ในบรรดารถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น ในวันนี้ “Subaru” เป็นหนึ่งแบรนด์รถยนต์ที่ก้าวขึ้นมาจับใจคนไทย รถยนต์แบรนด์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นรายนี้ เป็นรถที่ใครก็ตามที่ต้องการความแตกต่างและสมรรถนะในการขับขี่จะต้องมองหา และในปีนี้ พวกเขากำลังจะก้าวเข้าสู่วาระ 60 ปี ของการดำเนินงานทั่วโลก
กว่า 60 ปีที่ผ่านมา Subaru ได้ฝากงานสร้างสรคค์ผลงานต่างๆที่น่าสนใจเอาไว้มากมาย ย้อนกลับไปในปี 1958 Subaru ได้ผลิตรถยนต์นั่งขนาดเล็กรุ่นแรกออกมาตอบตลาด รถซิตี้คาร์คันเล็กที่มาพร้อมเครื่องยนต์ 360 ซีซีไม่ได้ใหญ่ไปกว่ามอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันมาพร้อมทรวดรงที่ดูเตะตาแปลกประหลาด ทำให้ Subaru 360 ถูกขนานนามว่า Lady bird
และด้วยความแปลกแตกต่างด้วยทรวดทรงและรูปลักษณ์ Subaru 360 เป็นหนึ่งในรถที่ทำโฉมเดียวขายยาวนานาที่สุดรุ่นหนึ่งของโลก โดยมันวางจำหน่ายมากว่า 12 ปี มียอดขายทั้งสิ้น 392,000 คัน
ในระหว่างที่ Subaru กำลังขายเจ้า Subaru 360 ดีเป็นเทน้ำเทท่า ทางบริษัทเล็งเห็นโอกาสในการทำตลาดรถยนต์บรรทุกขนาดเล็ก นี่เป็นจุดก่อกำเนิดรถบรรทุกเล็กที่ชื่อว่า Subaru Sambar รถบรรทุกรุ่นนี้แรกเริ่มทำออกมาในเวอร์ชั่นเดียว คือทรงรถตู้ โดยในเวอร์ชั่นแรกๆ ทางผู้พัฒนา นาย ชิโรคุ โมโมเสะ จับเอาแพลทฟอร์มของ Subaru 360 มาขยายขนาด ทำให้ รถมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น แต่ยังคงการเป็นรถที่มาพร้อมเครื่องยนต์วางหลังขับเคลื่อนล้อหลัง
คนไทยจำนวนไม่น้อยรู้จักแบรนด์ Subaru เป็นอย่างดีก็จากรถรุ่นนี้นี่เอง เมื่อรุ่นที่ 3 ที่ผลิตตั้งแต่ปี 1973 มีการเปลี่ยนรายละเอียดหน้าตา แต่สำหรับคนไทยเราคุ้นหน้ากันมากในฐานรถสี่ล้อเล็กรับส่งสาธารณะที่ใช้กันหลายพื้นที่ แม้จะจางหายบ้างในปัจจุบัน ซึ่งเรามักเรียกพวกมันว่า “รถกะป้อ” จนบางคนเรียกว่า “รถซูบารุ”
ความนิยมของรถ Subaru Sambar ในไทย ได้สร้างชื่อเสียงที่สำคัญ และกลายเป็นที่จดจำในวงกว้างต่อคนที่แม้นอาจไม่มีรถ หรือไม่เคยใช้รถ ก็ต้องเคยผ่านสมองกับคำว่า รถซูบารุมาบ้าง
จนกระทั่งในปี 1966 Subaru เห็นความนิยมจากรถเก๋ง และมั่นใจว่าบริษัทจะทำให้รถนั่งขายได้ จึงตัดสินใจพัฒนารถยนต์ Subaru 1,000 ออกวางจำหน่ายดูบ้าง
โครงการรถยนต์ Subaru 1000 เป็นการปัดฝั่งโครงการพัฒนารถยนต์ Subaru รุ่นแรก ที่เรียกว่า Subaru 1500 กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยในช่วงปี 1960 ทางซูบารุพัฒนารถยนต์นั่งขนาดเล็กที่มาพร้อมเครื่องยนต์บ็อกเซอี์ และช่วงล่างอิสระทางด้านหน้าออกมา แต่ไม่ได้มีการผลิตจริง เนื่องจากบริษัทมีทุนจำกัด ทำให้โครงการถูกพับเอาไว้
