Home » ยอดจอง มอเตอร์โชว์ 2025 ใครเจ๋ง ใครมาแรง สะท้อน ตลาดไทยปีนี้ ยอดขายรุ่งหรือไม่
Blog Buster บทความ

ยอดจอง มอเตอร์โชว์ 2025 ใครเจ๋ง ใครมาแรง สะท้อน ตลาดไทยปีนี้ ยอดขายรุ่งหรือไม่

จบลงไปแล้วสำหรับ งานมอเตอร์โชว์ 2025 โดยคราวนี้นับเป็นอีกปีที่ ค่ายรถยนต์เดินหน้าขับเคี่ยวกันอย่างเต็มที่ในการนำเสอนรถยนต์กวาดยอดเข้าแบรนด์ โดยเฉพาะเมื่อปีที่แล้วยอดขายรถต่างซบเซา จนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งที่ ค่ายรถยนต์มีจำนวนมากขึ้น จนต้องจัดงานแถลงข่าว 2 วัน

ปีนี้ใครวิน ระหว่าง BYD / Toyota ?

ประเด็นแรก,​ที่หลายคนน่าจะให้ความสนใจไม่น้อย คือ ใครคือผู้ชนะในงานมหหรรมครั้งนี้ ในแง่การทำยอดจองสูงสุด

โดยในวันที่ปิดงาน ทาง BYD ประกาศยอดจองภายในงาน สูงถึง 10,353 คัน ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับ ทางโตโยต้า ที่มีการแจ้งยอดจองภายในงาน โดยไม่ได้มีรถยนต์รุ่นใหม่เข้ามาเปิดตัวที่ 9,819 คัน ในศึกนี้ก็น่าจะต้องกล่าวว่า โตดยต้าน่าจะปราชัยต่อค่ายจีน

แต่ในขณะที่แม้แต่สื่อใหญ่ ยังเอาตัวเลขที่ BYD เปิดเผยหลังจบงานมาเปิดเผย แล้วอวยยศให้อย่างสวยงาม ผลปรากฏว่าภายหลังทางผู้จัดงานได้ชี้แจงเพิ่มว่าในยอด ที่ทางบริษัทผู้ผลิตกล่าวนั้น เป็นยอดขายที่รวมในส่วนของแบรนด์ Denza 534 คัน

ตัวแบรนด์ BYD เพียวๆเอง มียอดจองเพียง 9,819 คัน เท่านั้น ทำให้ในตัวเลขดังกล่าวพวกเขาไม่ได้เหนือกว่าทางโตโยต้าแต่อย่างใด เพราะมันคือเลขยอดจองที่เท่ากันเป้ะ

ในส่วนของ BYD เมื่อจำแนกย่อย ตามรุ่นพบว่า รถที่นิยมสูงสุด 3 อันดับแรกจากลูกค้า คือ

BYD dolphin 4,014 คัน
BYD Sealion 7 2,038 คัน
BYD Atto 3 2,019 คัน

และในจำนวนี้ยังมียอดจองของ BYD Shark 6 จำนวน 153 คันด้วย

ทางด้าน โตโยต้าเผยว่า ยอดจองของบริษัทนั้นคิดเป็นสัดส่วนรถ HEV จำนวน 39% โดยขายดีที่สุด คือ Toyota Yaris Cross+ Toyota Corolla Cross ตามลำดับในขณะที่ทางบริษัทได้มอบสิทธิพิเศษมอเตอร์โชว์ กับลูกค้าทั่วประเทศ ทำให้มียอดจองรวมทั่วประเทศสูงถึง 21,068 คัน

แบรนด์ไหน ปังในงานนี้

ทางด้านแบรนด์ที่ยอดปังขั้นมาในงานมอเตอร์โชว์นี้ มีอยู่หลายแบรนด์ด้วยกัน และ ที่น่าสนใจประกอบด้วย

GAC Aion ภายในงานนี้ มียอดจองรวม Hyptec อยู่ที่ 7,018 คัน โดยยอดจองนี้ ส่วนใหญ่มาจากความสนใจในรถยนต์ไฟฟ้าน้องเล็กรุ่นใหม่ ในนาม Aion UT มาเผยโฉมภายในงาน พร้อมรายละเอียดโปรโมชั่นพิเศษในช่วงมอเตอร์โชว์ ด้วยราคาขายไม่ถึง 5 แสนบาท

ChangAn เอง ก็มาพร้อมยอดรวมทั้ง Deepal + Avatr + ChangAn อยู่ที่ 6,589 คัน แต่เมื่อลบเอายอด Avatr ออกไป 522 คัน ทาง Deepal + ChangAn ก็มียอดอยู่ 6,067 คัน

ทางด้าน MG ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน ภายในงานมีรถมาเปิดตัวใหม่ 2 รุ่น คือ MG IM6 และ MG S5 EV โดยในงานมียอดจอง 5,910 คัน ในส่วนยอดจอง 3 อันดับสูงสุด ได้แก่ MG4 ยอดจอง 1,877 คัน รองลงมา MG IM 6 มียอดจอง 1,360 คัน ยิ่งกว่านั้น ยอดสัดส่วนของ Performance มียอดในสัดส่วนที่พอๆกับตัวขับสอง ท้ายสุด MG S5 EV มียอดจองรวม 1,300 คัน

พูดถึงตลาด SUV ที่มาแรงตกเป็นของ GWM ที่มาพร้อมกับ Tank 300 Diesel ในงานกวาดยอดจองๆได้ 4,959 คัน และในจำนวนนี้เกินครึ่งเป็นยอดของ GWM Tank 300 ดีเซล ถึง 2,786 คัน ถือเป็นยอดจองที่ล้นหลาม และสร้างความสำเร็จไม่น้อย

