ในหลายปีที่ผ่านมา นิสสัน พยายามอย่างยิ่งในการรุกไล่ ตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ ในประเทศไทย ด้วยความนิยมรถกลุ่มนี้ ในช่วงตลอดหลายปีทีผ่านมา ทำให้ นิสสัน เข้ามาเป็นหนึ่งในผู้เล่นในตลาด ด้วยความหวังว่าจะครองใจผู้บริโภค
Nissan X-Trail , Nissan Terra และ Nissan kicks มีความคล้ายกัน อยู่หนึ่งเรื่อง คือ พวกมันเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ แต่หลังจากไล่ความสำเร็จมานาน ในที่สุด นิสสัน ก็มาปังเอา ในการวางจำหน่าย Nissan kicks e- Power ที่มียอดจองอย่างล้นหลาม และได้รับความสนใจจากลูกค้า จนส่งมอบรถกันต่อเนื่องและยืนหนึ่งในใจลูกค้าที่มองหารถกลุ่มนี้
Nissan X-Trail ปฐมบท แห่ง ครอสโอเวอร์
ย้อนกลับไปในปี 2014 หรือ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว นิสสัน เข้าทำตลาด รถอเนกประสงค์ ด้วย Nissan juke มาก่อน ซึ่งประสบความสำเร็จอยู่พอสมควร ในช่วงเวลาเฟื่องฟูของมัน
ในเวลานั้น ตลาด Compact Crossover เจ้าตลาด Honda CR-V และ Chevrolet Captiva ที่ก็อยู่ในวาระ ใกล้ปลายโฉมเช่นกัน มีเพียงมาสด้า เปิดตัว Mazda CX-5 มาใหม่ ชูจุดเด่นทางด้านงานออกแบบที่เหนือกว่า
นิสสัน สบช่อง ในการทำตลาดครอสโอเวอร์เปิดตัว Nissan X-Trail ออกมาจำหน่าย ในปี 2014 ชูจุดขายด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 และ 2.5 ลิตร โดยเฉพาะ 2.5 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่มีขนาดใหญ่ ที่สุดในตลาด ครอสโอเวอร์ ทรงพลัง สมรรถนะดี
จุดเด่นอีกอย่าง คืด การเป็นอเนกประสงค์ที่มีที่นั่งแบบ 5+2 หรือ สามารถจุได้ 7 คน เป็นตัวเลือกสำหรับลูกค้า ที่ต้องการ รถที่มีความพร้อมในการเดินทาง ไปได้หลายคนในคันเดียว ในราคาที่ถูกกว่า PPV
และยังเป็นรถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์ รุ่นเดียวในช่วงนั้น ที่มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ และสามารถปรับเลือกขับเคลื่อนสองล้อก็ได้ รวมถึง ปรับกำลังขับเพื่อพร้อมงานลุยเบาๆ ที่ไม่สมบุกสมบัน มากมายนัก
สาเหตุที่นิสสัน เลือกรถรุ่นนี้เข้ามาทำตลาดอีกอย่าง ก็มาจากผลงานยอดขายรถรุ่นนี้ที่ทำได้ดีในหลายตลาดสำคัญ โดยเฉพาะ มันได้รับความนิยมในอเมริกา
ในปีต่อมา นิสสัน เปิดตัว รุ่นไฮบริดเข้าทำตลาดในประเทศไทย เป็นครั้งแรกที่ รถอเนกประสงค์ไฮบริด ออกมาตอบโจทย์ แม้ว่า ศักยภาพระบบในเวลานั้นจะยังไม่ทันสมัย เท่าระบบ E-Power ในปัจจุบัน แต่มันก็ได้รับความสนใจไม่น้อย จากลูกค้าที่มองหาความประหยัดในรถยนต์อเนกประสงค์
เป็นครั้งแรกที่มีรถยนต์ไฮบริดเข้าทำตลาด หากท่าดีกลายเป็นข่าวร้ายกับ นิสสัน เมื่อผู้ใช้เริ่มพบปัญหาชุดเกียร์ มีอาการ “ลูกช้างร้อง” ซึ่งเกียร์จะทำงานผิดปกติ ไม่เข้าตำแหน่งบ้าง ฝืดบ้าง แล้วแต่คนจะพบ ทำให้ยอดขายไม่เดินได้ตามที่คาดหวังเท่าไร
ประกอบกับ ด้วยช่วงเวลาเดียวกัน คู่แข่ง อย่างมาสด้า เดินเกมได้ดี และ CR-V ก็ยังขายได้ต่อเนื่อง จนเปิดตัวรุ่นใหม่ออกมา จน นิสสัน ถอดใจ กับ ครอสโอเวอร์ ยุติการขาย Nissan X-Trail ในราวๆ ปี 2019 ก็อำลาบ้านเราไป
Nissan Terra ผู้มากู้หน้า ..