ในที่สุดหลังจากหลายปีของการเฝ้ารอคอย Subaru 1,000 ออกมาสู่ตลาด โดยมันแนะนำอย่างเป็นทางการสุ่สาธารณะชนในปี 1965 ในงาน Tokyo Motor Show ก่อนที่จะเริ่มวางขายในญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม ปี 1966
Subaru ประสบความสำเร็จอย่างมากับ Subaru 1000 จนค่ายดาวลูกไก่ต้องเพิ่มรูปแบบตัวถังออกมา ไม่ว่าจะเวอร์ชั่น 2 ประตู หรือเวอร์ชั่น 5 ประตู (4 ประตูแบบแวน) และในปี 1968 Subaru 1000 ให้กำเนิดที่สุดเวอร์ชั่นสปอร์ต ด้วยรุ่น 1000SS ทีมวิศวกรเพิ่มกำลังแรงม้าจาก 55 PS ไปเป็น 67 PS มันมากพอจะทำให้ความเร็วปลายจาก 135 ก.ม./ช.ม.เพิ่มขึ้นถึง 150 ก.ม./ช.ม.
ชื่อเสียง Subaru 1000 ขจรไกลอย่างรวดเร็ว มันคือ Subaru รุ่นแรกที่ถูกขนไปขายในอเมริกา และด้วยการวิศวกรรมันเหนือชั้น ในปี 1969 Subaru 1000 มียอดขายถึง 4,000 คัน อาจไม่ใช่จำนวนมากมายนัก แต่มันคือรถที่มียอดขายรองเพียง Toyota KE 10 และ Nissan B10
ปี 1971 Subaru 1,000 เปลี่ยนไปสู่ตระกูล Subaru Leone และประสบความสำเร็จตลอด 2 ทศวรรษที่ทำตลาดในฐานะรถคอมแพ็คเครื่องยนต์ Boxer สูบนอน และเริ่มมีออพชั่นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อให้เลือกมาเรื่อย แต่เป็น Subaru Leone Station Wagon ที่กลายเป็นรถขัยเคลื่อนสี่ล้อรุ่นแรกของทางซูบารุ โดยทางบริษัทต้องการให้รถคันนี้ถูกใช้งาน เพื่อกิจกรรมวันว่างจึงติดตั้งระบบขับเคลื่อนดังกล่าวเข้ามา
กลายเป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ รุ่นขายดีติดอันดับโลกตามที่คาดไว้ และถือเป็นจุดเริ่มต้นของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบ All-Wheel Drive (AWD) ของซูบารุ รวถึงมันยังสร้างชื่อเสียงให้กับซูบารุในแง่มอเตอร์สปอร์ตในยุคแรกเริ่มด้วย การทำหนเาที่รถแข้ง พา ทีม Subaru Rally Team Japan และNoriyuki Koseki ผู้ก่อตั้ง Subaru Tecnica International หรือ STI เข้าร่วมการแข่งขัน Rally ในช่วงปี 1980-1989
ในช่วงระหว่างนั้นที่โลกยานยนต์ยังไม่รู้จักระบบเกียร์ CVT ทาง ซูบารุได้พัฒนาเกียร์แปรผันอัตราทดต่อเนื่องที่ควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า (ECVT) รุ่นแรกของโลกขึ้นในปี 1984 ระบบส่งกำลังไร้รอยต่อสุดแปลกอาศัยสายพานโลหะแบบพิเศษและพูลเลย์คู่เพื่อช่วยให้รถยนต์สามารถเปลี่ยนระดับความเร็วได้โดยอัตโนมัติตามอัตราทดเกียร์ที่เหมาะสมที่สุดระหว่างการขับขี่ เป็นนวัตกรรมที่เหนือชั้น และเริ่มติดตั้งในรถยนต์ Subaru Justy เป็นรถรุ่นแแรก
หากชื่อเสียงในโลกยุคใหม่ทางด้าานสมรรถนะการขับขี่ กลับถูกสร้างโดยรถยนต์ Subaru Legacy ที่เปิดตัวในปี 1989 ซึ่งผสานรวมเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เข้ากับสมรรถนะการขับขี่ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ และยังโดดเด่นมาจนกระทั่งปัจจุบัน
