Home » Nissan Serena คู่แข่งในไทย เป็นใครบ้าง ?
Bust on talk บทความ

Nissan Serena คู่แข่งในไทย เป็นใครบ้าง ?

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหว ว่าด้วยการเตรียมเปิดตัวของ Nissan Serena ในไทยครั้งแรก ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทำให้หลายคนสนใจไม่น้อย กับรถรุ่นยอดนิยม ของนิสสัน ที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น

Nissan Serena

รถยนต์ในกลุ่ม MPV หรือ Multi Purpose Vehicle 7 ที่นั่ง ถือเป็นอีกหนึ่งตลาดยานยนต์ที่จู่ๆก็กลับมาได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใช้รถยนต์ชาวไทยมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนทำให้เราได้เห็นว่า มีหลายผู้ผลิตพากันขนรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ในกลุ่มนี้เข้ามาร่วมชิงส่วนแบ่งกันมากขึ้นเรื่อยๆ

นิสสัน เซเรน่า จัดเป็นรถที่มีกระแสข่าวมายาวนาน และ จัดอยู่ในกลุ่มรถยนต์ MPV 7 ที่นั่ง ขนาดกลาง แม้ว่า ในช่วงเดือนที่ผ่านมา จะมีการยืนยันจากหลายสื่อ รวมถึงเรา Ridebuster ว่า นิสสัน จะทำการนำตัวรถเจเนอเรชันที่ 5 รหัส C27 จากประเทศมาเลเซีย มาวางจำหน่าย ทั้งที่ในญี่ปุ่นเปิดตัวรุ่นใหม่ C28 มาแล้วปีกว่า และ เพิ่งจะแนะนำในอินโดนีเซีย

จนทำให้ มันทีที่ข่าสออกไป โซเชี่ยล ต่างพูดไปในทิศทางเดียวกัน ในมุมมองของแต่ละคัน ในเชิง ต่างๆ นานา โดยเฉพาะ ว่า อย่างนี้ไม่รอดแน่ ยิ่งยุคนี้มีรถจีนทำตลาด เซเรน่า จะมีคนซื้อจริงหรือไม่

ก่อนอื่น เพื่อนๆ ต้องเข้าใจก่อนว่า MPV อาจจะมีรถยนต์หลายรุ่นขายในไทยมานาน แต่รถอย่าง Nissan Serena หากคุยกันว่า วางขาย โดยผู้ผลิตโดยตรง นี่น่าจะเรียกว่า เป็นครั้งแรก ที่ รถ MPV หลังคาสูง พื้นต่ำ เข้ามาวางจำหน่ายในไทย

ก่อนหน้านี้ 10 กว่ปาีก่อน อาจจะเคย มี ฮอนด้า ฟรีด เข้ามา จนกลายเป้นที่นิยมชาวไทย มาจนยุคนี้ มือสอง ก็ยังมีคนเสาะหา ราคาดี

และด้วยข้อมูลที่หลุด ราคาวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ที่คาดว่าจะอยู่ในช่วงไม่เกิน 1.5 ล้าน จึงทำให้หลายคนเริ่มสงสัยว่าแล้วคู่แข่งของเจ้า Serena จะเป็นใครได้บ้าง ? ซึ่งหากว่ากันตามตรง ตอนนี้ที่สามารถพอเทียบกันได้ใกล้เคียงที่สุด ก็มีแค่เพียง Toyota Innova Zenix เท่านั้น

Toyota Innova Zenix คือรถ MPV 7 ที่นั่ง ทาง Toyota ได้วางให้มันมีตำแหน่งกึ่งกลางระหว่าง Toyota Veloz และ Toyota Alphard โดยมีราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 1,379,000 – 1,479,000 บาท เป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับราคาข่าวลือของ Nissan Serena ที่จะถูกนำเข้ามาขายในไทยเร็วๆนี้

จุดขายของ Innova Zenix คือขนาดตัวรถภายนอก ซึ่งไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไปสำหรับการใช้งานเดินทางไกล และใช้งานในเมือง และยังให้ความโอ่โถงภายในห้องโดยสาร ซึ่งอยู่ในระดับที่กำลังพอดีกับการใช้งานสำหรับครอบครัวขนาดกลาง ตัวรถมาพร้อมเบาะนั่งแยก หรือ กัปตันซีท แตกต่างเพียง มันไม่ใช่ ประตู สไลด์ไฟฟ้า

ไม่เพียงเท่านั้น นอกจากเรื่องของออพชันที่ให้มาค่อนข้างคุ้มค่า ขุมกำลังของมัน ที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ในรูปแบบ Full Hybrid ยังสามารถมอบอัตราสิ้นเปลืองที่น่าประทับใจทั้งตามเคลม และตามการใช้งานจริง จนทำให้มันสามารถสร้างกระแสตอบรับที่ดีในหมู่ผู้ใช้ไปได้พอสมควรนับตั้งแต่ที่มันได้ถูกวางจำหน่าย

Nissan Serena

อย่างไรก็ดี แม้ราคาจะมีแนวโน้มใกล้เคียงกัน แถมยังถูกวางตำแหน่งการตลาดเป็นรถ MPV ขนาดกลางเหมือนกัน แต่ Toyota Innova Zenix ไม่สามารถนำมาเทียบกับ Nissan Serena ได้โดยตรง