หมากเกม อเนกประสงค์ นิสสันเดินต่อมา โดยตัดสินใจ จะละทิ้งรถอเนกประสงค์ ครอสโอเวอร์ เมื่อ ทาง นิสสัน เปิดตัว รถยนต์ Nissan Terra ออกมา โดย นาย อัชวานี กรุ๊ปตา ในฐานะรองประธานฝ่านรถยนต์เพื่อการพาณิชย์เบา หวังว่า นิสสัน จะทำตลาดสร้างรายได้จากรถกลุ่มนี้ได้
เนื่องจาก เป็นตลาดใหญ่ ขายได้ทั่วโลก และ นิสสัน มีจุดแข็งสำคัญ ในตลาดกระบะที่ยังอยู่ในอันดับที่ดี ไม่ตกท้ายตารางแบบ แถม ด้วยการใช้แชสซีเดียวกัน กับนาวาร่า รวมถึงเครื่องยนต์เดียวกัน จึงพูดง่ายๆว่าลดต้นทุนในการสร้างรถไปได้มาก แค่ปรับแชสซี ทำกระดองใหม่ ออกแบบให้มันดีงาม ก็น่าจะพอสร้างยอดขายได้
แต่ทางค่าย ดูจะลืมไปเล็กน้อย ว่า ตลาดกลุ่มนี้ แข่งกันดุเดือด ไม่ว่าจะ โตโยต้า ที่ทำตลาดมานาน, อีซูซุ ที่ตามจี้ก้น โตโยต้า หรือ กระทั่ง มิตซูบิชิ ที่ให้ออพชั่นจัดหนักมาเต็ม ไหนจะมีฟอร์ด ที่โผล่ขึ้นมาในใจลูกค้าคนเมือง อีก
ตอนนิสสัน นาวาร่า เปิดตัว ทาง นิสสัน ตัดสินใจ ดูท่าทีว่า คนจะชอบรถอะไรมากกว่ากัน ระหว่าง PPV หรือ ครอสโอเวอร์ อย่างเอ็กซ์เทรล จึงขายคู่กัน อยู่ช่วงเวลาหนึ่ง
จนกระทั่ง วันหนึ่ง นิสสัน ตัดสินใจ โยนหินถามทางนักข่าวว่า ถ้าต้องตัดรถรุ่นใดออกไปใน 2 รุ่นนี้ ควรจะตัดอะไร เพื่อลดความสับสนลูกค้า
สื่อจำนวนมาก พูดในทางเดียวกันว่า ให้ตัดเอ็กซ์เทรล ทั้งที่บางคนแทบจะไม่เคยแตะรถรุ่นดังกล่าวมาก่อน ด้วยซ้ำไป
ด้วยข้อเท็จจริงว่า PPV เป็นตลาดใหญ่ Terra มีตัวรถที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องทรงพลังมากกว่า และน่าจะถุกใจคนไทยมากกว่า รวมถึง สมรรถนะของมัน ตลอดจนออพชั่น จัดว่าดีในระดับที่น่าพอใจ
แต่ที่หลายคนไม่ได้มอง คือ ในเวลาปี 2018 โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ หรือ คุกกี้รุ่นใหม่ ใกล้จะถึงเวลาปรับโฉมแรก, ส่วน อีซูซุ ก็อยู่ในช่วงสุดท้ายปลายโฉม แถม เจ้า ปาเจโร่สปอร์ต ก็เพิ่งโผล่รุ่นใหม่มา 2 ปี และ มีแนวโน้มปรับใหญ่ในปีถัดไป เรียกว่า นิสสัน จะต้องเจอศึกรอบด้านในอนาคต อย่างไม่ต้องสงสัย