ช่วงยุค 90 ถือเป็นยุครุ่งเรืองของ Subaru อย่างมาก โดยนอกจาก Subaru Legacy แล้ว ทาง Subaru ยังก้าวไปอีกขั้นในกลุ่มรถคอมแพ็คคาร์ผ่าน Subaru Impreza รถยอดนิยมที่สุดของซูบารุ ที่ถือเป็นต้นกำเนิดสำคัญของรถลายรุ่น
อาทิการสร้าง Subaru Impreza Gravel Express กลายเป็นจุดก่อกำเนิดให้กับ Subaru XV รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดคอมแพ็คที่หลายคนให้ความสนใจในเวลานี้ ส่วนอดีตรุ่นสปอร์ต Subaru Impreza WRX ก็กลายมาเป็นเวอร์ชั่นสปอร์ตเต็มตัว Subaru WRX
ตลอดจน Subaru Legacy กHมีการแตกไลน์อัพใหม่ ออกมาในปี 1994 หลังประสบความสำเร็จในรุ่น Station Wagon แต่กลับพบว่าลูกค้านำพวกมันไปยกสูงแล้วใช้ไว้ลุย จนกลายเป็นจุดกำเนิดรถยนต์ Subaru Outback ที่ได้รับความนิยมในอเมริกา
ปี 1997 Subaru ตัดสินใจตามกระแสรถยนต์อเนกประสงค์ที่เริ่มเด่นชัดมากขึ้นในตลาด พวกเขาพัฒนารถยนต์ Subaru Forester ออกมาเป็นรุ่นแรก เผยโฉมต้นแบบในงาน Tokyo Motor Show 1995 และขายอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1997
ความตั้งใจของทางซูบารุ คือนำรถรุ่นนี้เข้ามาแทนที่ Subaru Gravel Express ที่พัฒนาจาก Subaru Impreza และห้ำหั่นกับคู่แข่งอย่าง Suzuki Grand Vitara,Toyota Rav4 โดยยังใช้การวิศวกรรมจาก Subaru Impreza แต่ปรับร่างให้ใหญ่โตขึ้น จนได้รับความนิยมในปัจจุบัน
การเพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าไม่ใช่อย่างเดียวที่เกิดขึ้นในรถยนต์ Subaru ในยุคนี้ ทางซูบารยังให้ความสำคัญต่อทางด้านความปลอดภัย ด้วยการแนะนำโครงสร้างตัวถังแบบวงแหวน ตลอดจนยังเพิ่มสมรรถนะด้วยระบบการขับขี่ ด้วยโหมดการขับขี ่ S/I Drive
และในช่วงปี 2006 ทาง Subaru เริ่มนำระบบ Subaru Eyesight เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่เข้ามาทำตลาด เป็นระบบช่วยขับขี่รุ่นแรกๆที่เกิดขึ้น และปัจจุบันได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งในระบบที่มีประสิทธิภาพที่สุดจากการวัดผลโดยหน่วยงานความปลอดในประเทศสหรัฐอเมริกา และในปี 2016 ทางซูบารุเปิดตัวโครงสร้างพื้นฐานรถยนต์ใหม่ที่เรียกว่า Subaru Global Platform และเริ่มแนะนำแล้วใน Subaru XV รุ่นใหม่
กว่า 60 ปี การเดินทางของ Subaru แต่ละย่างก้าวมีปัจจัยสำคัญทำให้วาระการพัฒนาต่างกันไป แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงมาเลย คือรถแบรนด์สัญลักษณ์ดาวลูกไก่ ให้ความมั่นใจทุกครั้งที่คุณได้ขับขี่
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com
ติดตามข่าวสารและบทความดีๆ จากพวกเรา Ridebuster.com