เพราะหากเรามองกันให้ดี ก็จะพบว่าด้วยโครงสร้างตัวรถของ Innova ยังคงมีความเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ หรือ ครอสโอเวอร์ ที่ถูกนำมาปรับปรุงและออกแบบให้กลายเป็นรถ MPV 7 ที่นั่ง แล้วใส่เบาะแถวกลางเป็นเบาะแบบ Captain Seat เท่านั้น

และที่สำคัญที่สุด คือมันยังขาดออพชันที่รถ MPV ควรมีเพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้โดยสารในเบาะแถว 2 และ 3 ได้แก่ ประตูคู่หลังแบบบานสไลด์ไฟฟ้า แบบที่ Serena มี ทั้งที่เป็นลูกเล่นสำคัญที่หลายครอบครัวต้องการ ตลอดจนตัวรถ ยังเป็นทรงสไตล์ มินิแวน ไม่ใช่ รถตู้ทรงสูง แบบที่นิยมในญี่ปุ่น ซึ่งทาง โตโยต้า มีรถสไตล์เดียวกัน นั่นคือ Toyota Voxy เคยตกเป็นข่าวว่า ทางโตโยต้า พิจารณา จะนำเข้ามาขายเหมือนกัน

เนื่องจากทางบริษัท ผลิต และจำหน่ายรถรุ่นนี้ ในอินโดนีเซีย แต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ตัวรถ Serena ยังมาพร้อมกับลักษณะตัวถัง ที่ให้แนวหลังคาก็สูงกว่า ในขณะที่พื้นห้องโดยสารก็ยังต่ำกว่า ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารสามารถเข้า-ออกจากรถได้ง่ายกว่ามาก โดยเฉพาะกับเหล่าผู้สูงวัย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวขนาดกลางที่มองข้ามไม่ได้

ดังนั้นแม้หากอ้างอิงจากราคา และตำแหน่งทางการตลาด Toyota Innova Zenix อาจดูเหมือนเป็นคู่แข่งกับ Nissan Serena ที่เหมาะสมที่สุด แต่ท้ายที่สุด Innova ก็ยังขาดออพชันสำคัญ ที่ครอบครัวขนาดกลาง ชนชั้นกลางในหลายบ้านต้องการ

อย่างไร ก็ดี ถ้ากวาดตาไปยังในหมู่รถยนต์จากผู้ผลิตชาวจีน เราจะพบว่า มี Maxus 7 รถยนต์ MPV ไฟฟ้า ในทรงเดียวกันนี้ วางจำหน่ายอยู่ใน ราคาสูงกว่ากลุ่มนี้ จบอยู่ที่ในราคา 1,769,000 บาท วางตลาดในฐานะ น้องชาย Maxus 9

ตัวรถมีคุณสมบัติ คล้าย นิสสัน เซเรน่า ทุกอย่าง แต่ที่เราไม่ได้พูดถึงในบทความนี้ ก็สืบเนื่องมาจาก ราคาจำหน่าย ที่สูงกว่า ช่วงราคาคาดการณ์ แต่อาจจะเป็นบรรทัดฐานให้รุ่นใหม่ ที่อาจจะวางจำหน่ายในอนาคต ถ้ามีการนำรุ่น รหัส C28 เข้ามาในอนาคต ซึ่งอาจจะไม่สามารถ ทำราคาสูงกว่า ช่วงราคาดังกล่าวได้

นั่นจึงทำให้ในอีกมุมหนึ่ง ตัวรถรหัส C27 ที่แม้มันอาจจะเป็นรุ่นเก่าที่มีอายุตัวถังนานพอสมควร แถมในอนาคตไม่นาน อาจจะถูกแทนที่ด้วยรุ่นใหม่ ซึ่งอาจจะอยู่ในระหว่างดำเนินการเตรียมการผลิตในมาเลเซีย

แต่มันก็ยังคงเป็นรถ MPV 7 ที่นั่งเพียงหนึ่งเดียว ที่มาพร้อมกับออพชันเฉพาะตัวที่หาจากรถคันราคาไม่เกิน 1.5 ล้าน อื่นไม่ได้ ทำให้ลูกค้าที่มองหาออพชันนี้จริงๆมานาน ต้องหันมาเลือกซื้อมันอยู่ดีโดยไร้คู่แข่งในท้ายที่สุดนั่นเอง

โดยเฉพาะ เรื่องสำคัญที่สุดคือ รถแบบนี้ ที่ขายโดยผู้ผลิตอย่างเป็นทางการนั้น นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในประเทศไทย หลังจาก ที่ผู้นำเข้าอิสระนำมาขายในตลอดหลายปีที่ผ่านมา

เท่ากับว่า เหตุผลที่ทาง Nissan ตั้งใจเอาตัวรถ Serena รุ่นเก่า มาขาย ก็คือเพื่อเรียกกระแสความต้องการรถยนต์ MPV สำหรับครอบครัวขนาดกลาง ชนชั้นกลาง ที่กำลังร้อนแรงนี้เอาไว้ก่อน

อย่างน้อยก็เพื่อรอเวลา และเป็นการบอกกล่าวให้ชาวไทยได้รู้จักกับ “Nissan Serena” กันตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่รุ่นใหม่ของมันจะถูกนำเข้ามาเสริมตลาดในปีหน้า หรือ อาจจะนานกว่านั้น ซึ่งมีความเสี่ยงที่ตลาดอาจจะวายไปแล้ว

การตัดสินใจของนิสสัน อาจจะดูแปลก และไม่ถูกใจสาวกชาวไทย แต่ นั่นก้น่าจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้วในเวลานี้

แสดงความคิดเห็นได้ที่นี่

Comments are closed.