ทางด้านฝั่งค่ายญี่ปุ่น คงเป็นนิสสัน ที่มียอดขายหน้าชื่นตาบานถึง 3,139 คัน โดยแน่นอนว่าในจำนวนนี้น่าจะเป็น Nissan Serena จำนวนเยอะอยู่พอสมควร แม้จะตามหลังมิตซูบิชิสักหน่อย แต่ก็ไม่แปลกใจ เพราะ Serena ราคาเปิดตัว C28 อยู่ที่ 1,690,000 บาท ซึ่งถือว่าดูค้าค่ามากเมื่อเทียบกับการที่มันเป็นรถยนต์นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นทั้งคัน

ในฝั่งไม่มีอะไรมาก แต่ยอดจองดี ค่ายแรก ก็ต้อง Honda มียอดจองในงาน 5,948 คัน รั้งอันดับ 5

ค่ายที่ต้องยกให้เทพของความการตลาด ก็คืออีซูซุ หลังจากเปิดตัวเครื่องใหม่ไปปีที่แล้ว และผ่านมากว่า 5-6 เดือน กระแสยังดี ด้วยยอดจองสูงถึง 2,989 คัน และในงานปีนี้ไม่มีรถรุ่นใหม่เปิดตัว

ทางด้านมาสด้า เองก็น่าสนใจ แม้ว่าจะเปิดตัว Mazda 2 essential แตกหน่ออกมา บวกกับ ดันกระแส BT 50 สักหน่อย แต่ยอดจองก็พอไปได้ แม้ไมมีรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถไฮบริด ด้วยยอดขาย 2,353 คัน

ยอดจอง ไม่ใช่ยอดขาย แต่สะท้อนคนไทย แห่ซื้อรถปีนี้

ในเกือบทุกปี สิ่งที่ผมจะต้องมาพูดเสมอ คือเราต้องย้ำว่า ยอดจองภายในงานแสดงรถยนต์ต่างๆ นั้น เป็นเพียงจุดเริ่มต้นนำไปสู่ยอดขายยังไม่ใช่ยอดขายจริง ที่เกิดขึ้น

แต่ในปีนี้ ที่น่าสนใจคือ เมื่อเทียบกับยอดจองในปี พ.ศ 2567 ที่ 53,438 คัน แล้วจบด้วยยอดขายราวๆ 5.7 แสนคัน และตลอด 3 เดือนแรง ของปี พ.ศ. 2568 ยอดขายปรับลดลงไปแล้วราวๆ 10% จากปีที่แล้ว

หากบรรยากาศ เมื่อมองตัวเลขมอเตอร์โชว์ออกมา เทียบกับปีก่อน กับเพิ่มถึง 79,941 คัน หรือราวๆ 33 % จากปีที่แล้ว นี้กำลังสะท้อนอะไรอยู่

ถ้าวิเคราะห์จากรถใหม่ที่เปิดตัวตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาจนถึงปีนี้ มันไม่ได้ชี้ว่าคนไทยจะซื้อรถมากขึ้น แต่น่าจะกำลังชี้ว่าต้นปีที่ผ่านมา มีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ พอจะทำให้พวกเขาตัดสินใจอยากจะซื้อมาก และพร้อมอยากจะลองเสี่ยงกับกระบวนการไฟแนนซ์ที่เข้มงวดมากขึ้น

จะเป็นยอดจองลม หรือไม่ คนในค่ายรถยนต์ทุกรายต่างทราบดี โดยเฉพาะทางค่ายจากเมืองจีน แต่บางค่ายมันคือของยอดจริง เกิดจากความน่าสนใจในผลิตภัณฑ์ อาทิ

GWM Tank 300 ดีเซล ซึ่งราคาของมันถูกกว่า PPV ตัวเริ่มต้นของบางค่ายเสียอีก
MG S5 EV ซื้อราคาเดียวกันนี้เมื่อก่อน คุณยังได้แค่ MG 4 ตัวเริ่มต้นเท่านั้น
Aion UT รถยนต์ไฟฟ้าเล็กราคาไม่ถึง 5 แสนบาท

ในส่วนค่ายใหญ่ BYD ก็ต้องยอมรับว่า โปรโมชั่นที่ให้มาในงานมอเตอร์โชว์นั้นหาได้ทุกค่ายจริง

ที่พูดออกมา ไม่ใช่ผมบอกว่า ยอดจองจะเป็นยอดจริง แต่มันกำลังแสดงถึง ปัจจัยบางอย่างทำให้ คนซื้อมีอารมณ์อยากจะจับจ่ายซื้อรถใหม่มากขึ้น

ไม่เว้นกระทั่งบรรดาค่ายญี่ปุ่น ที่มีการขยับ อย่าง นิสสัน มี Nissan Serena ที่ออกมาราคาดีประกอบญี่ปุ่น และมีฟังชั่นใช้งานตามความต้องการของคนไทย

หรือ มิตซูบิชิมี Mitsubishi Xforce ออกมา นับเป็นครั้งแรกที่มี Crossover ขนาดเล็กมาให้จับจอง

อย่างไรก็ดี ,​เราต้องยอมรับว่า การจองซื้อนั้นเป็นบันไดขั้นแรกของการซื้อรถ แต่การที่คุณจะเดินเข้าไปซื้อรถรุ่นใด นั่นหมายถึงต้องมีความชอบความต้องการ ไม่มากก็น้อย

แต่สุดท้ายปลายทาง จากยอดจองจะเป็นยอดขายจากงานมหกรรมนี้มากเท่าไร ก็นับว่าเป็นเรื่องต้องติดตามกันต่อไป

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.