ผิด กับ ครอสโอเสอร์ ที่ดูบางเบากว่า CR-V ปรับ โฉม ตอนปี 2019 เช่นเดียวกับ มาสด้า ส่วน เชฟโรเล็ต เป็นสิ่งที่หลายคนไม่คิดว่า จะตัดสินใจ ออกจากประเทศไทยไปในที่สุด ทำให้ ครอสโอเวอร์ เหลือเพียง 2 ตัวเท่านั้น
Nissan Terra ทรงดี ในช่วงแรก เนื่องจากยังสดใหม่ มีอะไรที่ลูกค้ามองหา ทว่าในทางกลับกัน ด้วยงานออกแบบทรงที่ถอดแบบมาจากรถกระบะ มีความเหมือน Nissan Patrol ค่อนข้างมาก ทำให้สไตล์งานออกแบบค่อนข้างสูงวัย ไม่ดูวัยรุ่นเหมือนคู่แข่งเจ้าตลาด
ยิ่งการมาของ Isuzu Mu X ในปี 2020 ยิ่งทำให้ นิสสันตกที่นั่งลำบาก ด้วยงานออกแบบ อีซูซุ ตัวใหม่ ค่อนข้างทันสมัย มีความหรูหรา
หากสิ่งที่ดีของ Nissan Terra อยู่ที่สมรรถนะในการขับขี่ที่มีความนุ่มสบาย พร้อมเครื่องยนต์ทรงพลัง เป็นขุมพลังเทอร์โบคู่ และชุดเกียร์ที่ยังมากกว่ารถในกลุ่มเดียวกันบางรุ่น แต่คนจะรู้เรื่องแบบนี้ต้องสนใจจริงๆ ทำให้ยอดขายเดินลำบาก
จนการเปลี่ยนแปลงในปี 2021 มีการปรับงานออกแบบใหม่ ให้ทันสมัยลงตัวกว่าเดิม ทำให้ นิสสัน ดุจะพอเดินสะดวกขึ้น ตัวรถยังอัดฟีเจอร์ใหม่ๆ เพียบ เพื่อทัดเทียมคู่แข่ง แต่ คู่แข่งก้มีการปรับตัวรถอย่างต่อเนื่อง ด้วย เทอร์ร่า จึงทำได้พอขายได้ไปเรื่อยๆ
หากก็ไม่ได้อยู่ในอันดับต้นๆ หรือ สู้กับรถอย่าง Pajero Sport ได้ จนมีข่าวลือว่า นิสสัน อาจะไม่เดิน Nissan Terra ในอนาคต หากสิ้นอายุไข รถรุ่นปัจจุบัน
Nissan kick ผู้กอบกู้ตัวจริง
นิสสัน ต้องการแก้เกม ตลาดครอสโอเวอร์ ให้ได้ผล พวกเขา เริ่มมองไปยังอดีต ทำไม รถยนต์อย่าง Nissan juke ขายดี และ นั่นเป็นที่มาของการนำเสนอ รถอเนกประสงค์ รุ่นที่ 3 ด้วย Nissan kick ซึ่ง ที่จริงรถรุ่นนี้ทำตลาดในอินเดียและหลายประเทศ มาช่วงใหญ่แล้ว และได้รับความนิยม จึงเป็นไปได้ที่มันจะขายดีเช่นกัน
Nissan kick เปิดตัว ในช่วงโควิด ปี 2020 นำเสนอ ความน่าสนใจ ด้วยระบบ e-Power , ระบบขับเคลื่อนไฮบริดใหม่บล่าสุดของนิสสัน ที่ใช้เครื่องยนต์ปั่นไฟฟ้า และ มอเตอร์เป็นผู้ขับเคลื่อนตัวรถ
