล้วรถกลุ่มนี้จะยังขายได้ เพราะที่ผ่านมาก็ขายมาได้เรื่อยๆ ต่อเนื่องในตลาดปัจจุบันถึงจะไม่ได้เป็นตัวเลขจำนวนมากเท่าเซกเม้นท์ อเนกประสงค์ที่กำลังท๊อปฮิตในวันนี้
การเปิดตลาดรถยนต์ซีดานกลางในช่วงสัปดาห์ทีผ่านมา อาจทำให้หลายคนคิดว่า นี่เป็นเพียงช่วงจังหวะการเปลี่ยนรุ่นปรับโฉมตามระยะเวลาสมควรในการทำตลาด แต่การที่แบรรด์ชั้นนำ อย่าง Toyota จะเปิดรถรุ่นนี้ใหม่เชื่อว่าจะต้องมีการศึกษาตลาดเป็นอย่างดีแน่นอน
มุมหนึ่งที่เห็นและสะท้อนจากการเปิดตัว Toyota Camry ใหม่ เราจะพบว่า รถยนต์ซีดานกลางใหม่ของค่ายโตโยต้ามีราคาหลายรุ่นย่อยถูกลงโดยเฉพาะในรุ่นไฮบริดที่เมื่อก่อนมีราคาขายเฉียด 2 ล้านบาท มาบัดนี้ราคากลับลดลงและมีออพชั่นมากขึ้น ด้วยส่วนหนึ่งจากอานิสงค์ของการเรียกเก็บภาษีสรรพสามิตรแบบใหม่ที่เรียกว่า ภาษี CO2ซึ่งอาศัยการทดสอบการปล่อยไอเสีย โดยไม่ได้มองถึงขนาดเครื่องยนต์อีกต่อไป
การโหมโรงของเจ้าตลาดอย่าง Toyota Camry ยังมาถึงอนาคตการเปลี่ยนแปลงในตลาดซีดานกลาง โดยเฉพาะเบอร์ 3 ในวันนี้อย่าง Nissan ผู้ทำตลาดรถยนต์ Nisan Teana มายาวนาน ก็ถือฤกษ์เอาชัยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกมา ด้วยการเน้นไปที่ออพชั่นตัวรถและการออกแบบที่โดดเด่นมากกว่ารุ่นเดิมที่สมควรจะเปลี่ยนมาตั้งนานแล้ว
แม้ Nissan Teana ใหม่ จะเปลี่ยนช้าไปนิดและไม่ใช่รุ่นใหม่หมด อย่างคู่แข่งเปิดตัวออกมาวางขายกันในวันนี้ แต่ Nissan มองภาพตลาดรถยนต์ซีดานกลางได้ค่อนข้างมีความคิดการขายที่ค่อนข้างสร้างสรรค์
โดยทางผู้บริหารนิสสันมองว่า รถยนต์ซีดานกลางจะยังเป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้าต่อไป ด้วยความโดดเด่นทางด้านการเป็นรถยนต์ที่สามารถใช้งานได้แบบ 2 in 1 ทั้งในเขิงภาพลักษณ์ในการขับขี่เพื่อความหรูหราและดูดี ขณะที่อีกด้านยังสามารถใช้งานเพื่อครอบครัวได้อีกด้วย
การมี 2 บริบทดังกล่าว ทำให้ซีดานกลางยังน่าจะเป็นรถที่ได้รับความสนใจจากลูกค้า ถึงแม้ว่าจะมีคู่แข่งสำคัญ อย่างรถยนต์อเนกประสงค์ทำตลาดในปัจจุบัน ทว่ารถยนต์ซีดานขนาดใหญ่ ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสมเหมือนกัน
โดยเฉพาะเรื่องความสบายในการขับขี่สูงสุดที่ได้จากความเป็นเก๋งและตัวรถที่มีขนาดใหญ่ ช่วยให้ขับขี่ได้มั่นใจ รวมถึงยังตอบสนองความสบายในการโดยสารสูงสุดได้ด้วย
อีกประการสำคัญ นิสสันกล่าวว่า ลูกค้าไม่ได้มองหาเพียงการขับขี่ที่ดีกว่า แต่ยังมองหาความมั่นใจในการขับขี่ โดยเฉพาะความปลอดภัยในการใช้งาน ซางรถยนต์ซีดานกลางมีระบบความปลอดภัยครบครันกว่าในแง่มุมม นี้ มีระบบช่วยในการขับขี่ เช่น Nissan Teana เอง มีระบบเตือนการหลุดเลน , ระบบเตือนมุมอับสายตา และรบบตรวจสอบวัตถุเคลื่อนที่ได้รอบคัน
นอกจากนี้ในมุมมองนิสสัน ต่อการฟื้นตลาดรถยนต์ซีดานกลาง ส่วนหนึ่งเชื่อว่าเมื่อมีการแข่งขันในตลาด ทั้งจากคู่แข่ง หรือตัวแบรนด์เองก็ดีจะก่อนให้เกิดการสื่อสารไปยังตลาด สะท้อนภาพรถยนต์ซีดานกลางออกมาได้ชัดเจน และทำให้ลูกค้าเห็นภาพในการใช้งานที่แตกต่างจากรถยนต์อเนกประสงค์ ที่แม้ว่าจะได้รับความนิยม แต่ก็มีคุณสมบัติในการใช้งานต่างกันออกไป
อย่างไรก็ดี แบรนด์สุดท้ายที่ยังไม่เปิดตัวออกมาทำตลาดซีดานกลางในวันนี้เหลือเพียง Honda ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดตัวในปีหน้า นอกจากนี้เดิมทียังมีผู้เล่นรายสำคัญจากเกาหลี อย่าง Hyundai ที่เคยนำเอา Hyundai Sonata มาเฉือดเชือนเจ้าตลาดญี่ปุ่น ซึ่งก็ต้องมาดูว่า ค่ายเกาหลีจะนำรถกลับมาขายหรือไม่
ตลาดรถยนต์ซีดานกลางจะกลับมาได้จริงหรือไม่ เป็นเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากในภาพหนึ่งหลายคนอาจคิดว่า ตลาดนี้ได้ตายไปแล้ว แต่ด้วยการกลับมาพลิกฟื้นจากคู่แข่งรายสำคัญ ที่มีเพียง 3 เจ้า ได้แก่ Toyota , Honda และ Nissan อาจจะทำให้เราเห็นตลาดนี้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งก็เป็นไปได้