Suzuki เปิดตัว รถยนต์อเนกประสงค์ อย่าง Suzuki XL 7 มาหลายปีแล้ว นับตั้งแต่ราคาเริ่มต้นที่ 779,000 บาท มาวันนี้ ราคาเริ่มที่ 814,000 บาท แม้ว่าราคาอาจจะเพิ่มขึ้น แต่สิ่งที่อยู่ในรถคันนี้ ยังคงนำเสนอ ที่สุด ความคุ้มค่าคุ้มราคา น่าใช้งานไม่เปลี่ยนแปลง จนหลายคนมักจะมาถามหลังไมค์ว่า คุ้มหรือ ไม่ แล้วมันมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง
ข้อดี
ประหยัด
อย่างแรกเลย ที่เราคิดส่า Suzuki XL 7 นั้น มีดี เหนือคนอื่น คือเรื่องความประหยัดนั่นเอง ความประหยัด นั้น ไม่ใช่เพียงแต่รถจะราคาถูกกว่า แต่ยังรวมถึงเรื่องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และการบำรุงรักษาด้วย
หลายท่านอาจจะงงว่า มันจะประหยัดยังไง ในเมื่อ ก็พูดกันตามจริงว่า รถคันนี้ คือเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 แในร่างรถอเนกประสงค์เหมือนๆ กับชาวบ้าน
สาเหตุที่ Suzuki XL7 ประหยัด กว่าได้นั้น มาจากการนำเสนอ โครงสร้างใหม่ Suzuki Heartect เข้ามาประจำการ ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา โครงสร้างนี้เน้นความแข็งแรง ลดความซับซ้อนในการออกแบบ ทำให้ได้ประโยชน์ เรื่องน้ำหนักโครงสร้างเบากว่าเดิม ถึง 80-100 กก. แล้วแต่รูปแบบรถที่วางจำหน่าย
ในแง่การขับขี่มันส่งผลให้ Suzuki จะเร่งดี , เบรกดี และ ยังตอบสนองในเรื่องการประหยัดน้ำมันดีกว่ารถรุ่นอื่นๆ ที่ทำตลาดด้วย จากที่เรา มีโอกาส ขับรถรุ่นนี้ออกเดินทางหลายรอบ ตั้งแต่เปิดตัวมา ต้องยอมรับว่า มันสามารถ ทำอัตราประหยัดได้ 16 ก.ม./ลิตร สบายๆ ถ้านั่ง 1-2 คน และ สูงสุด ไม่เกิน 4 คน
ความประหยัดน้ำมัน ไม่ใช่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ชุดเกียร์ออโต้ 4 สปีด อาจจะฟังแล้วยี้!!! แต่ ความจริง บำรุงรักษาง่ายมาก ค่าน้ำมันเกียร์ก็ถูกกว่าชาวบ้านเขา สมมุติใช้งานตามต่างจังหวัด ก็ไม่ต้องกังวลใจ ช่สงที่ไหนก็สามารถซ่อมได้ หากเกียร์มีปัญหา
แถมราคารถที่เริ่ม 814,000 บาท ในปัจจุบัน ยังถูกกว่าคู่แข่งหลายแบรนด์ เมื่อเทียบรถในกลุ่มเดียวกัน
ดังนั้น รถรุ่นนี้ จึงคุ้มค่าประหยัด ค่าใช้จ่ายที่สุด รุ่นหนึ่ง
ช่วงล่างมั่นใจ
ด้วยอานิสงค์โครงสร้างใหม่ ทำให้ รถรุ่นนี้ เป็นหนึ่งในรถที่มีระบบกันสะเทือนดี อาจจะไม่ที่สุดในคลาส เราต้องยอมรับว่า เซทติ้ง ระบบกันสะเทือนนั้น ต้องแล้วแต่คนชอบ ด้วย