การมาของ Nissan kick ช่วงแรก ดูจะทำได้เพียงพอขายได้ ด้วย ติดประเด็น 2 เรื่อง คือ
หนึ่ง ,เปิดตัว เดือนพฤษภาคม แต่รถยังไม่พร้อมส่งมอบเลย ต้องรอจนช่วงสิงหาคม จึงเริ่มส่งมอบ ช่วงนั้น โตโยต้าเอง ก็เดินหน้า ดันน้องใหม่ Toyota Corolla Cross ออกมา และ ตามสไตล์ มีรถพร้อมส่งมอบทันที ทำให้ หลายคนเปลี่ยนไปหาคู่แข่ง
ข้อต่อมา,ปัจจัย ทางด้านราคา ค่อนข้างสูงพอตัว ในรุ่นท๊อป Nissan kick e- Power ตัวแรก ทำราคาทะลุล้านกว่าบาท เรียกว่าค่อนข้างสูงเอาเรื่อง จนคนซื้อต้องรักกันจริง ในระดับหนึ่ง
แต่จุดที่นิสสัน ทำได้ดี คืองานออกแบบ ที่ตรงใจกลุ่มลูกค้าอย่างมาก และ ขนาดตัวรถที่เหมาะแก่การใช้งานในเมือง สมรรถนะการขับขี่ก็จัดว่าดีในระดับที่น่าพอใจ เหมือนกัน
ขายมาได้ 2 ปี นิสสัน ก็เร่งเครื่องปรับ ตัวรถอีกครั้ง ด้วยการอัพเดท ระบบ e-Power ให้ทำงานประหยัดมากขึ้น ปรับอุปกรณ์ รวมถึง แนะนำชุดแต่ง Autech ใส่ความเป็นญี่ปุ่นเข้ามา ประกอบกับ Toyota C-HR อยู่ในช่วงปลายโฉม ด้วย และมีแววไม่ทำตลาดต่อ
ทำให้ รถ B -SUV Hybrid จาก ญี่ปุ่น จะเหลือแค่ นิสสัน เท่านั้น ข่าวดี คือ นิสสัน คิดถูกในเรื่องนี้ แต่ก็ต้องมาเจอศึกใหญ่ อย่าง การมาของ Honda HR-V คู่รักคู่แค้น มาตั้งแต่เปิดตัว อีโค่คาร์
ถึงจะแบบนั้น นิสสัน ก้เตรียมพร้อมมาดี ทั้ง ความพร้อมการส่งมอบรถและ การทำตลาด รวมถึงราคายังปรับลดลง อยู่ในระดับสมเหตุสมผล จนทุกคนปรบมือตอนเปิดตัว และยังเป็นครั้งแรกๆ ที่ดึงเอา พรีเซนเตอร์ ใบเฟิร์ม พิมพ์ ชนกมาเพิ่มความน่าสนใจกับรถ จนยอดขาย จัดว่าปัง ในระดับที่เกินเบอร์
จนอาจกล่าวได้ว่า ในที่สุด นิสสัน ก็ตีโจทย์ออกว่า คนไทย มองรถอเนกประสงค์จากนิสสันแบบไหน และอะไร เป็นแรงผลักดันให้รถประสบความสำเร็จ
จาก Nissan Xtrail มาจน Nissan Terra ยัง Nissan kick e-power นิสสัน ได้เรียนรู้สิ่งสำคัญ ในการนำเสอน ผลิตภัณฑ์ หลายอย่าง แม้ว่าบทเรียนสำหรับแบรนด์ จะมีเยอะมาก หากท้ายทีุ่สด คนไทย ก็พร้อมจะซื้อรถ จากนิสสัน ถ้าเขาเห็นว่ามันใช่ และตรงโจทย์ใช้งาน ที่มาพร้อม ความคุ้มค่า