ตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา Mitsubishi Motor เป็นบริษัทรถยนต์ที่ตกระกำลำบากมาโดยตลอด หลังพวกเขาเหลืองบประมาณน้อยในการทำธุรกิจ นี่ยังไม่นับปัญหาเรื่องการโกงไอเสียงที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น จนท้ายที่สุดค่ายทรีไดมอนด์ต้องเข้าไปเปHนสังกัดของ Nissan มาจนทุกวันนี้
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ทำให้ Mitsubishi ได้หัวเรือใหญ่ นาย คาร์ลอส โกหน์ ผู้เคยสร้างชื่อเสียงให้กับนิสสัน มาคุมบังเหียน แล้วก้มีความเปลี่ยนแปลงมาอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มเปิดตัวรถรุ่นใหม่และทิศทางใหม่ของบริษัทที่หวังว่าจะเป็นเสืออเนกประสงค์จากประเทศญี่ปุ่น ทว่าหลายคนก็ยังไม่เห็นความคิดดังกล่าวชัดเจน
วานนี้ (18 ต.ค. 2560) มิตซูบิชิ มอเตอร์ เพิ่งประกาศแผนธุรกิจใหม่ระยะกลาง 3 ปี ของ บริษัท ที่เรียกว่า “Drive For Growth” แผนงานดังกล่าวเป็นเหมือนแผนที่แห่งชะตาของมิตซูบิชิ ในการเติบโตด้วยยอกขายกว่าร้อยละ 30 และหวังว่าจะขายรถได้กว่าปีละ 1.3 ล้านคันทั่วโลก
ภายในแผนดังกล่าวทางมิตซูบิชิ หวังว่าจะเติบโตร้อยละ 6 ในปีงบประมาณ 2019 นับเป็นการเติบโตก้างกระโดดครั้งใหญ่จากปัจจุบัน ที่มีการเติบโตเพียงร้อยละ 0.3 ภายในปีงบประมาณ 2016
แนวคิดสำคัญของมิตซูบิชิเรียบง่ายแต่ได้ใจความด้วยการทุ่มเงินลงทุนหาเทคโนโลยีเจ๋งๆ ยุคใหม่มาตอบโจทย์ ด้วยเงินลงทุนสุงถึง 133 พันล้านเยน หรือมากกว่าปัจจุบันถึงกว่าร้อยละ 50 ด้วยการคาดหวังเป็นพื้นฐานในการขับเคลื่อนบริษัทในช่วงถัดไป
แนวคิดสำคัญก็เหมือนกับที่มีการกล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ในการทำรถอเนกประสงค์ขายในตลาดเป็นหลักสำคัญ พร้อมกับรถกระะบที่เลื่องชื่อของบริษัท ตลอดจนจะเปิดอีก 11 โมเดลใหม่ ซึ่งนับรวม Mitsubishi XPander และ Mitsubishi Eclipse Cross หรือประมาณว่าเหลืออีก 9 รุ่นใหม่ที่จะเปิดตัววางจำหน่าย ทั่วโลก หรือเฉลี่ยปีละ 3 รุ่น เลยทีเดียว
ในจำนวน 9 รุ่นที่กล่าวมา แบ่งเป็นรถรุ่นใหม่ หรือโฉมใหม่ทั้งหมด 4 รุ่น และ อีกกลุ่มถูกเรียกว่า นวัตกรรมใหม่ในรถรุ่นเดิม อีก 5 รุ่น
ตลาดสำคัญที่ทาง Mitsubishi มุ่งหวังจะเข้ามาทำตลาดเป็นอันดับต้น ก็ไม่พ้นประเทศในแถบอาเซียน โดยอาศัยชื่อเสียงที่สั่งสยมเป็นทุนเดิม รวมถึงทางแถบโอเชียเนีย ตามมาด้วย อเมริกา, จีน และญี่ปุ่น
โดยนอกจากรถกระบะและอเนกประสงคืที่ผมกล่าวไปเบื้องต้นแล้ว ทางมิตซูบิชิ ยังเล็งทำตลาดประเภทไฮบริดเสียบปลั้กเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่สำคัญของบริษัท เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นตั้งใจรักษาสิ่งแวดล้อม โดยปลายทางของแผน Drive for Growth ที่แท้จริง มีหลักสำคัญที่การเปล่ยนถ่ายสุ่รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าล้วน ซึ่งเราน่าจะได้เห็นในปี 2020 เริ่มจากรถยนต์นั่งขนาดเล็ประเภท Kei Car ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในญี่ปุ่น
ทางมิตซูบิชิตค่อนข้างมั่นใจว่า แนวคิดของพวกเขาถูกต้องในการขับเคลื่อนบริษัท มันน่าจะตรงใจความต้องการของลูกค้าที่มองหารถยนต์รุ่นใหม่ในแบบที่พวกเขาเป็น และถูกใจตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
สำหรับประเทศไทย เชื่อว่าน่าจะมีความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิอย่างต่อเนื่องในเร็วๆนี้ โดยคาดว่าน่าจะเริ่มจากการนำเสนอรถยนต์ Mitsubishi Xpander ในปีนี้หรือต้นปี 2017
ข้อมูลจาก Mitsubishi Motor Global site