แต่จากที่ลองขับ ความมั่นใจในการขัขขี่เวลาเดินทาง รถรุ่นนี้ถือว่า ไม่เป็นสองรองใครในตลาดปัจจุบัน ให้ความมั่นใจ มีความนุ่มนวลในระดับหนึ่ง หากยังตืดแข็งอยู่บ้าง ตามสไตล์ รถอเนกประสงค์ขนาดเล็ก จุดดีข้อหนึ่้ง คือช่วงล่างแบบนี้ ใช้ได้ดี ทั้งในยามขับบนทางเรียบ ที่มีหลุมบ่อคอยต้อนรับ อยู่เนืองๆ และ ยังทำได้ดี ในการขับบนทางลูกรังด้วย คุณพอจะรูดผ่านอุปสรรคไปได้ แบบรถออฟโรดตัวจริง
รถใหญ่
เรื่องขนาดตัวรถ เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่สำคัญคำว่ารถใหญ่ เขาเราไม่ได้หมายถึงขนาด มิติตัวถังรถ แต่เราพูดถึงขนาดมิติในห้องโดยสาร เมื่อเข้ามานั่งแล้ว จะค้นพบว่า ตัวรถมีขนาดมิติในการโดยสาร ที่ค่อนข้างใหญ่ แถวที่ 2 และ 3 สามารถนั่งได้สบาย พื้นที่เหนือหัวเหลือเยอะ พื้นที่วางขา ก็ไม่จำกัดจำเขียดมากไป กับการนั่ง 4-5 คน ถ้านั่ง 6 คนเต็ม อาจจะต้องขยับเบาะแถว 2 บ้าง ก้ยังมีพื้นที่พอประมาณไม่น่าเกลียด
ถ้าต้องเปลี่ยนรถนั่ง มาเป็นรถคนของ ก็สามารถทำได้ง่าย ด้วยการพับเบาะ สามารถใส่ของขนาดใหญ่ ที่แม้ แต่รถกระบะ 4 ประตู ก็ยังอายได้อย่างสบาย กับราคาเท่านี้ ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ลุยได้
ความดีความชอบ ของ Suzuki XL7 ยังไม่หมด เท่านี้ รถคันนี้สามารถใช้งานเพื่อการลุยได้จริง โดยมีระยะความสูงจากพื้นถึงท้องรถ สูง 200 มม. ถือว่ามากพอที่จะพาคุณผ่านอุปสรรคง่ายๆ อย่างน้ำท่วมไปได้สบายมาก
และกับทางสมบุสมบัน ช่วงล่าง ที่มีความแข็ง ช่วยให้รถสามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดีในการขับขี่ และยังมี Hill hold ช่วยออกตัวในทางลาดชันด้วย
ข้อเสีย
เกียร์ 4 สปีด
ข้อเสียอย่างแรกเลย ต้องยอมรับว่า รถรุ่นนี้ ปัจจุบัน ยังเป็นเกียร์ออโต้ 4 สปีด ทั้งที่เพื่อนๆ เขาอาจจะเปลี่ยนเป็น CVT กันหมดแล้ว
การให้ระบบเกียร์ออโต้ 4 สปีด นั้น จะว่าไป มันก็ดูเหมือนจะโบราณไปนิด และ ตามสไตล์แม้ว่าจะมีการพัฒนามาดีเช่นไร เกียร์จำนวนน้อยกว่า ก็ทำให้การตบเกียร์ จะต้องเร่งรอบเครื่อง ทั้งยังม่ีจังหวะเปลี่ยนเกียร์อยู่บ้าง ตามสไตล์
นั่งสบายไม่เท่าคู่แข่ง
ถ้าเทียบกับคู่แข่งคันอื่นๆ ต้องยอมรับว่า ช่วงล่างรถคันนี้ นั่งไม่ค่อบสบายเท่าไรนัก เนื่องจากการเซทช่วงล่าง, เบาะแถวที่ 2 ที่ค่อนข้างแบน และ การเก็บเสียง อาจยังไม่ดี ถ้ามีโอกาส เปรียบเทียบกับคู่แข่ง ซึ่งเป็นจุดที่ต้องพิจารณา อยู่บ้าง
สรุป Suzuki XL 7
ในภาพรวม Suzuki XL7 เป็นรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง ขนาดเล็กที่มีความคุ้มค่าน่าใช้เหมือนเดิม แม้ว่าราคาจะเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามองในภาพรวมๆ จะพบว่ าก็ยังถูกกว่าคู่แข่งอยู่ดี มีออพชั่นเพียงพอเท่าที่ต้องการ ในราคามราถูกกว่าพอตัว