หลังปล่อยให้ Honda ทำขาย Civic Type R รหัส FL5 ไปได้พักใหญ่ ในที่สุดก็ถึงเวลาสักที ที่แบรนด์คู่บุญอย่าง Mugen จะเปิดตัวของแต่งเสริมสมรรถนะด้านหลักอากาศพลศาสตร์ หรือ Aeropart ภายใต้ชื่อเซ็ทว่า “Group-A” มาให้กับเจ้าฮอชแฮชท์ตัวล่าสุดคันนี้บ้าง
หากพูดถึงหน้าตาของชุดแต่ง “Group-A” สำหรับ Honda Civic Type R FL5 ที่ทาง Mugen เปิดตัวออกมา แท้จริงแล้วมันอาจดูคุ้นหน้ากันอยู่นิดๆ เพราะทางค่ายได้เคยจัดแสดงต้นแบบของชุดแต่งเหล่านี้ ซึ่งสร้างขึ้นจากวัสดุงานคาร์บอนไฟเบอร์ไล่เบาแทบทุกชิ้น มาแล้วครั้งหนึ่ง ในงาน Tokyo Auto Salon เมื่อปี 2023
แต่เมื่อถึงเวลาขายจริง เพื่อไม่ให้ชิ้นส่วนเหล่านั้นมีราคาสูงมากจนเกินไป พวกเขาจึงปรับมาใช้วัสดุจำพวกพลาสติก ABS ในบางจุด เพื่อให้สอดรับกับการใช้งานบนถนนจริง สามารถซ่อมแซมได้ง่าย รวมถึงเบาเงินกระเป๋าสตางค์ของลูกค้าได้ดีกว่าแทน
ส่วนจุดขายของชุดแต่ง Mugen ครั้งนี้ หลักๆแล้วจะเน้นไปที่การเสริมแรงกดอากาศให้กับตัวรถที่มากขึ้นกว่าเดิม เพื่อเพิ่มแรงยึดเกาะกับผิวถนนของตัวรถในการใช้งานช่วงความเร็วสูง ซึ่งทางแบรนด์ก็ระบุว่ามันจะช่วยเพิ่มแรงกดอากาศได้มากกว่าเดิมถึง 25% กันเลยทีเดียว
และจุดสำคัญ ที่ทำให้ชุดแต่งนี้สามารถสร้างแรงกดได้มากขึ้นจากเดิมพอสมควร ก็แน่นอนว่าจะต้องเริ่มด้วยชิ้นสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ งานคาร์บอนไฟเบอร์ และสูงจนอยู่ในระนาบเดียวกับหลังคา แต่ยังสามารถปรับตำแหน่งการเอียงได้ตามความเหมาะสม ซึ่งถูกติดตั้งเข้ามาแทนสปอยเลอร์หลังชิ้นจิ๋วของเดิม และเจ้าของแต่งชิ้นนี้ ก็มีราคาแพงที่สุดในชุดด้วยตัวเลข 308,000 เยน หรือราวๆ 73,000 บาท โดยจะพร้อมวางขายจริงในช่วงเดือนกรกฏาคมนี้
ถัดมาคือชุดชายล่างกันชนหน้าขนาดใหญ่ ซึ่งมีหน้าที่รีดลมไม่ให้เข้าสู่ใต้ท้องรถมากเกินไป และในขณะเดียวกัน ก็ช่วยในเรื่องของการเสริมแรงกดได้ด้วย ซึ่งลูกค้าจะเลือกเป็นชิ้นงานสีดำ Berlina Black ออกมาจากโรงงาน ด้วยราคา 110,000 เยน หรือราวๆ 26,000 บาท หรือจะเลือกเป็นงานดิบ ราคา 99,000 เยน หรือราวๆ 23,500 บาท ก็ได้
และทั้งนี้ทาง Mugen ก็ยังระบุเสริมอีกว่า ลูกค้าควรซื้อชุดชายล่าง และสปอยเลอร์หลังไปคู่กัน เพื่อให้แรงกดด้านหน้าและด้านหลังรถมีความสมดุล ไม่เช่นนั้น รถอาจจะมีอาการหน้าทิ่ม หรือท้ายห้อยได้ หากติดตั้งแค่เพียงชิ้นส่วนใดชิ้นส่วนหนึ่ง
นอกนั้นก็จะมีการเสริมหล่ออีกนิด ด้วยชิ้นส่วนกรอบช่องดักลมหน้า ราคา 77,000 เยน หรือราวๆ 18,300 บาท และยังมีชุดครีบกันชนท้าย ซ้าย-ขวา ราคา 99,000 เยน หรือราวๆ 23,500 บาท และหากเป็นงานดิบ ให้ลูกค้าเอาไปทำสีเอง ก็จะสนนราคา 80,000 เยน หรือราวๆ 19,000 บาท
อีกชิ้นสเกิร์ตข้าง ราคา 132,000 เยน หรือราวๆ 31,300 บาท เมื่อเป็นชิ้นงานทำสีเสร็จสรรพ และจะขายในราคา 121,000 เยน หรือราวๆ 28,700 บาท หากเป็นงานดิบ ก็จะครบเซทเปลือกนอกรอบคัน ที่ช่วยสร้างแรงกดให้กับตัวรถได้มากขึ้นกว่าเดิมอีก 25% ดังที่เราเกริ่นไว้ในข้างต้น
ส่วนที่เห็นชุดท้ายตรงกลาง เป็นปลายท่อออกรูเดียว จากที่ควรจะเป็น 3 รู จริงๆแล้วเป็นเซ็ทท่อไอเสียพร้อมแผ่นปิดที่ Mugen ยังไม่มีการประกาศราคาออกมา เช่นเดียวกับชุดโคมไฟท้าย ที่ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาเช่นกัน
แต่หากคุณรู้สึกว่า นั่นยังหล่อไม่พอทาง Mugen ยังได้มีการเปิดตัวชุดล้ออัลลอยด์ฟอร์จใหม่ ที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมาร่วมกันกับทาง BBS ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจ หากจะพบว่าลวดลายของมันมีความใกล้เคียงกับล้อเดิม แถมยังให้ขนาดเท่าเดิม คือขนาด 19×9.5J แต่เบาลงกว่าเดิมถึง 10 กิโลกรัม เมื่อใส่ครบทั้ง 4 ล้อ และสนนราคาที่วงละ 176,000 เยน หรือราวๆ 41,700 บาท
นอกเหนือจากชุดแต่ง Aeropart “Group-A” อันที่จริงทาง Mugen ยังได้มีการเปิดตัวชิ้นส่วนตกแต่งภายในห้องโดยสารใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นชิ้นครอบคอนโซลกลางงานคาร์บอนไฟเบอร์ ราคา 71,500 เยน หรือราวๆ 17,000 บาท ตามด้วยหัวเกียร์หนังอัลคันทาร่า ราคา 22,000 เยน หรือราวๆ 5,200 บาท และ เบาะนั่งที่พัฒนาร่วมกันกับ Recaro ซึ่งมีราคาคู่ละ 297,000 เยน หรือราวๆ 70,400 บาท
ทั้งนี้ ราคาที่ไล่เรียงมา เป็นราคาสำหรับการวางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น ยังไม่รวมค่าภาษี และค่าขนส่งมายังประเทศไทย สำหรับใครที่สนใจ อยากเก็บสะสมชิ้นส่วนเหล่านี้ ก็ลองเช็คข้อมูลกันที่เว็บไซต์ Mugen กันได้เลยครับ